ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
บรรยากาศประเทศไทยในขณะนี้
ทำให้ผมนึกถึงบทเพลงๆหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เป็นเพลงฮิตติดหู ยอดวิวเป็นร้อยๆล้าน เพียงแต่ได้ยินทีไรให้รู้สึกซาบซ่านประทับใจ..
ทั้งความไพเราะจากน้ำเสียงของผู้ขับร้อง ทั้งทำนอง-เนื้อร้องที่มีความหมายลึกซึ้งจากมันสมองของผู้แต่ง คือ “คุณประภาส ชลศรานนท์” ศิลปินแห่งชาติ!
ใช่แล้ว..ผมพูดถึงเพลง “พระพุทธเจ้า” เพลงประกอบภาพยนตร์ซีรี่ส์เรื่อง “พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก” ที่ฉายทางช่องเวิร์คพอยท์-23 เมื่อสัก 3-4ปีก่อน
ผมนึกถึงท่อนที่ว่า.. “สายพิณที่ดีดนั้น ถ้าปล่อยให้มันเริ่มหย่อนลง ละเลยและลืมหลง จะคงสำเนียงเป็นพิณไหม..
และสายพิณที่ตั้งขึง ถ้าบิดให้ตึงจนมากไป ถึงคราวดีดเล่นสาย คงขาดผึงไปในไม่นาน”
ตอนรัฐบาล-ศบค. ใช้มาตรการเข้มข้น เจ้าของผับ บาร์ ร้านอาหาร นักร้อง นักดนตรีก็โวยวาย ร้องบ่น ธุรกิจใกล้เจ๊ง ไม่มีงาน ไม่มีเงิน จะอดตายกันหมดแล้ว
ครั้น..รัฐบาล-ศบค. รับรู้ถึงปัญหาความเดือดร้อน ยอมลดหย่อนมาตรการให้เปิดร้านขายเหล้า-ดื่มเบียร์ มีดนตรีบรรเลงสด..
เจ้าของร้านก็น่าชื่น ยิ้มระรื่น เงินทองไหลมาเทมา นักร้อง-นักดนตรีก็กลับมาอิ่มหมีพีมัน!
แต่..แทนที่เจ้าของ “ธุรกิจกลางคืน” รวมทั้งนักร้อง นักดนตรี ที่รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าไวรัสร้าย “โควิด-19” ไม่ได้หายไปจากโลก หรือ หมดไปจากประเทศไทย..
จะได้ร่วมมือ ร่วมใจช่วยกันป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด หรือหากจะแพร่ก็ไม่ให้ถึงกับกระจายรุนแรงอย่างที่เกิดขึ้นณตอนนี้..
กลับพากันปล่อยปละละเลย หย่อนยานมาตรการป้องกันโควิดอย่างสิ้นเชิง!
เอาล่ะ..ผมไม่ได้จะโทษใคร และออกจะเห็นใจธุรกิจสถานบันเทิงกลางคืนเสียด้วยซ้ำ ที่ให้บริการไม่ทันจะได้กอบโกย-กำไร ก็ดันมาถูกสั่งปิด!
กระนั้น จะตำหนิคนออกคำสั่งก็เห็นจะไม่ถูกนัก เพราะตอนให้เปิดก็ได้ทำความเข้าใจ ตกลง-รับปากจะปฏิบัติตามเงื่อนไข กติกากันอย่างดีแล้ว
ก็..ในเมื่อ “ปล่อยให้สายพิณหย่อนลง ละเลยและลืมหลง” จะโทษใครได้ นอกจากต้องโทษ ต้องตำหนิตัวเอง!
รัฐบาล-ศบค.น่ะ พยายามจะ “ไม่บิดสายพิณให้ตึงจนมากไป” แม้สถานการณ์ที่เห็น-เป็นอยู่จะให้คิด-ทำอย่างนั้น แต่ด้วยเข้าใจ-เห็นใจผู้ประกอบการ นักร้อง นักดนตรี ที่เดือดร้อน..
จึงได้เดินสายกลาง “ไม่ตึง-ไม่หย่อน” เพื่อต้องการจะให้เสียงพิณไพเราะเสนาะหู-ประชาชนได้ชีวิตที่สะดวกสบาย!
และขณะเขียนบทความนี้ มีคนส่งไลน์มาให้.. “ระบาดรอบนี้ใหญ่มาก เมื่อวานนี้คืนเดียว ห้อง Lab แค่ 2 แห่ง ตรวจพบผลบวกเกือบ 100 ราย หลายโรงพยาบาลในกรุงเทพตรวจจนน้ำยาหมด
คนติดเชื้อใหม่ในตัวเลขหลัก 1,000 ต่อวัน กำลังจะมาในไม่ช้า ขอทุกคนระวังตัวขั้นสูงสุด”!!
ครับ..ทุกชีวิตล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงอยู่ในความไม่ประมาทเถิด!