ผักกาดหอม
บ่นกันขรมเลย
“ลุงพล” ไปแล้ว แต่ “ลุงตู่” ยังอยู่
ครับ…ต้องยอมรับ “ลุงพล” ฮอตจริงๆ
“ลุงตู่” ที่ว่าแน่ยังต้องหลีกทางให้ อย่างน้อยวานนี้ เรตติ้ง “ลุงพล” เหนือกว่าเห็นๆ
ตามรัฐธรรมนูญวันนี้ “ลุงพล” ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ครับ จนกว่าศาลจะพิพากษา แต่ก็เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ๓ คดี
๑.พรากเด็กอายุไม่เกิน ๑๕ ปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันควร
๒.ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน ๙ ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
๓.กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
พูดตรงๆ ก่อนนี้ผมไม่ได้สนใจคดี “ลุงพล” สักเท่าไหร่ อ่านผ่านๆ เสียมากกว่า
แต่วานนี้ (๒ มิถุนายน) ต้องให้ความสนใจแบบเต็มสูบ เพราะเกิดปรากฏการณ์ผึ้งแตกรัง และอีแร้งรุมทึ้งไปพร้อมๆ กัน
ก่อนไปดูปรากฏการณ์ที่ว่า มาดูรายละเอียดแห่งคดีกันก่อน เผื่อบางคนไม่ได้ติดตามแบบใกล้ชิดเหมือนผม อาจจับต้นชนปลายไม่ถูก
รู้แต่ว่า ลุงพล ลุงพล แต่ไม่รู้ว่ารายละเอียด คดีลุงพล เป็นแบบไหน
สั้นๆ นะครับ ตำรวจอ้างหลักฐานในการออกหมายจับครั้งนี้ คือหลักฐานบริเวณจุดพบศพ
ได้แก่ กางเกง รองเท้า เส้นขนจำนวน ๓ เส้น ที่ตรวจดีเอ็นเอจนสามารถระบุได้แล้วว่าเป็นของใคร
รวมถึงเส้นผมน้องชมพู่ที่ถูกสับ ๓๖ เส้น
คำให้การของพยานแวดล้อมทั้งหมด
รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ทั้งหมดนี้ชี้ไปที่ ลุงพล
แต่ลุงพล ควรจะเป็น ลุงพล ที่สุดแสนจะธรรมดาแห่งบ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหวง จังหวัดมุกดาหาร
มันก็ไม่ธรรมดาขึ้นเพราะ “สื่อ” ขายข่าวปั้นให้ลุงพลเป็นเซเลบ โกยเงินกันเป็นว่าเล่น ทั้งสื่อและลุงพล เป๋าตุงไปพร้อมๆ กัน
บวกกับโลกออนไลน์แข่งขันหายอดไลค์ ยอดแชร์ ซับสไครบ์ ลุงพลกลายเป็นฮีโร่ ดารา เซเลบ แล้วแต่จะปั้นให้เป็นแบบไหน ลุงพลเป็นให้ได้หมด
ลุงพลนั่งกินข้าวก็มีคนกดไลค์ กดแชร์ ซับสไครบ์ เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน
เมื่อลุงพลถูกออกหมายจับ เห็บที่เกาะลุงพลกระโดดหนี แร้งที่รอจิกมานานก็รุมทึ้ง คราวนี้ลุงพลกลายเป็นเหยื่ออีกทอด
ครับ…เห็นปรากฏการณ์ ขย้ำลุงพล พร้อมเสียงก่นด่าสร้างฆาตกรให้เป็นฮีโร่
แต่ก็แปลก “สื่อ” ที่สร้างฆาตกรให้เป็นฮีโร่ กลับตามน้ำ ด่าลุงพล ไอ้ฆาตกร พร้อมตำหนิสังคมยอมรับ ชื่นชม ฆาตกรมาร่วมปีๆ ได้อย่างไร
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก ลุงพลยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย ศาลยังไม่พิพากษา กลับถูกสื่อเคยติดคุกคดีโกง พิพากษาแล้วว่า ไม่น่าเชื่อประเทศไทยจะมีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้น
มันก็ถูกครับ มันไม่น่าเกิดขึ้นจริง ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมแห่งบ้านกกกอก กลายเป็นเซเลบได้ไง
แต่ถ้าสื่อไม่เอาลุงพลออกมาจากบ้านกกกอก ลำพังลุงพลเองไม่มีทางเป็นเซเลบได้เลย
ก็จบเรื่องลุงพลไว้ห้วนๆ แบบนี้แหละครับ ถือเป็นบทเรียนของสื่อ ผู้เสพสื่อ ต้องมีวิจารณญาณ แยกแยะให้ได้ถึงเรื่องถูกผิด
ไม่เฉพาะคดีลุงพลครับ คดีโกงวันนี้สังคมไทยบางส่วนยังแทบจะแยกแยะอะไรไม่ได้เลย
คดีคอร์รัปชันเป็นคดีร้ายแรง เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม บางคดีศาลตัดสินแล้วว่าผิด แต่สาวกยังหลับหูหลับตาชื่นชม ชั้นเอกที่หนึ่งกันอยู่เลยครับ
คนมีคดีโกงติดตัวกลายเป็นฮีโร่ เล่นบทเซเลบ โดยที่ตัวเองไม่เคอะเขินด้วยซ้ำ
บางคนหนีไปต่างประเทศ บางคนยอมติดคุกลดโทษบ่อยๆ ก็ออกมาเร็วถือว่าโคตรคุ้ม
ที่มันเป็นเช่นนั้นได้ เพราะบางส่วนของสัมคมยอมให้เป็น เหมือนกรณี ลุงพล
ครับ…ลุงพล ไปแล้ว!
