“กราบเดียว” จันทร์ส่องหล้า

คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร”

หรือ “ชินวัตร” ……….
ไม่แค่เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง “เหนือพรรคเพื่อไทย” เท่านั้น
ชั่วโมงนี้ ไปถึงขั้นผู้ทรงอิทธิพล “เหนือเหตุการณ์บ้านเมือง” ระดับนั้นไปแล้ว!
คือฉับพลันที่คุณหญิงพจมาน และบุตรสาว แต่งกายชุดเหลือง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” ที่โรงพยาบาล ศิริราช เมื่อ ๒๔ กย.๖๓

น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย “รถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่” ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน เพื่อบริการสังคม

“สึนามิ” ยกตัว ซัดตูม สะท้าน-สะเทือนพสุธา ทันที!
ยอดยางถึงรากหญ้า ตื่นแตกโกลาหลทางคิดเห็น เตลิดเปิดเปิงไปต่างๆ นานากัน
“พรรคเพื่อไทย” และกลุ่มบริวารระบอบทักษิณ หน้าไพ่-โดยนายสมพงษ์ บ้าง นายภูมิธรรม บ้าง ในเส้นทางน้ำเลี้ยงโดยตรง

“ถอนราก-ถอนโคน” พวิกคว่ำคะมำหงายไปคนละทิศ-ละทาง หัวหน้าและเลขาพรรค “นายสมพงษ์-อนุดิษฐ์” เขียนใบลาออกแทบไม่ทัน
กระทั่งคุณหญิงสุดารัตน์ ผู้พยายามเบ่งบารมีเป็นเจ้าแม่เหนือพรรค ลอยๆ อยู่แค่ “ประธานยุทธศาสตร์พรรค” ยังต้องหงายท้อง-หงายไส้ เป็นไหปลาร้าแตก

นัยว่า “เหนือพรรค-เหนือไพ่” ผู้บันดาลความเป็นไปของพรรคของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น
“คุณหญิงพจมาน” คือตัวจริง-เสียงจริง!
จริง-ไม่จริง ก็เห็นชัด ยังไม่ทันลงมือซักกระบวนท่า แค่สวมเสื้อเหลืองเข้าเฝ้าให้เห็นเท่านั้น
ทั้งพญามาร กเฬวรากมาร ขี้เยี่ยวราดหนีตายกันจ้าละหวั่น!

ทางนิตินัย ทราบกันว่า “พจมาน-ทักษิณ” หย่าร้างการเป็นสามี-ภรรยากันแล้ว
แต่ทางพฤตินัย โลกรู้ เหมือนทุกคนรู้ ทักษิณเหนือทุกคนในเพื่อไทย ในทุกเครือข่ายแดง กระทั่งแดงอมส้มธนาธร
มีคนเดียวเท่านั้น ที่ขี่เหนือทักษิณได้
คือ “คุณหญิงพจมาน” หรือ “หญิงอ้อ” แห่งจันทร์ส่องหล้า “หนึ่งเดียว” คนเดียว!

ฉะนั้น มองตามหน้าเสื่อ-หน้าไพ่ ก็ไม่ผิด ที่พลัน “เจ้าแม่พรรคมารแดง-มารส้ม” ตัวจริง ลูกสาว-ลูกเขย
เปลี่ยนจากเสื้อแแดง…..
สวมเสื้อเหลือง เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ปรากฏต่อสังคมสาธารณะ

ในท่ามกลางบรรยากาศ ขบวนการ “เสื้อแดง-เสื้อส้ม” ใต้ระบอบทักษิณ-ธนาธร กำลังเหลิงหลุดกรอบ
ออกปลุกระดมนักเรียน-นักศึกษาและขนคนออกมาชุมนุม กระทำการหยาบช้า ทุราจาร
ประกาศ “ล้มสถาบันพระมหากษัตริย์”……
จ้วงจาบหยาบช้า ใส่ร้าย-ป้ายสี อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพองค์พระมหากษัตริย์ ต่างๆนานา โจ่งแจ้ง
และฮึกเหิมกันไปถึงขั้น……
จะ “แยกประเทศ” เปลี่ยนจากราชอาณาจักรไทย ไปเป็นระบบ “สาธารณรัฐ”
วางตัวบุคคล ระหว่าง “ทักษิณ-ธนาธร” คนใด-คนหนึ่งขึ้นเป็น “ประธานาธิบดี”คนแรก แทนองค์ “พระมหากษัตริย์”!

