อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา!
เพราะถ้ามัวแต่จะหาความเอาจากคนที่ “ไม่มีสติสมบูรณ์” บ้านนี้-เมืองนี้ ก็เห็นจะมีแต่ความวุ่นวาย บ้าๆ บอๆ กันไปไม่มีที่สิ้นสุด
ฉะนั้น ใครจะท้า (ชก) ใครก็ปล่อยๆ ไปเสียบ้าง อย่าเก็บมาเป็นสาระให้มันมากนัก ก็เมื่อรู้ว่าคนที่ท้านั้นนิสัยเป็นเช่นไร แล้วทำไมกองเชียร์จะต้องลดตัวลงไปต่อล้อต่อเถียงด้วยเล่า..
จะเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือกันเพื่ออะไร?
และนี่ ก็ขอชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่วางตัวได้สมฐานะตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ไม่โต้ตอบ หรือทะเลาะกับคนพาล หรือคนที่มีฐานะต่ำกว่า อันเป็นการไม่สมควร!
แต่..ที่เห็นสมควร และขอชื่นชมเช่นกัน นั่นคือการคุณศรีสุวรรณ จรรยา ได้เผยว่า.. “ตามที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์รูปภาพ
พร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า เพื่อทางออกของบ้านเมืองแบบสันติไม่มีใครต้องเสียเลือดเสียเนื้อ โดยขออนุญาตเป็นตัวแทนประชาชน ขอท้าชกกับนายกรัฐมนตรีนั้น
พฤติการณ์และการแสดงออกในเรื่องของการท้าตีท้าต่อยดังกล่าวเป็น “วิสัยอันธพาล” ไม่ใช่วัตรปฏิบัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ
ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่าย “นิติบัญญัติ” ของประเทศตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แต่อย่างใด หากแต่เป็นการประดิษฐ์วาทกรรมในลักษณะนักเลงโต คับบ้านคับเมือง
อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมของการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชน จนถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์การแสดงออกดังกล่าวอย่างมากมาย
สร้างความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นกับสถาบันนิติบัญญัติของชาติโดยชัดแจ้ง ซ้ำร้ายยังโพสต์ท้าทายนักการเมืองด้วยกันในลักษณะต่อให้ 2 รุม 1 อีกด้วย
หน้าที่หลักของฝ่ายนิติบัญญัติ คือ การผดุงไว้ซึ่งกฎหมายที่ดี ปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยหรือบกพร่อง และตรากฎหมายใหม่ๆ เพื่อคุ้มครองประชาชน
ส่งเสริมความยุติธรรม โอกาสทางการแข่งขันที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ปกป้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง สร้างโอกาสที่ดีในชีวิต และรวมถึงตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารมิใช่หรือ
แต่การมาท้าชกผู้นำประเทศเยี่ยงนี้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนผิดไปหรือไม่
การกระทำและการแสดงออกดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการไม่ประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง ส.ส.
อันสามารถชี้ให้เห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรง ในข้อ 6 ข้อ 12 ข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง
ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.219 กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกําหนดมาตรฐานทางจริยธรรมไว้ เพื่อใช้กำกับ ดูแล และลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าว
เพื่อชี้มูลความผิดส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลลงโทษมิให้เข้ามาเป็นนักการเมืองได้อีกตามครรลองของกฎหมายต่อไป”
ครับ..สู้กับอันธพาลต้องพึ่งพากฏหมาย นักการเมืองเกเรมันต้อง..
จบที่ศาล!