คุณรสริน จรัสจรรโลงกุล และคุณนุตยา สิริเจิมจิตร ตัดสินใจก้าวออกมาจากสายงานการส่งออกในธุรกิจอุตสาหกรรมรถยนต์ ร่วมหุ้นทำธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวผักผลไม้ออร์แกนิค สบู่สมุนไพรและผลิตภัณฑ์สปาที่ทำจากสมุนไพรไทย ภายใต้แบรนด์ Amsophie ซึ่งผลิตในเมืองไทยแต่จำหน่ายและส่งออกอาหรับ100% ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย
“ชื่อแบรนด์มาจากคำว่า “โสภี” พอมาถึงอาหรับเขาเรียกโซฟี่ (Sophie) แอมโซฟี่ (Amsophie) ไอแอมโสภี แปลรวมๆว่า ฉันสวย” คุณรสรินเอ่ยถึงที่มาของชื่อแบรนด์
จากความสนใจและศึกษาตลาดตะวันออกกลางจนเชื่อมั่นก่อนลงมือทำธุรกิจอย่างจริงจัง เธอค้นพบว่าตลาดอาหรับเป็นตลาดการค้าที่มีศักยภาพ ไม่ผลิตสินค้าเองแต่จะซื้อหรือนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจึงน่าจะมีมากกว่าตลาดประเทศอื่นที่มีการแข่งขันสูง และก้นบึ้งหัวใจของชาวอาหรับคือความชื่นชอบทุกอย่างที่เป็นไทย
เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเจาะตลาดตะวันออกกลาง เธอตัดสินใจนำ Amsophie ลัดฟ้ามาเปิดร้านที่ศูนย์การค้า ไทยมาร์ท บาห์เรน ซึ่งเป็นHubศูนย์กระจายสินค้าไทยแห่งแรกในตะวันออกกลาง อีกทั้งราชอาณาจักรบาห์เรนมีสายสัมพันธ์ทางการทูตอันดีกับประเทศไทย กฎหมายเอื้อต่อการทำธุรกิจ และคนไทยสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้100%โดยไม่ต้องมีหุ้นส่วนชาวท้องถิ่นเหมือนเช่นประเทศอาหรับอื่นๆ
Shop33 ที่นี่เป็นทั้งหน้าร้านและที่ทำการติดต่อลูกค้าชาวบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และอาหรับ ในแต่ละวันจะมีชาวอาหรับที่มาช้อปปิ้งในศูนย์การค้าเดินตามกลิ่นหอมเข้ามาในร้าน และสะดุดตากับความสวยหลากสีสันและความหอมรัญจวนใจ
“ตอนมาไทยมาร์ทช่วงแรกๆ จะมีแค่สบู่ออร์แกนิค และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์Amsophie ลูกค้าถามมากขึ้นว่ามีพวกน้ำมันอโรม่าไหม และก็มีลูกค้าที่เขาชอบกลิ่นหอม เราก็เลยติดต่อกับ “ปิ่นโต เนเชอรัล(Pinto Natural)” ซึ่งขายดีอันดับ1อันดับ2ของช้อปปี้ออนไลน์ ( Shopee )ที่เมืองไทยจับมือร่วมกันนำสินค้า ปิ่นโต เป็น Spa productทั้งหมด massage oil ,essential oil ,eye cream, hand cream และพวกน้ำหอมติดรถยนต์ มาจำหน่ายที่นี่ ต่อมาก็ร่วมกับบริษัทThai Cream ได้นำโฟมล้างหน้า ครีมกันแดด มาร่วมจำหน่ายในร้าน สินค้าทั้งหมดของร้านได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีน่าพอใจ”
Amsophie เริ่มเปิดจำหน่ายในช่วงปลายปี2563 ซึ่งเธอก็ได้งัดกลยุทธ์และวางแผนการตลาดอย่างสุดฤทธิ์ เพื่อให้ยอดจำหน่ายของเธอยังไปต่อได้แม้ช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19
“ช่วงเปิดร้านใหม่ๆจะเอาสบู่มาเปิดก่อน สบู่แฟนซี สบู่ผลไม้ เวลามองเข้ามาในร้านจะสะดุดตา อีกเรื่องคือกลิ่น เวลาเข้าห้างจะถามว่ากลิ่นหอมอะไร อ๋อกลิ่นหอมจากร้านนี้เอง ทำไมร้านนี้หอม เราก็สามารถจะขายต่อโน่นนี่นั่นได้ ราคาที่เขาจับต้องได้ และมีกลิ่นหอมที่ชาวอาหรับชอบ ปลายปีที่แล้วมีมาเหมาสบู่ทั้งหมดเพื่อทำของชำร่วยงานแต่งงาน เพราะราคาไม่แพง สีสันสะดุดตา มีกลิ่นหอม หลักๆสินค้าที่นำไปจำหน่ายที่ร้านในไทยมาร์ท ก็จะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin care) และเครื่องหอมต่างๆ ที่ทำจากธรรมชาติออแกนิค และสมุนไพร
