30 ส.ค.64 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงตอนหนึ่งว่า กรณีที่มีคนตั้งคำถามว่าขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังหลักหมื่นทำไมจึงรีบปลดล็อกดาวน์หรือผ่อนคลายมาตรการนั้น ที่ประชุม ศบค.ไม่ใช้คำนี้ แต่ใช้คำว่าปรับมาตรการ วันนี้ทั่วโลกมีการปรับมาตรการทางสังคมเพื่อรับมือโควิด-19 ทั้งสิ้น มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่เข้มข้นมาตรการและยังรักษาตัวเลขผู้ติดเชื้อให้มีจำนวนน้อยได้อยู่ การที่เราปรับมาตรการเป็นการใช้ชีวิตวิถีใหม่โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. สิ่งสำคัญต้องขอความร่วมมือประชาชน เพราะการล็อคดาวน์บางพื้นที่ที่ผ่านมาทำให้เกิดตัวเลขที่เห็นในปัจจุบัน เราต้องปรับตัวให้อยู่กับเชื้อโรคดังกล่าวได้ ให้เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ หรือวัณโรค
เดือนกันยายนนี้จะเป็นเดือนแห่งการทดสอบระบบว่ามาตรการที่ออกมาได้ผลหรือไม่ ซึ่งรัฐเป็นผู้ออกข้อกำหนด แต่ปัจจัยความสำเร็จคือความร่วมมือของผู้ประกอบการและประชาชน และจะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้งใน 14 วันข้างหน้าว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ในข้อกำหนดที่ 32 นี้ มีเรื่องของการให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมมาตรการภาครัฐ และแผนจัดหาวัคซีน ยา เครื่องมือแพทย์ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนรับทราบแนวปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลด้วย