เงื่อนไข “ยุบ-ไม่ยุบ” สภา – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

นักข่าวถามนายกฯ เมื่อวาน (๓ กพ.๖๕)………
“เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กับเลือกตั้งใหญ่ สนามไหนจะเกิดขึ้นก่อนกัน?”
นายกฯ ตอบ ว่า
“เลือกตั้งใหญ่ ก็ต้องรอดูกฎหมายลูก ดูสถานการณ์การเมืองต่างๆ เป็นส่วนประกอบ
ส่วนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก็เคยบอกไปนานแล้วว่าเดือน พ.ค.และเป็นเรื่องของการเตรียมงานของมหาดไทยและกกต. หากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือเกิดขึ้นโดยไม่คาดหมาย ก็เป็นไปตามนั้น”

และยังย้ำว่า……….
“กฎหมายลูกก็ไม่มีข้อกังวลอะไร หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นก็แล้วกัน ก็จะเดินไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เท่าเดิม”
ก็เป็น “คำตอบใหม่” น่าสนใจ

จากเดิมที่ย้ำตลอด “ไม่ยุบ-ไม่ปรับ-ไม่ออก” มาเป็น “ไม่ยุบ-ไม่ปรับ-ไม่ออก” แบบ “มีเงื่อนไข”!

“อย่าทำให้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นก็แล้วกัน ก็จะเดินไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เท่าเดิม”

แสดงว่าการเมือง “ซีกรัฐบาล “ถึงจุด” ยากวางใจ” ในปริมาณมือสส.ที่กำหนดเป็น “ตรายาง” ประทับรับรองความ “ใช่-ไม่ใช่” ในระบบรัฐสภา

“เป้าหมายเดิม” ของนายกฯ คืออะไร?
คือ เลือกผู้ว่าฯ กทม.เดือนพค.ก่อน

ส่วนเลือกตั้งใหญ่ รอให้กฎหมายลูก ๒ ฉบับผ่านรัฐสภาและประกาศใช้ราวๆ เดือนกรกฏา.ก่อน
รวมทั้งกฎหมายสำคัญๆ เช่นพรบ.งบประมาณ ปี ๖๖ เรียบร้อย ประชุม APEC ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเดือนพฤศจิกา. เรียบร้อย

นั่นแหละ……
ถึงตอนนั้น อยากยุบ “ยุบเลย” ไปเลือกตั้งใหญ่กันต้นปี ๖๖!

แต่ดูเหมือนตอนนี้ ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ริกๆ อยากให้ยุบ แล้วไปเลือกตั้งใหญ่กัน เมษา-พฤษภา.นี้เลย
กฎหมายลูกยังไม่ออก ยุบได้ไง?

ก็ให้รัฐบาลออกเป็น “พรก.” เลยซี แล้วส่งเข้าสภา ให้สส.ยกตีน..เอ้ย..ขอโทษ ยกมือรับรองให้เป็น “พรบ.” ไปเลย
นั่น…ฝ่ายค้านบางคนเสนอขนาดนั้น

ทั้งที่สภาเปิดอยู่ทนโท่ ก็ไม่สนถูก-ผิดทั้งนั้น เมื่อพวกกูอยากได้ รัฐบาลต้อง “หักดิบ” ประชาธิปไตยให้ ตามใจพวกกู
เพราะอดอยากปากแห้งมา ๗ ปี อยากแลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลเต็มแก่แล้วโว้ย ประมาณนั้น!

ในซีกรัฐบาล “พรรคร่วม” ครั้งนี้ เขามีมรรยาทน่ารักนะ
เห็นพลังประชารัฐ “พรรคแกน” กลายเป็น “แกนสับปะรด”

ลุงป้อมเล่นบท “อุลตร้าแมนแปลงร่าง” ให้พลเอกวิชญ์ ไปตั้งพรรคใหม่รอท่า
แล้วขับ ๒๑ สส. “แก๊งธรรมนัส” เป็นโอปปาติกะสส.เข้าสิง เรียกว่า “พรรคเศรษฐกิจไทย” เกิดปุ๊บ มี ๒๑ เทพ สิงสถิตปั๊บ!

เมื่อวาน (๓ กพ.) พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่ลุงป้อมตั้งเป็น “ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ” ปีก่อน
ยื่นหนังสือลาออก …..

