เปลว สีเงิน
ดูทรงการอภิปรายในสภาเมื่อวาน (๑๖ กพ.๖๔)
ระฆังยกแรกดัง แก๊ง…
ฝ่ายค้าน ปรี่ออกจากมุม พุ่งใส่นายกฯ
นายกฯ ลุกจากเก้าอี้ บิดขี้เกียจ แล้วถีบยันหน้าโครม
จบ!
เขาให้ไปค้นหาความผิดพลาด, บกพร่องการทำงาน ที่ว่าทุจริต-เลวร้ายของนายกฯ พร้อมหลักฐาน มายันในสภา เพื่อกระชากนายกฯลงจากเก้าอี้
แต่นี่….
ดันไปเก็บกากข่าวตามหน้าจอโทรทัศน์ ตามข้อเขียนนักข่าวมาแปลงเป็นเนื้อหาอภิปรายแล้วใช้อคติ-ความแค้นส่วนตัวขับเคลื่้อน
ที่คุยว่า “ฟอร์มยักษ์” จะฉาย ๔ วัน ๔ คืน แค่วันแรก-วันเดียว ฟอร์มแมวเหมียวชัดๆ!
อุตส่าห์แอบลุ้น นึกว่าฝ่ายค้านจะเอารัฐบาลที่ไม่จริงใจต่อการปฏิรูประบบราชการออกไปได้ซะที
แต่ในเมื่อทรงเป็นแบบนี้ อีก ๓ วันที่เหลือ
ไม่ต้องลุ้นแล้ว
คอยฮาลูกจิกกัดและลูกประท้วงเป็นช่วงๆของทั้งสองฝ่ายอย่างเดียวมันกว่า
ลุ้นนี่ดีกว่า ……
วันนี้ (๑๗ กพ.) ๑๘ แกนนำสามนิ้ว “ล็อต ๒” อัยการนัดสั่งฟ้องคดี ในคดี “ชุมนุม ๑๙ กันยา.” ตอน ๔ โมงเช้า
เห็น “นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม” ทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนบอกว่า
มีจารย์ธรรมศาสตร์ กับสส.พรรคก้าวไกล จะมาใช้เกียรติศักดิ์ศรีเป็นหลักทรัพย์ยื่นประกัน
ถ้าวันนี้ มากันครบ และอัยการนำตัวไปส่งศาล
ก็คอยดูกัน จานสามนิ้วจะมาประกันศิษย์เขา ก็ช่างเขาเถอะ แต่อยากให้ดูหน้ากันว่า
สส.ก้าวไกลคนไหน
ทิ้งงานประชุมสภา เอาเกียรติที่ตีราคา ๑ ล้านด้วยเงินภาษีชาวบ้าน ไปประกันผู้ต้องหา
ในความผิดดูหมิ่นและจ้วงจาบหยาบช้าต่อองค์พระมหากษัตริย์
ในจำนวน ๑๘ ผู้ต้องหา ถูกมาตรา ๑๑๖ ทุกคน มี ๓ คน ที่ถูกมาตรา ๑๑๒ ด้วย
มี นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง
อาจอยากรู้กัน ว่าทั้ง ๑๘ คนนั้น ใครบ้าง ก็
นี่ไง….
นส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, นายภาณุพงศ์ จาดนอก, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง,
นายชูเกียรติ แสงวงศ์, นายธนชัย เอื้อฤาชา, นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่, นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา,
นายสุวรรณา ตาลเหล็ก, นายภัทรพงศ์ น้อยผาง, นาย ณัทพัช อัคฮาด, นายณัฐชนน ไพโรจน์, นายธานี สะสม, นายอดิศักดิ์ สมบัติคำ,
นายสิทธิทัศน์ จินดารัตน์, นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด, นาย ธนพ อัมพะวัต และ นาย “แอมมี่” ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์
นี่เป็นล็อต ๒ ต่อจากล็อตแรก ๔ แกนนำ “เพนกวิน-อานนท์-สมยศ” อีกคนลืมชื่อ เข้าไปรออยู่ในคุกก่อนแล้ว
ตามตารางเวลาจะเป็นแบบนี้
ส่วนวันนี้ จะมากันครบ ส่งฟ้องเลย หรือมาไม่ครบ ต้องเลื่อน ก็ตามดูกันวันนี้
เห็นนายไผ่ ดาวดิน ไปร่วมเดินแบกธงจากโคราชมากรุงเทพฯ กระหรอม-กระแหรม ผีจะหลอก อยู่เมื่อวาน
ถ้ามาพบอัยการได้ตามนัดเช้านี้ ก็แสดงว่า
ขึ้นรถตู้เหาะ “ยี่ห้อธนาธร” มาแหงๆ!