ปัจจุบันนี้ Amsophie มีร้านและคีออสในไทยมาร์ทคือ Shop33 และคีออส10ใกล้กับดราก้อนซิตี้ แม้ในช่วงโควิด-19 แต่กิจการไปด้วยดี เพราะความสามารถในการคิดวางแผน และการไม่หยุดนิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงรับกับสถานการณ์ตลอดเวลา ราคาที่จับต้องได้ และตัวผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
“ช่วงโควิด ก็มองวิกฤติเป็นโอกาสค่ะ แม้ลูกค้าจะซื้อไม่เท่าช่วงปกติ แต่เราก็ได้ศึกษาพฤติกรรมและรสนิยมความชอบของลูกค้าว่าต้องการอะไร ค่อยๆปูพื้นฐานไปทีละนิด พอวันนึงสถานการณ์คลี่คลาย เอาโควิดอยู่ ก็จะก้าวกระโดดไปสู่เป้าหมายการค้าที่เราวางไว้ เรานำสบู่ผลไม้ไทยและดอกไม้ไทย รวมทั้งสบู่สมุนไพรธรรมชาติเป็นที่ต้องการของทางตลาดตะวันออกกลางมานำเสนอ ทำให้สินค้าจำพวกสบู่มียอดขายดีทุกวัน
Amsophie เน้นเรื่องธรรมชาติและคุณภาพเป็นหลัก โรงงานผลิตได้มาตรฐาน สินค้าทำจากส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติจริงๆเน้นเรื่องสมุนไพรไทย ในราคาที่จับต้องได้ไม่แพง ทำให้ Amsophie เป็นอีกหนึ่งร้านที่ได้รับความนิยมใน Thai Mart Bahrain” คุณรสรินกล่าว
นอกจากนี้คุณรสรินได้เล่าประสบการณ์ตรงที่ตนพบระหว่างการให้บริการลูกค้าในร้านเพิ่มเติมว่า “เรื่องราคาสำคัญมาก ตอนแรกเราตั้งราคาไว้ว่า ราคาเท่านี้นะ แต่พอมาถึงไม่ใช่ว่าคนอาหรับจะจ่ายเงินง่าย spent money อย่างเดียว เนื่องด้วยสถานการณ์ตอนนี้เขาเองก็ต้องเซฟตัวเขา ทุกอย่างคือเซฟหมด เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้ธุรกิจเราอยู่รอดได้ เราก็ต้องปรับราคาให้สามารถจับต้องได้ คือสินค้าราคาไม่สูงเกินไป ”
คุณรสรินแนะนำว่าเปิดการค้าในอาหรับ กิจกรรมส่งเสริมการตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญ
“เราจัดโปรโมชั่นอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นความสนใจและอยากซื้อตลอด ทั้งลดแลกแจกแถม เช่นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ลดราคา 50-70% การซื้อแพ็คคู่ ฯลฯ ส่วนสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เรามีIG ,Facebook โพสเป็นภาษาอังกฤษ มีเผยแพร่โฆษณาไปที่ลูกค้าชาวบาห์เรนเพื่อเปิดตลาดที่นั่น ประชาสัมพันธ์ว่าเรามีโปรโมชั่น มีสินค้าน่าสนใจ เมื่อเขามาซื้อลองใช้แล้วติดใจขึ้นมาก็จะซื้อซ้ำ และรอวลาเมื่อลูกค้ามากขึ้นช่วงสะพานซาอุฯบาห์เรนเปิด เราอาจจะอัพราคาขึ้นมาได้บ้าง”
คุณรสรินกล่าวเพิ่มเติมว่า “สื่อที่อาหรับเข้ามาดูส่วนใหญ่เป็นIG ที่บาห์เรนคนใช้Facebook บ้างแต่ไม่นิยมเท่าIG พอลงไอจีก็ลงเฟซบุ๊คพร้อมไปเลยทีเดียวคู่กัน”
คุณรสรินได้ให้บล็อกเกอร์หญิง (Blogger)ที่บาห์เรน นำเสนอสินค้า ทั้งเป็นวิดิโอพูดภาษาอาหรับ และโพสโฆษณาเผยแพร่ลงสื่อโซเชียลมีเดียของบล็อกเกอร์เอง และของทางAmsophie ได้ผลตอบรับดี เวลาลูกค้ามาที่ร้านไม่ต้องพูดอะไรเยอะมาถึงก็ชี้เลย ว่าต้องการอะไร เป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายอีกช่องทางหนึ่ง