แต่มีคนบอกว่า เสียดายจัง ลุงตู่ ยังอยู่ ทำไมไม่ตาม ลุงพล ไปด้วย
คงไม่ต้องบอกว่าใครบ่นเสียดาย พวกไม่ชอบขี้หน้า ลุงตู่ ก่นด่ากันทุกวันเมื่อไหร่จะไปเสียที เป็นนายกฯ เข้าปีที่ ๘ แล้ว
นายกฯ โง่ควรลงจากตำแหน่ง
ก็เป็นธรรมดาการเมือง ไม่ชอบใจก็อยากเปลี่ยน
อยากให้คนที่รัก คนที่ชอบ ได้มีอำนาจบ้าง
อวดอ้างสารพัดคนของตัวเองฉลาดกว่า เก่งกว่าในทุกด้าน
บางคนฝันหวานเปลี่ยนรัฐบาลแล้วประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงทันทีในทุกมิติ
ความคิดความอ่านเยาว์วัยจริงๆ
นี่ก็เป็นเพราะอิทธิพลของสื่อเช่นกัน
โดยเฉพาะสื่อโซเชียลที่เต็มไปด้วยเฟกนิวส์ แต่มีคนยินดีเชื่อ ไม่เชื่อธรรมดา
เชื่อหัวปักหัวปำ
ไม่รู้มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบกันบ้างหรือยัง ก่นด่าเรื่องวัคซีน Astrazeneca ไม่มาตามนัด วัคซีนไม่มีจริง รัฐบาลหลอกชาวบ้าน
เห็นแต่ด่ากันต่อ ไม่พอใจวัคซีน Astrazeneca มาทำไม จะเอา Pfizer Moderna
ข่าวดี วัคซีน Astrazeneca มาตามนัด มาตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
สยามไบโอไซเอนซ์ส่งมอบล็อตแรก และกระจายไปจังหวัดต่างๆ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
๗ มิถุนายน เริ่มฉีด กลุ่มผู้ที่มีอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ๗ กลุ่มโรค และคนที่ขึ้นทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ร้านสะดวกซื้อ แอปเป๋าตังค์
ไทม์ไลน์แจกจ่ายวัคซีนก็ตามนี้ครับ
๒ มิถุนายน Astrazeneca ๒.๔ แสนโดส
๓ มิถุนายน Sinovac ๗ แสนโดส
๔-๕ Astrazeneca ๑ ล้านโดส
และอีก ๕-๖ ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
ตัวเลขล่าสุดฉีดไปแล้ว ๓.๖ ล้านโดส
ฉะนั้นสิ้นเดือนมิถุนายน ประเทศไทยจะฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า ๑๐ ล้านโดส
สำหรับใครที่ชื่นชอบ Pfizer เป็นพิเศษ รออีกอึดใจหนึ่ง ทาง Pfizer Thailand กริ๊งกร๊างมาแล้วว่า กำลังดีลกับรัฐบาลไทยชนิดไม่ได้หลับไม่ได้นอน
ไอ้ข่าวที่เจ้าของโรงพยาบาลเฮงซวยบอกว่าดีลเองได้มา ๒๐ ล้านโดสนั้น Pfizer Thailand บอกว่าอย่าไปเชื่อ เพราะ Pfizer ถือนโยบายเดียวทั่วโลกดีลกับรัฐบาลเท่านั้น
ก็สรุปอีกเดือนสองเดือนข้างหน้า วัคซีนน่าจะเข้าไทยเกือบครบทุกยี่ห้อ
ใครอยากฉีดแบบควักตังค์จ่ายเองก็เชิญ แต่อย่าลืมโรงพยาบาลเอกชนเขาบังคับให้ซื้อประกันพ่วงด้วย เผื่อเจ็บ ตาย จะได้ไม่ไปฟ้องโรงพยาบาลเขา
ในส่วนวัคซีนฟรีสำหรับทุกคนนั้น รัฐบาลเขาเตรียมไว้ให้แล้ว เจ็บ ตาย รัฐบาลเตรียมเงินชดเชยเยียวยาไว้ให้แล้วเช่นกัน ไม่ต้องซื้อประกันพ่วง
สำหรับใครจะไล่ ลุงตู่ อดทนรออีกนิด ฉีดวัคซีนเดือนละ ๑๐ ล้านโดส ช่วงเดือนตุลาคม น่าจะพอมองเห็นแล้วว่าสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้หรือไม่
ฉะนั้นไปไล่ ลุงตู่ ตอนนั้นดีกว่า อาจไม่ต้องสวมหน้ากากแล้ว
จะได้แหกปากไล่ดังๆ ได้ครับผม.