สมมติอัยการส่งฟ้องศาลเช้านี้เลย คงจดจ่อกันว่า ศาลจะอนุญาตให้มีประกัน “ปล่อยตัวชั่วคราว” ๑๘ ผู้ต้องหาหรือไม่?
นั่นขึ้นอยู่กับพนักงานอัยการโจทก์มีคำคัดค้านการประกันหรือไม่-อย่างใด และศาลจะมีดุลยพินิจเช่นใด
แต่ถ้านำพฤติกรรม ๑๘ ราย เทียบเคียงพฤติกรรม ๔ รายแรก ซึ่งร่วมเหตุการณ์ ๑๙ กันยา.ที่ธรรมศาสตร์และสนามหลวงด้วยกัน
ดูตามแนวทางพิเคราะห์ของศาล จาก ๔ คนล็อตแรกแล้ว ก็มีความน่าจะ “ตามกันไป” มากโข!
ทบทวนเหตุผลที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเพนกวิน-อานนท์ ดูเป็นแนวก็ได้
ศาลบอกว่า……
“พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า
ความผิดตามฟ้องมีอัตราโทษสูง
การกระทำตามฟ้อง มีลักษณะเป็นการร่วมกันกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความวุ่นวายขึ้นและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
โดยจำเลยขึ้นปราศรัยด้วยถ้อยคำที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียสู่สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ
กระทบกระเทือนจิตใจของปวงชนชาวไทยผู้จงรักภักดีอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังปรากฏพฤติการณ์ของจำเลยว่าถูกกล่าวหาดำเนินคดีเกี่ยวกับความผิดในลักษณะทำนองเดียวกันในคดีอื่นอีก
เมื่อพิจารณาประกอบคำคัดค้านของพนักงานอัยการโจทก์แล้ว กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า
หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาแล้ว จำเลยอาจจะก่อให้เกิดเหตุอันตรายหรือความเสียหายประการอื่นอีก
และน่าเชื่อว่า จำเลยอาจจะหลบหนี ….”
จะเห็นว่า มากต่อมากในจำนวน ๑๘ ผู้ต้องหา มีการกระทำตามลักษณะนี้ เข้าองค์ประกอบแห่งเหตุผล คดีมีอัตราโทษสูง ทำผิดลักษณะเดียวกันซ้ำซากอีกหลายคดี
ที่สำคัญ…..
“ปราศรัยด้วยถ้อยคำที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียสู่สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เทิดทูนและเคารพสักการะ
กระทบกระเทือนจิตใจของปวงชนชาวไทยผู้จงรักภักดีอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย”
และศาลระบุไว้เลย…….
“น่าเชื่อว่า จำเลยอาจจะหลบหนี ….”!
นี่คือเหตุผลที่ศาลไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวเพนกวินกับพวก ยกมาให้ดูแนวทาง
และผมเชื่อแน่ ที่กฎหมายตีราคาสส.เป็นวงเงิน ๑ ล้าน ใช้ประกันตัวได้นั้น
เจตนารมณ์และหลักการ คงไม่ประสงค์ให้สส.นำไปใช้ประกันผู้ต้องหาประเภทล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แน่
เหตุผลตรงที่ศาลบอก “น่าเชื่อว่า จำเลยอาจจะหลบหนี” นั้น
กับขบวนการ “สามนิ้ว-สามสัส” ถึงจุดต้องจับตากันเป็นพิเศษแล้ว!
เพราะ “สมศักดิ์ เจียม” พ่อของสามสัส ส่งสัญญานมาแล้ว หลังม็อบ ๑๓ กุมภา.กลายเป็นแก๊งอันธพาลป่วนเมือง
@somsakjeam
ตอนนี้ ไม่ว่าจะประเมินอย่างไร ต้องบอกว่า เรายังไม่พร้อม ยังมีคนจำนวนมหาศาลที่ยังไม่เอาด้วยกับเรา
นอกจากนี้ เฉพาะหน้า มีเพื่อนเราถูกจับ ไม่ให้ประกัน
เราต้องยึดมั่นในใจไว้ให้ดี การปะทะตอนนี้ ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น
“ทอน-ช่อ-บูด”ว่าไง….
ยังจะปั่น social media fake account สู้ต่อมั้ย?