เปลว สีเงิน
ใครเป็นเหมือนผมบ้างก็ไม่รู้นะ?
อ่านภาษา “ทางราชการ” ไม่ค่อยแตก ต้องอ่านหลายๆ รอบแล้วพยายามทำความเข้าใจ เพื่อจับประเด็นว่าที่ทางการเขาสั่งมาว่า นั้น คืออะไร?
บางทีก็สงสัย….
ว่าผมอ่านหนังสือไม่แตก หรือคนเขียนหนังสือราชการทั้ง “ภาษาไม่แตก” และทั้งเรียงความเพื่อการสื่อสารไม่เป็น?
บางที “ใช้คำ-ใช้ศัพท์” สื่อสารไม่ตรงความ มองเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่มันไปคนละเรื่องกันเลย
อย่างเอกสารข่าว “กองบัญชาการตำรวจนครบาล” เมื่อวาน สืบเนื่องข่าวตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์นำหน้ารถ VIP วิ่งสวนเลน
ทางบังคับการตำรวจนครบาล ๕ สั่งย้ายนายตำรวจคนนั้นจากท้องที่ทองหล่อ ในระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ตอนหนึ่งในเอกสารข่าวมีว่า ……
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่คลิป รถจักรยานยนต์ตำรวจจราจรนำขบวนรถ VIP ที่กระจังหน้ามีสติ๊กเกอร์ คำว่า “THONGLOR POLICE” ด้านข้างรถ ติด 061 โดยมีชายแต่งกายชุดตำรวจ ยศ
“พ.ต.ท.” เป็นผู้ขับขี่………
การใช้คำว่า “นำขบวนรถ” นั้น …..
ผมว่ามันสร้างความคลาดเคลื่อนชนิดขาวกับดำ ถ้าเป็นการเขียนสำนวนสอบสวน เรื่องอาจพลิกได้ง่ายๆ!
คำว่า “ขบวนรถ” หมายถึงรถต้องมีมากกว่า ๑ คัน
แต่กรณีนี้ รถ VIP ที่ตำรวจขี่นำทางสวนเลนนั้น มีคันเดียว คือรถของ “หมอมีบุญ” คนนั้น
ฉะนั้น ที่เอกสารข่าวทางการใช้ว่า “นำขบวนรถ VIP” ก็พอเข้าใจว่า เป็นคำติดปาก
แต่คำที่ตรงความเป็นจริง คือ ขี่มอเตอรไซค์นำหน้ารถ VIP เพราะรถคนมีบุญถึงขั้น VIP กรณีนี้ มีคันเดียว
ไม่ได้ต้องการ “จับผิด-จับถูก” เพียงจะบอกว่า ยุคภาษาจิ้มมือถือ มันกลืนกินการใช้ภาษาไทยไปจนกระทั่งระบบราชการเอง การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร “ไม่เป็นภาษา” ไปแล้ว
ลองอ่านดูนี่ อ่านแล้วใครไม่เวียนหัว ส่งชื่อมารับรางวัลได้เลย
………………
โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์
วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน วันที่ 149 ของศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์รังสิต และวันที่ 130 ของศูนย์ธรรมศาสตร์ Home Isolation
วันนี้มารายงานเพิ่มเติม นอกกำหนดการที่จะมาทุกวันจันทร์ เราไม่ได้มาแจ้งข่าวเรื่องโควิด เพราะสถานการณ์ยังทรงตัวไม่ต่างจากเมื่อวานนี้ ทั้งสถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์ใน รพ.ธรรมศาสตร์
แต่มีประเด็นที่เพิ่มเติมจากแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ เรื่องการรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ ที่เราแจ้งไปแล้วเมื่อวานว่า “จบไปแล้ว“
โดยไม่มีการส่งมอบวัคซีนบริจาคใดๆ มายังประเทศไทย เมื่อธรรมศาสตร์ไม่สามารถมีหนังสือจากทางการไทยรับรองว่ารัฐบาลไทยเห็นชอบให้ธรรมศาตร์รับบริจาค Moderna จำนวน 1,500,000 โดส จากหน่วยงานของรัฐในโปแลนด์ได้
วันนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ ต่อความให้ยาวขึ้นอีก ด้วยการออกแถลงการณ์ว่า
เหตุผลที่ไม่ออกหนังสือรับรองให้ธรรมศาสตร์นั้น มีสองประการ
คือหนึ่ง ไม่มีความยินยอมจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนในการที่พวกเราจะไปขอรับบริจาค Moderna มาใช้ในประเทศไทย ประการหนึ่ง
และอีกประการหนึ่ง กต.แถลงว่า ได้ทราบว่าในจำนวนวัคซีน 1.5 ล้านโดส ที่จะได้รับบริจาคมานั้น ธรรมศาสตร์จะนำมาฉีดให้ประชาชนทั่วไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพียง 500,000 โดส
ส่วนอีกหนึ่งล้านโดส จะให้เอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ มธ. นำไปจำหน่าย โดยเรียกเก็บเงิน
กต.เกรงว่าจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศ และขัดเจตนาของทางโปแลนด์ และประเทศไทยจะเสียชื่อเสียง
จึงไม่ยอมออกจดหมายรับรองการขอรับบริจาคให้แก่ มธ.
