8 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า
รัฐบาลต้องเตรียมระบบสาธารณสุขให้พร้อมเพื่อไม่ให้มีคนไทยตายข้างถนนหรือตายคาบ้านอีกว่า ยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำไปหมดแล้ว เพราะเป็นไปตามที่ ศบค.คาดการณ์ไว้
หากนายพิธาอ่านข่าวสารรอบด้านบ้างก็จะรู้ โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เตียง ยา และเวชภัณฑ์ ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการรุนแรง หรือจัดอยู่ในผู้ป่วยระดับสีเขียว สามารถเข้ารับการรักษาในระบบ Home Isolation
ส่วนผู้ที่ไม่สามารถดูแลที่บ้านได้ จะเป็นการดูแลในระบบชุมชน (Community Isolation) ซึ่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อ สปสช. เพื่อเข้ารับการรักษาได้
ส่วนกรณีที่นายพิธาระบุว่า หวังว่าการลงทะเบียนฉีดวัคซีนเด็ก 5-11 ปีที่กำลังดำเนินการอยู่ และ vaccine roll-out ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ จะดำเนินการอย่างรวดเร็วและไม่ถูกใช้เป็นเงื่อนไขในการกีดกันการเข้าถึงการเรียนรู้ของเด็กในโรงเรียน หรือเป็นมาตรการบังคับนั้น
นายธนกรกล่าวว่า คาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยการฉีดนั้นจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการสำรวจความสมัครใจ โดยสถานที่ฉีดจะใช้โรงเรียนเป็นจุดฉีดหลักร่วมกับจุดฉีดที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ ในปี 65 รัฐบาลเตรียมจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส เพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน รวมถึงฉีดให้กับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีด้วย นอกจากนี้ ยังให้เตรียมความพร้อมทั้งเตียง ยา วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มเด็กให้มากที่สุดหากเกิดกรณีมีการติดเชื้อจำนวนมากอีกด้วย
“ยืนยันว่ารัฐบาลเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้าตามมาตรการของ ศบค. ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อในขณะนี้เป็นไปตามที่ ศบค. คาดการณ์ไว้ ที่สำคัญ ท่านนายกฯ ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมทรัพยากรสาธารณสุขไว้ล่วงหน้าด้วย ขณะที่การฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 5-11 ปี คาดว่าจะเริ่มในเดือน ก.พ. ดังนั้น ไม่อยากให้นายพิธาทำตัวเหมือนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ด้อยค่าวัคซีน แต่กลับรีบไปฉีดก่อนเพื่อน” นายธนกร กล่าว