กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่คู่รัก หรือสามีภรรยา หวั่นเป็นจุดเสี่ยงในการรับเชื้อโควิด-19 โดยไม่รู้ตัว
นายแพทย์พีระยุทธ สานุกูล ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีการนำเสนอข่าวพบวัยรุ่นหญิงที่ขายบริการทางเพศในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีติดเชื้อโควิด-19 จนต้องเตือน ให้ผู้ที่ซื้อบริการดังกล่าวต้องตรวจหาเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น
การมีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า หรือการจัดกลุ่มสังสรรค์ปาร์ตี้ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 อาจจะเป็นการกระทำความผิดหรือฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 30) ที่นับเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นได้ จนนำไปสู่การติดเชื้อไปยังคนในครอบครัวและชุมชน
โดยก่อนตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ควรคำนึงถึงความปลอดภัย และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งต่อตนเองและผู้อื่นในสังคมเป็นสำคัญ เพราะหากประเมินตนเองแล้วพบว่ามีความเสี่ยงสูง มีผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 หรืออยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นและให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า อันจะช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อจากคนที่ไม่รู้จักด้วยเช่นกัน
นายแพทย์พีระยุทธ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงควรงดมีเพศสัมพันธ์ แต่สำหรับคู่รักหรือสามีภรรยาหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
1) ล้างมือ อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่ ทั้งก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์
2) งดการจูบปากหรือแลกน้ำลาย เนื่องจากมีการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนในน้ำลาย
3) งดการทำออรัลเซ็กส์หรือมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก เนื่องจากมีการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนในอุจจาระ
4) ใช้ถุงยางอนามัย แผ่นยางอนามัย (Dental Dams) ถุงมือยาง ช่วยลดการสัมผัสกับน้ำลายหรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ
5) สวมหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัย ปิดจมูกและปากระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อผ่านการหายใจหอบหนัก
“ข้อปฏิบัติถัดมาคือ
6) หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในท่าทางที่หันหน้าเข้าหากัน ป้องกันการสัมผัส แบบใกล้ชิดบริเวณใบหน้า ช่วยลดการสัมผัสกับน้ำลายหรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และใช้เวลาอยู่ร่วมกันให้น้อยที่สุด
7) งดการมีเพศสัมพันธ์แบบกลุ่มหรือการสลับคู่นอน
8) ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าขาว เช็ดหรือทำความสะอาดบริเวณที่นอนหรือพื้นที่ที่มีกิจกรรมทางเพศ และ
9) ทิ้งถุงยางอนามัย แผ่นยางอนามัย (Dental Dams) ถุงมือยางที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด” ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กล่าว