ข้อสังเกตเบื้องต้นของพวกเราก็คือ
กต.ไม่เคยแจ้งเหตุผลข้อหลังนี้ให้พวกเราทราบมาก่อนเลย ทั้งด้วยวาจา ผ่านตัวแทนที่ได้รับมอบหมายให้ดีลกับ มธ.
และไม่เคยสอบถามรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับ “การค้าวัคซีน” นี้ มายังมธ.เลย
แม้ในจดหมายที่เป็นทางการ ที่ทางกต.ตอบมายังอธิการบดี มธ.ก็ไม่เคยแจ้งพวกเรา ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐด้วยกันว่า เกรงจะมีปัญหาเรื่องนี้
(เพราะหากแจ้งเช่นนั้น มธ.คงจะได้เข้าปรึกษาหารือกับกต.และหาแนวทางอื่นในการดำเนินการร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศได้ทันท่วงที)
คำอธิบายเหตุผลเรื่องนี้ เพิ่งมาปรากฎขึ้นในวันที่ 2 พย.วันนี้เอง
ต่อเหตุผลทั้งสองข้อที่กต.แจ้งว่า เป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถรับรองการรับบริจาคให้แก่ธรรมศาสตร์ ข้อแรกนั้น เรายืนยันว่า
ได้แจ้งแก่ผู้แทนที่กต.มอบให้เป็นผู้ประสานงานว่า พวกเรากำลังดำเนินการเพื่อขอความเห็นชอบจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน
ในการที่จะให้ความเห็นชอบที่โปแลนด์ จะบริจาค Moderna ให้แก่มธ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐในประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการคู่ขนานไปกับการขอให้ทางกต.ทำจดหมายแจ้งไปยังโปแลนด์อยู่แล้ว
การให้ความยินยอมนี้ จะเกิดง่ายขึ้นด้วยซ้ำ หากมีจดหมายจากกต.รับรองสถานะของธรรมศาสตร์อีกทางหนึ่งด้วย
ในประเด็นที่สอง เรื่องการแบ่งวัคซีนอีกหนึ่งล้านโดสให้เอกชนคู่สัญญานำไปจำหน่าย นั้น
เราได้แจ้งแก่ผู้แทนกต.ตั้งแต่ต้นว่า การบริจาคครั้งนี้ เป็นการบริจาควัคซีนจากคลังสำรองในโปแลนด์
ผู้รับบริจาคจะต้องส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบสภาพ สถานะ และลอตการผลิต
ตลอดจนจัดเตรียม dossier ในการจัดส่งและตรวจสอบ จัดการในเรื่อง logistic ในการนำวัคซีนไปยังสนามบิน จัดการในเรื่องการขนส่ง การประกันภัยวัคซีน พิธีการศุลกากร และการบริหารจัดการคลังเก็บวัดซีนในประเทศ ตลอดทั้งการประกันภัยผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องเหล่านี้ คิดเป็นเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาท
และในกรณีการรับบริจาค Astra Zeneca จากหลายประเทศ หลายครั้ง รัฐบาลไทยก็เคยเป็นผู้รับผิดชอบโดยใช้เงินงบประมาณของรัฐจ่ายไปทั้งหมด
ในกรณีของธรรมศาสตร์ ซึ่งไม่มีงบประมาณแผ่นดินให้จ่ายได้ดังกรณีที่รัฐรับบริจาค เราจึงได้ขอให้ภาคเอกชนคู่สัญญาของเรา เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ไป
และตกลงว่า จะให้นำวัคซีนModerna หนึ่งล้านโดส ออกไปกระจายฉีดให้ประชาชนทั่วไป โดยคิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ประกันภัย และโลจิสติกส์ ที่เกี่ยวข้องได้
ตามราคาต้นทุนที่ได้จ่ายไปจริง (at cost ) โดยธรรมศาสตร์แจ้งผู้แทนกต.ว่า เราจะตั้งโต๊ะแถลงข่าว แจกแจงรายการต่างๆ พร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่า “ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งวัคซีนบริจาค” ลอตนี้ มีจำนวนเท่าใด
และจะขอให้ผู้ฉีดวัคซีนในส่วนหนึ่งล้านโดสนั้น ช่วยรับผิดชอบร่วมกันด้วย
ประเด็นที่สำคัญคือ เมื่อได้คำนวนค่าใช้จ่ายแล้ว เราได้เจรจาตกลงกับเอกชนคู่สัญญาว่า
เมื่อหักห้าแสนโดส ที่จะมอบให้ธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลเครือข่ายไปฉีดให้ผู้ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์โดยไม่เรียกเก็บค่าตอบแทนออกแล้ว
วัคซีนอีกหนึ่งล้านโดสที่เหลือ …..
ตกลงจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในเรื่องการขนส่ง โลจิสติกส์ และประกันภัย รวมเป็นจำนวนโดสละ 400 บาท
เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปโดยไม่มีงบประมาณภาครัฐรองรับ ซึ่งก็ต่ำกว่าราคา 1,100 บาท ที่เป็นราคาต้นทุนวัคซีน ที่หน่วยงานภาครัฐที่นำวัคซีนชนิดนี้เข้ามาในประเทศ เรียกเก็บจากสถานพยาบาลต่างๆอยู่เป็นอย่างมาก
เราได้แจ้งหลักเกณฑ์และจำนวนค่าใช้จ่ายที่จะขอเรียกเก็บนี้ให้ผู้แทน กต.ทราบด้วยแล้วเช่นกัน
ข้อที่พวกเรารู้สึกประหลาดใจมาก คือเหตุผลข้อที่สองของกต.ที่เพิ่งแถลงขึ้นในวันนี้ เรื่องเกรงจะมีการนำวัคซีนไปจำหน่าย จะทำให้กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เป็นเหตุผลและความกังวลที่ไม่เคยแจ้งหรือปรึกษากันก่อนเลย
เพราะหากเรื่องนี้ เป็นเงื่อนไขหลักในการออกหนังสือรับรองไปยังโปแลนด์ มธ.อาจจะหาทางขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นภาครัฐที่เกี่ยวข้อง หรือมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณและการเงิน ให้ช่วยรับภาระในค่าใช้จ่ายส่วนนี้
ซึ่งมีจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในเรื่องวัคซีนที่ประเทศไทยได้จ่ายไปหลายหมื่นล้านบาทแล้วในปัจจุบัน เพื่อออกใช้แทนเอกชนไป
เพื่อให้ได้วัคซีนที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพ ลอตนี้ นำเข้ามาฉีดให้กับประชาชนอย่างกว้างขวางแล้วก็ได้
นี่คือ ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเพิ่มเติมที่ธรรมศาสตร์อยากจะสื่อสารกับผู้คนทั้งหลายให้ได้ทราบ ต่อจากข้อมูลบางส่วนที่กต.ได้แถลงแล้วในวันนี้
ท้ายที่สุด ข้อสรุปของเราก็คือ
การดำเนินการเรื่องวัคซีนบริจาคจากโปแลนด์ได้ยุติลงแล้ว แต่ธรรมศาสตร์ก็จะยังคงเพียรพยายามที่จะช่วยจัดหาวัคซีนทางเลือกเข้ามาให้แก่ผู้คนทั้งหลายในประเทศนี้อยู่ต่อไป ตามกำลังความสามารถของเรา
และด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ที่พวกเราอยากจะเป็นส่วนเล็กๆ ที่จะทำประโยชน์แก่ประชาชนผู้ทุกข์ยากเดือดร้อนอีกทางหนึ่ง นอกจากที่รัฐได้ดำเนินการอยู่โดยตรง
แต่สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้ของพวกเราก็คือ ยากเหลือเกินที่องค์กรใดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนได้ ถ้าไม่ได้ดำเนินการในนามของรัฐและใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน
จนทำให้ไม่อาจมีการเปรียบเทียบต้นทุน หรือราคาของการสั่งซื้อวัคซีนในแต่ละครั้งได้เลย
วันนี้ เราได้เรียนรู้บ้างแล้วและจะยกเลิกความพยายามในการติดต่อขอรับบริจาควัคซีนในอีกหลายกรณีที่ได้ติดต่อประสานงานไว้แล้ว
ถ้าพวกเราจะพยายามทำเรื่องนี้ต่อไปให้สำเร็จ คงจะเป็นการติดต่อเพื่อซื้อวัคซีนเข้ามาโดยตรงเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น
#แม้ผืนฟ้ามืดดับ เดือนลับมลาย ดาวยังพรายศรัทธาเย้ยฟ้าดิน
………………….
พบดาว-พบเดือนแล้ว กรุณากลับมาค้นหาธรรมศาสตร์ให้พบด้วยนะ!