ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว สิ้นปีนี้ไม่มีร้อยล้านโดสฉีดให้ประชาชน”
ใครที่พูดประโยคนี้ไว้ในคลับเฮ้าส์เมื่อกลางปี ช่วยกรุณาแจ้งด้วยว่าจะให้เอา “ขี้หมา” ไปให้ที่ไหน จะสาดใส่หน้าในจอก็เกรงโดนคนที่บอก “เห็นด้วยครับนาย” จะพลอยเหม็นไปอีกราย..
หรือจะให้เอาไปวางไว้ที่หน้าตึกทำการพรรคก็ได้ เผื่อลูกสาวจะรับไปส่งต่อให้ถึงแดนไกล!
ไม่ใช่ไร..เห็นข่าวที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงาน ตอนนี้พบว่าตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 100 ล้านโดส ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศ..
“รัฐบาลมีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในปี 2564” เรียบร้อยแล้ว!
ก็..เลยอยากเตือนคนที่พูดเกรงจะลืม แต่ถ้าออกมาขอโทษหรือยืนยัน ว่าตอนนั้นใช้ “ตูดพูด” ก็อโหสิ แล้วไป!
แต่ท่านนี้พูดกับปาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เผยว่า.. “จากการที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) คัดเลือกเพลงที่มีความหมาย..
รณรงค์ให้เกิดความรัก ความสามัคคีและความรักชาติ นำมาปรับปรุงเพื่อให้เข้าถึงเยาวชนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
ล่าสุด จากการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำบทเพลงส่งเสริมสังคมไทยในคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
ประกอบด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นที่ปรึกษาอนุกรรมการ นายชัยพล สุขเอี่ยม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานอนุกรรมการ
ส่วนอนุกรรมการมีผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์ กรมดุริยางค์ทหารบก กองดุริยางค์ทหารเรือ กองดุริยางค์ทหารอากาศ สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กองเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม
ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินรางวัลศิลปาธร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีไทย ดนตรีร่วมสมัย และดนตรีสากล อาทิ นายประยงค์ ชื่นเย็น นายวิรัช อยู่ถาวร นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
เรือตรีไพศาล ลุนเผ่ นายนคร ถนอมทรัพย์ นางอติพร เสนะวงศ์ นางศรีสุภางค์ อินทร์ไทร ศ.ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร นายสถาพร นิยมทอง เป็นต้น”
ครับ..นี่น่าจะเป็นผลพวงมาจากการนำเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” ของวงดนตรีสุนทราภรณ์ที่แต่งเนื้อร้องโดย “ครูแก้ว” แก้ว อัจฉริยกุล และทำนองโดย “ครูเอื้อ” เอื้อ สุนทรสนาน..
ซึ่งเป็นบทเพลงแนวปลุกใจ เมื่อปีพ.ศ.2488 และกลับมาได้ยิน-ได้ฟังอีกครั้งสำหรับคนรุ่นเก่า ไปพร้อมๆกับการได้รู้จักของคนรุ่นใหม่ หลังจากที่นักร้อง นักดนตรี โปรดิวเซอร์..
ได้ร่วมแรงร่วมใจ นำเพลงนี้มาเรียบเรียงดนตรี-ขับร้องใหม่ถึง 4 เวอร์ชั่น และทำให้เกิดกระแสรักชาติ รักความเป็นไทย ภูมิใจในบ้านเกิดเมืองนอนตามมา!
และการที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมคัดเลือกเพลงที่มีความหมายรณรงค์ให้เกิดความรัก ความสามัคคีและความรักชาติ นำมาปรับปรุงเพื่อให้เข้าถึงเยาวชนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
จึงถือเป็นการ “ต่อยอด” จากบ้านเกิดเมืองนอน หรือถ้าจะพูดว่าเป็นการ “ตีเหล็กขณะร้อน” ก็เห็นจะไม่ผิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและควรที่จะได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากทุกฝ่าย
แต่เห็นรายชื่ออนุกรรมการฯ แล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ ทำไมถึงมีแต่ “คนเก่า-คนแก่” คนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง หรืออย่างคุณดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค ที่เป็นโปรดิวเซอร์บ้านเกิดเมืองนอนเวอร์ชั่นใหม่..
ทำไมไม่เชิญไปร่วมคัดเลือกด้วย..หือ?
อย่าลืมสิว่า เพลงบ้านเกิดเมืองนอน ที่นอนหลับสนิทไปหลายทศวรรษ และลุกตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ด้วย “ไอเดียบรรเจิด” ของโปรดิวเซอร์ท่านนี้กับเพื่อนพ้องน้องพี่-คนดนตรีมิใช่รึ?
คัดเลือกเพลงน่ะมันไม่ยาก แต่จะหยิบเพลงไหนขึ้นมาสร้างกระแสให้โดนใจคนรุ่นใหม่ ให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความรักชาติ..
ให้คนรุ่นใกล้เคียงเขาเลือกเฟ้นกันไม่ดีกว่าหรือ?
