เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00 น.ทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ว่าพบศพลูกเรือประมง 1 ราย ลอยอยู่บนผิวน้ำกลางทะเลระยองบริเวณจุดที่ เรือประมงชื่ออนันตศักดิ์ ซึ่งอับปางกลางทะเลระยองเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา
จนเป็นเหตุให้ลูกเรือสูญหาย 4 คน รอดชีวิต 3 คน ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค1) ได้ประสานทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) จัดกำลังประกอบด้วย เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ต.264 (เรือ ต.264) จากหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 2 พร้อมนักประดาน้ำเข้าทำการค้นหาและดำสำรวจตรงบริเวณที่เรือประมงดังกล่าวอัปปางอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ได้รับ แจ้งว่าพบร่างลูกเรือแล้ว 1 ราย ทรภ.1 ได้สั่งการให้เรือ ต.264 พร้อม เจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 1 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบ นำร่างผู้เสียชีวิตกลับเข้าฝั่ง ที่ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อเวลา 22.45 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ ได้ดำเนินการชันสูตรเบื้องต้น และส่งร่างผู้เสียไปดำเนินการชันสูตรเพิ่มเติมที โรงพยาบาลสัตหีบ กม.10
หลังจากทราบการเสียชีวิตแล้ว จะได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปเก็บไว้ที่มูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบ เพื่อรอญาติผู้เสียชีวิตมารับศพไปดำเนินการพิธีทางศาสนาต่อไป
การนี้ เจ้าของเรือประมงอนันตศักดิ์ พร้อมตัวไต๋เรือและลูกเรืออีก 2 คนที่รอดชีวิตได้เดินทางมาดูและรับศพ รวมทั้งได้กล่าวขอบคุณกองทัพเรือ ทัพเรือภาคที่1 ศรชล.จว.ระยอง ศรชล.จว.ชลบุรี และทหารเรือทุกนายที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงที่ประสบอุบัติติภัย
สำหรับการดำเนินการในวันนี้ (3 พฤศจิกายน 2564) ซึ่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ทรภ.1 จัดกำลังประกอบด้วย เรือ ต.264 เรือหลวงมันนอก และนักประดาน้ำ EOD จำนวน 23 นาย พร้อมอุปกรณ์ตัดอวน เชือก และเอ็น ออกไปทำการดำค้นหาผู้ที่สูญหาญที่เหลืออีก 3 ราย ที่คาดว่าจะติดอยู่ในซากเรืออัปปาง
ทั้งได้นำห้องปรับความดันบรรยากาศสูงขนาดเล็ก (Hyperbaric Chamber) สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดอุบัติเหตุใต้น้ำ ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ ของกองทัพเรือ นั้น ล้วนแล้วแต่ใช้กำลังพลที่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานใต้น้ำที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างหนัก เป็นเวลานาน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อภารกิจที่ยากลำบากได้เป็นอย่างดี
รวมถึงการนำยุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ที่มาจากภาษีของพี่น้องประชาชน ซึ่งในภาวะปกตินำมาช่วยเหลือประชาชนทางทะเลและเกาะแก่งต่าง ๆ ในทุกโอกาสให้เกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด โดยเฉพาะพี่น้องชาวประมงผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับทะเล
ทั้งนี้ กองทัพเรือ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนรัฐบาลและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยทรัพยากรต่าง ๆ ของกองทัพเรือ เพื่อส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ โดย มีเป้าหมายที่สำคัญคือ “รวมใจภักดิ์ รักชาติ ราษฎร์ศรัทธา”