คุณรสริน ได้เล่าถึงพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าชาวอาหรับว่า “ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวใหญ่ๆหรือกลุ่มๆเช่นกลุ่มผู้หญิง กลุ่มวัยรุ่น เวลาเข้าร้านเขาจะให้ความสำคัญเรื่องราคา สมมติเรานำเสนอสินค้าไป เขาจะถามก่อนเลยว่าราคาเท่าไหร่ ถ้าราคาไม่สูงเกินไป หรือมีโปรโมชั่นพิเศษ จะตัดสินใจซื้อเร็ว ส่วนเด็กประมาณ5-6ขวบขึ้นไป ก็จะสนใจสินค้าที่มีสีสันสดใสสะดุดตา มีกลิ่นหอม เช่นสบู่ผลไม้ต่างๆ แอ็ปเปิ้ล สตรอเบอรี่ สรุปก็คือลูกค้าอาหรับจะมาช้อปกันเป็นครอบครัว มีเด็กมาด้วย หรือไม่ก็มาเป็นกลุ่ม มาเป็นคู่รัก คำนึงถึงราคา กลิ่นหอม และคุณภาพผลิตภัณฑ์”
ลูกค้าอาหรับจะชอบเมืองไทย จะบอกว่าเห็นสินค้าประมาณแบบนี้ที่ขายที่เมืองไทย เขาคิดถึงเมืองไทยจังเลย เมื่อไหร่ประเทศคุณจะเปิดสักทีถ้าคุยเรื่องเมืองไทยปุ๊บจะยาว เขาจะบอกเลยว่าไปไหนมาบ้าง ภูเก็ต กระบี่ เชียงราย เชียงใหม่ คือส่วนใหญ่จังหวัดที่ไปจะมีTimeline เหมือนๆกันเลย เขาอยู่เป็นเดือน ถ้าคุยกันถูกคอเราบอกซื้ออันนี้สิอันนั้นสิ เขาก็จะเชื่อ ซื้อง่าย เวลาลูกค้าเข้าร้านก็จะชวนคุย ไม่ใช่จะพูดเรื่องสินค้าอย่างเดียว เราจะชวนคุยเรื่องเมืองไทย คุณไปไหนมาบ้าง คุณเคยไปที่นี่ไหม คนอาหรับชอบมาเมืองไทย ชอบประเทศ อัธยาศัยคนไทย อาหาร ผู้คน อากาศ ทะเล ภูเขา ผลไม้และทุกอย่างที่เป็นเมืองไทย ชอบหมดเลย ทำให้เขาชอบสินค้าไทยของเราด้วย ตลาดตะวันออกกลางยังเติบโตได้อีกมาก คนไทยชอบไปญี่ปุ่นเกาหลี สินค้าญี่ปุ่นเกาหลีอยู่ในเมืองไทยเยอะมาก เช่นเดียวกับคนอาหรับชอบมาเมืองไทย ถ้าเราจะเอาของที่เขาชอบเข้าไปขายให้เขาในราคาจับต้องได้ ( reasonable price) จะติดตลาดได้ง่าย ตอนนี้การแข่งขันยังไม่สูง ผู้ประกอบการไทยยังมาน้อยราย ”
ต่อยอดจากการขายในร้านก็เริ่มมีแนวโน้มของการส่งออก มีนักธุรกิจชาวบาห์เรน ชาวซาอุฯ ที่ทำธุรกิจสปา ซาลอน แล้วเอาผลิตภัณฑ์Amsophieไปใช้ เขาชอบมากกลิ่นมันชัด หอมติดทน หลังจากผ่านโควิด จะเอาสินค้าไปตั้งที่ชั้นวางในร้านแต่ละแห่ง และก็มีเจ้าของธุรกิจชาวซาอุฯที่สนใจสบู่ผลไม้ สบู่สมุนไพร ทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนเจรจาธุรกิจซึ่งทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี
คุณรสรินมีวิสัยทัศน์ที่จะขยายตลาดอาหรับต่อไป โดยพิจารณาประเทศยูเออี “ตอนนี้เปิดร้านที่ไทยมาร์ท บาห์เรน ก็สนใจเข้าร่วมThai Souq และGlobal Village ,Dubai ที่ยูเออีด้วยค่ะ”
สรุปท้าย คุณรสรินได้กล่าวชื่นชมไทยมาร์ท บาห์เรนว่า
“ไทยมาร์ท บาห์เรน สนับสนุนผู้ประกอบการไทยดีมากค่ะ เป็น Hub ศูนย์กลางขายสินค้าไทยในตะวันออกกลาง ซึ่งหากว่าผู้ประกอบการไทยจะสนใจเข้ามาเปิดร้านในไทยมาร์ท บาห์เรน รับรองไม่ผิดหวัง
ช่วงสถานการณ์โควิด เราอาจจะต้องอดทนนิดนึง ซึ่งอย่างไรได้เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์แน่นอนค่ะ”