ไปเป็น “หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย” ให้ ๒๑ โอปปาติกะสส.เรียบร้อย!
ลุงป้อมนี่ “ขมังเวทย์” จริงๆ เห็นป้อแป้-เปาะแปะงั้นเถอะ

แวบเดียว….
อั๊บดุล “แยกร่าง-แตกพรรค” ชนิด น้องกลาง-น้องเล็ก ตาค้าง อ้าปากหวอ!

เอากันเห็นๆ จะๆ อย่างนี้แหละ เมื่อเกิดพรรคใหม่ ๒๑ เสียง นายกฯ จะว่าไง นายกฯ ก็ต้องบอกตามมรรยาทผู้ใหญ่ว่า “เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันอยู่แล้ว”

แต่พรรคเศรษฐกิจไทย ธรรมนัส ก็ไม่เห็นเขาพูดอะไรตรงๆ แบบนั้น มีแต่ที่พูดกันว่า ต่อรองขอ ๒ เก้าอี้ นายกฯ บอกไม่เห็นมีใครมาขอ-มาต่อรองอะไร

ตรงกับที่ธรรมนัสพูดเมื่องวาน ว่า…….
“สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งผมและอาจารย์แหม่ม (นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) รวมถึงพล.อ.วิชญ์ หารือกัน
คาดว่าทุกอย่างลงตัวไม่มีปัญหา ผมจึงขอลาไปพักผ่อนที่ยุโรป

นั้นถือเป็นการคาดเดาที่ไม่มีมูลความจริง เพราะไม่เคยมีการพูดคุยแบบนั้น และก็ไม่เคยมีแนวคิดเรื่องการต่อรองเก้าอี้ใด ๆ ทั้งสิ้น….”

“พลังประชารัฐ” ก็บิ๊กป้อม “เศรษฐกิจไทย” ก็บิ๊กป้อม ตีขลุมว่าเป็น “คนละพรรคเดียวกัน” ก็แล้วกัน
ส่วนจะเป็น-ไม่เป็น ไปดูกันตอนมีการโหวตนัด “ชี้เป็น-ชี้ตาย” ในสภา ว่า ๒๑ เทพโอปปาติกะ จะชูนิ้วโป้งหรือคว่ำนิ้วโป้งให้นายกฯ!?

ธรรมนัสพูดเป็นปริศนานะ
“ทั้งผมและอาจารย์แหม่ม (นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) รวมถึงพล.อ.วิชญ์ หารือกัน”

หมายความว่า เรื่องแยกไปตั้งพรรคใหม่ นอกจากพลเอกวิชญ์แล้ว ธรรมนัสยังปรึกษาหารือกับอาจารย์แหม่มมาตลอดด้วย

แล้วแบบนี้ อาจารย์แหม่มจะอยู่หรือจะไป หรือ ๑ ร่าง ๒ พรรค?
ก็เป็นปริศนาเล็กๆ ที่สังคมคงไม่สนใจเท่าไรนักหรอก

พูดถึงประการประชุมสภา ระยะหลังๆ ประชุมนัดไหน เป็นคว่ำนัดนั้น แล้วฝ่ายค้านก็นำมาโหมโรง
“ยุบสภา..ยุบสภา” สส.รัฐบาลไม่มาประชุม!

เพื่อไทยโพนทนา “สภาล่ม” เพราะฝ่ายรัฐบาล ๑๕ ครั้งแล้ว
เป็นการสร้างบรรยากาศ “รัฐบาลง่อนแง่น” ให้ชาวบ้านที่รู้ไม่ทันกลเกมการเมืองฝ่ายค้าน หลงเข้าใจว่า “รัฐบาลท่าจะไม่รอด”

โหวตคว่ำวันไหน ก็คว่ำวันนั้น เพราะกระร่อย-กระหริบเต็มทน!
แต่คนที่เข้าใจลีลา “ขากถุย” สไตล์ “เด็กเลี้ยงแกะ” บอกสภาล่ม ๑๕ ครั้ง “องค์ประชุมไม่ครบ”
นั่นใช่..ล่ม

แต่ไม่ใช่ล่มเพราะสส.ซีกรัฐบาล “ไม่มาประชุม”
คือสส.ที่มีอยู่ทั้งหมดตอนนี้ ๔๗๓ คน กึ่งหนึ่งที่จะครบองค์ประชุม คือ ๒๓๘ คน
สส.ซีกรัฐบาลมี ๒๖๕ ซีกค้าน ๒๐๘

แต่ที่ว่า “สภาล่ม” แต่ละครั้ง ก็มีสส.อยู่ที่ประชุมกว่า ๒๐๐ คนแทบทุกครั้ง จะขาดกึ่งหนึ่งคือ ๒๓๘ ไม่เกิน ๑๐ คน หรือกว่าบ้างในบางครั้ง

นั่นแสดงว่ากว่า ๒๐๐ คนในสภา เป็นสส.ซีกรัฐบาลล้วน
คำถามคือ แล้วสส.ซีกค้าน หายหัวไปไหนหมด จึงไม่มาประชุม?

