สันติ อิ่มใจจิตต์
เทศกาลถือศีลกินเจเพื่ออิ่มบุญ ล้างพิษ จะมาถึงอีกแล้วครับ ปีนี้จะเริ่มกินตั้งแต่วันที่ 6-14 ตุลาคม แต่บางท่านอาจจะกินล้างท้องล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม แล้ว ผมต้องขออวยพรและเอาใจช่วยให้ผู้ที่ถือศีลตั้งจิตอธิษฐานตั้งใจกินเจให้ได้อย่างตลอดรอดฝั่งนะครับ
ร้านอาหารที่จะแนะนำให้แวะไปชิมช่วงเทศกาลกินเจนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักชิม คือ ร้านครัวเจ๊ง้อ สี่พระยา ของ คุณณชนก (เจ๊ง้อ) แซ่อึ้ง ช่วงเทศกาลเจจะขายเจทั้งร้าน
ที่ร้านนี้ผมเคยมานั่งชิมตั้งแต่เจ๊ง้อเปิดร้านใหม่ๆ เมื่อ 22 ปี ที่แล้ว โดย เฮียมกร์ รุ่งกมล เจ้าของโรงพิมพ์กรุงเทพ ที่โด่งดัง ซึ่งพวกเราให้สมญานามกันว่า เชลล์ชวนชิมภาคภาษาจีน เป็นผู้พามาชิมหลายครั้งหลายหน
แต่ก็แปลกมากครับ ผมไม่เคยเขียนแนะนำที่ร้านนี้สักครั้ง ได้แต่เขียนแนะนำร้านครัวเจ๊ง้อ สาขารัชดาภิเษก ที่บุตรสาวของเจ๊ง้อคือ คุณนุสรา วรางค์เดช ดูแลอยู่
อาหารที่เด่นและโด่งดังที่สุดของร้าน ที่นักชิมต่างก็ตั้งตารอคอย นอกจากจะมาชิมถึงที่ร้านแล้ว ยังซื้อกลับบ้านอีกหลายกล่อง คือ ซาลาเปาเจ ฝีมือของ คุณนุสรา วรางค์เดช ที่ถือว่าเป็นนักปั้นซาลาเปามือทองที่หาใครเทียบได้ยาก
เพราะปั้นซาลาเปาขายมานานเท่าอายุของร้าน สมัยที่ทำงานเป็นแอร์โฮสเตสที่บริษัท การบินไทย นั้น เมื่อถึงเทศกาลกินเจ ต้องลาพักร้อน 10 วัน มาช่วยคุณแม่ปั้นซาลาเปาขาย ตอนนี้ก็เป็นผู้สืบทอดธุรกิจครัวเจ๊ง้อ และซาลาเปาเจ๊ง้ออย่างเต็มตัว
ซาลาเปาที่นี่จะไม่เหมือนที่อื่นๆ เพราะเป็นสูตรของเจ๊ง้อที่นับได้ว่าเป็นปรมาจารย์ทางด้านอาหารคนหนึ่งของเมืองไทย มีชื่อเสียงไปไกลถึงต่างแดน ช่วงที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ร้านครัวเจ๊ง้อนั้นอยู่ในโปรแกรมที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาชิมกันทีเดียว
วิธีการทำซาลาเปาเจนั้น ต้องเริ่มตั้งแต่ทำหมี่กึง โดยเอาแป้งมาใส่น้ำนวดให้เข้ากัน นวดแล้วเทน้ำทิ้งแล้วใส่น้ำนวดใหม่ ทำอย่างนี้หลายๆ ครั้ง จนแป้งกลายเป็นเอ็น แล้วจึงเอาไปต้มปั้นเป็นลูกหั่นเป็นชิ้นนำไปผัดทำไส้ ใส่ทั้งเห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม ปรุงรสเตรียมไว้
ส่วนที่ทำลูกก็นำแป้งมาใส่ยีสต์ ผงฟู น้ำตาล เกลือ นวดให้เข้ากัน ต้องมีกรรมวิธีการทำเป็นพิเศษ นำมาห่อไส้นึ่งจนสุก แป้งซาลาเปาจะนิ่มมาก ส่วนตัวของไส้เวลากินแล้วจะเด้ง อร่อยมากจริงๆ ครับ
ซาลาเปาจะมีไส้ทั้งหมด 3 ไส้ คือ เห็ดหอม ไส้เผือก ไส้งาดำ ที่สำคัญคือ ซาลาเปาเจนี้ ทำตามออเดอร์ของลูกค้าเท่านั้น เพราะทำไม่ทันโดยเฉพาะช่วงโควิด-19 นี้ คนงานจากต่างจังหวัดทางร้านไม่ให้เข้ามา ซาลาเปาราคาลูกละ 30 บาท ครับ อย่าลืมว่าต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นนะครับ