จริงอยู่ เป็นความรับผิดชอบฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องทำให้องค์ประชุมครบ
แต่ถามว่า ในความเป็นหน้าที่ของสส. สส.ฝ่ายค้านก็ต้องเข้าประชุมใช่ไหม ไม่ใช่สส.รัฐบาลกินเงินเดือนฝ่ายเดียว ฝ่ายค้านก็กินเงินเดือนประชาชนด้วยเหมือนกัน จริงไหม?

อย่างล่าสุด ประชุม ๒ กพ.
สภาล่มครั้งที่ ๑๕ เท่าที่ฟัง มีสส.ประชุม ๒๓๔ คน ขาดกึ่งหนึ่ง “คือ ๒๓๘ คน” ไปแค่ ๔ เสียง
หมายความว่า “ฝ่ายค้าน” ๒๐๘ คน ไม่มาประชุมกันเลยใช่มั้ยนี่ ถ้ามาประชุมซัก ๔ คน สภาก็จะไม่ล่ม จริงมั้ย?

ด้วยเลขศาสตร์การเมืองนี้ คำตอบคือ
“สภาล่ม” ทั้ง ๑๕ ครั้ง เพราะฝ่ายค้านนั่นแหละ ไม่มาทำหน้าที่ของสส.ในสภา!

ถ้าบอกว่า มา….
แต่คอยเล่นเกม พอจะนับองค์ประชุม เห็นซีกรัฐบาลน้อย ก็พากันตบเท้าออกจากห้องประชุม
หรืออยู่ในห้อง แต่ไม่แสดงตน เพื่อให้ “สภาล่ม” จะได้เอาไปขย่มในเกม “ยุบสภา-ไล่นายกฯ” ทางสังคมข่าวสาร
ทำได้ แต่ถามว่า ด้วยจิตสำนึก มันใช่มั้ย?

ถ้าแน่จริง วันโหวตกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ๒ ฉบับ ฝ่ายค้านตบเท้าออกจากห้องประชุม ทำให้สภาล่มซี
หรือไม่ก็ “โหวตคว่ำ” ให้เห็นซิ

แบบนั้น จะยกหัวแม่มือ-แม่ตีนให้เลย ถ้าแน่จริงขนาดนั้น!

เพราะเหตุเหล่านี้แหละ…..
ระหว่างเลือกผู้ว่าฯ กทม.กับเลือกตั้งใหญ่ จึงเกิดเงื่อนไขขึ้นในประเด็นว่า “อย่างไหนจะเกิดก่อนกัน” ตามนัยนายกฯตอบเมื่อวาน ที่ว่า

“กฎหมายลูกก็ไม่มีข้อกังวลอะไร หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นก็แล้วกัน ก็จะเดินไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เท่าเดิม”

ถ้าสภาล่มเพราะ “เล่นเกม” อย่างนี้ ๒๘ กุมภา.ก็ปิดสมัยประชุมแล้ว
ฉะนั้น อย่าเปิด “สมัยวิสามัญ” เพื่อเร่งเอากฎหมายลูกไปเลือกตั้งกันเลย!

เปลืองแอร์-เปลืองไฟ เปลืองแรงเจ้าหน้าที่เช็ดขี้ตีนสส.เปล่าๆ เปิดเพื่อ “เล่นเกมล่ม” จะเปิดหาพระแสงอะไร?

ฉะนั้น ตอนนี้ ให้สภาล่ม “ทุกนัด” ได้นั่นแหละประหยัดดี ทั้งไม่ต้องได้ยินเสียง ไม่ต้องเห็นหน้าพวกสส.ทางโทรทัศน์
ชาวบ้านจะได้ “มีความสุข” กันบ้าง!



Written By
More from plew
คำให้การคนหนีเที่ยว – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน เหมือนคน “หนีเที่ยว” นานๆ….. พอกลับเข้าบ้าน มีอาการหวาดๆ เขินๆ ผู้ปกครอง ซึ่งผมก็ทำนองนั้น! ท่านก็ วานอย่าขึ้งโกรธผมเลยครับ!...
Read More
0 replies on “เงื่อนไข “ยุบ-ไม่ยุบ” สภา – เปลว สีเงิน”