ร้านครัวเจ๊ง้อไม่ได้มีซาลาเปาอร่อยๆ แต่เพียงอย่างเดียว ยังมีเมนูอาหารเจอร่อยๆ ซึ่งบางเมนูอาจจะอร่อยกว่าอาหารธรรมดาๆ เสียอีก เช่น
ทอดมันเจ รสชาติจะจัดจ้านถึงเครื่องบวกกับน้ำจิ้มที่ใส่ถั่วคั่วเองใหม่ๆ ปีหนึ่งๆ ก็มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เป็นเมนูที่แฟนๆ รอคอยอีกเช่นกัน
ขนมจีนน้ำยาเจ รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องแบบต้นตำรับ มีผักสด ผักลวก เป็นเครื่องเคียง ซึ่งเป็นสูตรพิเศษของครัวเจ๊ง้อโดยเฉพาะ
ถ้าชอบน้ำๆ ก็ต้องสั่ง เย็นตาโฟหม้อไฟเจ เสิร์ฟร้อนๆ ด้วยวัตถุดิบต่างๆ ที่มีรสชาติเป็นเลิศ ถ้าไม่บอกก็จะไม่ทราบอย่างเด็ดขาดว่าเป็นอาหารเจ กินแล้วจะคล่องคอเหมาะสำหรับไปกินกันทั้งครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
แต่ที่พลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นเมนูเด็ดของร้านคือ เส้นหมี่ผัดกระเฉด เมนูนี้เจ๊ง้อเป็นต้นตำรับและเป็นเมนูที่ใครไปใครมาต้องสั่งมาชิม เมื่อได้ชิมแล้วต่างก็ออกเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อยมาก เพราะเจ๊ง้อจะเลือกเอาผักกระเฉดเลือกเฉพาะตรงข้ออ่อนๆ เท่านั้นมาผัด เปลี่ยนจากใส่กุ้ง เป็นใส่เห็ดต่างๆ รับรองว่าจะติดใจไปนานแสนนานเชียวครับ
ยังมีเมนูเจอร่อยๆ อีกหลายอย่าง เช่น ข้าวผัดปลาเค็มเจ จับฉ่ายเจ เป๋าฮื้อเจ ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ ข้าวผัดหนำเลี๊ยบ ไส้กรอก ขนมผักกาด ฯลฯ
ช่วงโควิด-19 นี้ คุณนุสรายังได้จัดทำเมนูเจเป็นชุดๆ 4 ชุด ให้เลือกสั่ง มีตั้งแต่
ชุด 1 มีเส้นหมี่ผัดผักกะเฉดเจ ส้มตำเจ เผือกหิมะ 2 ชิ้น
ชุด 2 มีข้าวผัดปลาแซลมอนเจ ส้มตำเจ เผือกหิมะ 2 ชิ้น
ชุด 3 มี หมี่ซั่วเจ ส้มตำเจ เผือกหิมะ 2 ชิ้น และ
ชุดที่ 4 มี ก๋วยเตี๋ยวหลอด ราดหน้าเจ ส้มตำเจ เผือกหิมะ 2 ชิ้น
ราคาแต่ละชุดเพียง 192 บาท เท่านั้นครับ
ทานอาหารเจจนอิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งบุญแล้ว ขากลับขอแนะนำให้ซื้อ ส้มโอ จากสวนของเจ๊ง้อเอง ที่รสชาติฉ่ำหวานกรอบอร่อย กลับมาไว้กิน ก็จะมีความสุขอย่างล้นเหลือครับ
ชื่อร้าน ครัวเจ๊ง้อ
เจ้าของ คุณณชนก (เจ๊ง้อ) แซ่อึ้ง
สถานที่ สี่พระยา จากถนนสุรวงศ์ตรงมาถึงแยกมเหสักข์ เลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 2 ก.ม.จะพบร้านอยู่ด้านซ้ายมือ มีที่จอดรถด้านหลังของร้าน (ใกล้ๆ ใต้สะพานทางด่วน) เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 โทรศัพท์ 0-2233-2478-9