นี่………
จะเห็นว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน จากกลุ่มบุคคลเดียวกัน เกิด ๒ เหตุการณ์แตกต่าง “ตรงกันข้าม” ที่เรียก Contrast กันชัดเจน
กลางตัวและส่วนหาง เหยงๆ “ล้มเจ้า-ล้มสถาบัน”

แต่หัว ……..
จงรักภักดี เทิดทูนสถาบัน ก้มกราบแทบเบื้องพระบาท “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
แล้วแบบนี้ จะให้สังคมคิดเป็นอื่น-มองเป็นอื่นไปได้อย่างไร นอกจากมองตามหน้าเสื่อไปทางเดียวกัน ว่า
“คุณหญิงพจมาน” ส่งสัญญาน “ลอยแพ” พรรคเพื่อไทยและกลุ่มธนาธร ที่กำลัง “เหาะเกินลงกา” เกินรับได้ ขณะนี้

แต่ผมมองว่า…….
คุณหญิงอ้อไม่ได้ลอยแพ เพียงแต่ส่งสัญญาน “ลอยตัว” เหนือเหตุการณ์ ซึ่งเธออ่านขาด “เกมนี้ไม่มีทางชนะ”
เพราะขณะนี้ มันไปถึงขั้น “พูดก็ไม่ฟัง-สั่งก็ไม่ได้” แล้ว!

ทุกวันนี้ ต่อให้อมพระมาพูด คนก็ไม่เชื่อ …….
ว่าคุณหญิงไม่ได้เป็นท่อน้ำเลี้ยงเพื่อไทย กระบวนการเสื้อแดง-เสื้อส้ม ที่ชุมนุมล้มสถาบัน
มันหนักหนา “เกินแบกรับได้” ไปแล้ว

ดังนั้น ปลอดภัยที่สุด ต้องทำอย่างใด-อย่างหนึ่ง ในทางสัญญานให้สังคมได้เห็น ได้รับรู้ว่า
เธอไม่เกี่ยวกับขบวนการล้มเจ้า-เปลี่ยนระบบประเทศ เธอและลูกๆ ยังยึดมั่นใน “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์”

“ชุดเหลืองกราบเบื้องพระบาท”………
ภาพเดียวจึงสะท้านยุทธภพ ลบคำว่า “ท่อน้ำเลี้ยงเพื่อไทย-เสื้อแดง ไม่เอาเจ้า” มีผลร้อนแรงกว่าน้ำมันในกระทะปลาท่องโก๋การบินไทย!

“หญิงอ้อ” สมแล้วที่เป็น “ช้างเท้าหน้า” ตัวจริง ในความสำเร็จทั้งธุรกิจการค้าและการเมืองของทักษิณ
ฉากหน้า ใครๆ ก็นึกว่าทักษิณ แต่ฉากหลัง…..
“ทุกอย่างที่ทักษิณมีวันนี้ เพราะหญิงอ้อ” นำ!

เกมนี้ “หญิงอ้อ” อ่านขาด รบกับเจ้า ไม่มีทางชนะ มีแต่ทางพินาศ
มีบทเรียนเจ็บปวดมาแล้วถึงวันนี้ ไม่เพราะเหิมเกริม “ตีตนเสมอเจ้า” ตอนเป็นนายกฯดอกหรือ ทักษิณจึงต้องเป็นสัมภเวสีอยู่ทุกวันนี้

แล้วจะให้ธนาธรมาทำสงครามตัวแทน “ล้มเจ้า-ล้มสถาบัน” ถึงขั้นเปลี่ยนประเทศเป็นระบบ “ประธานาธิบดี”
ตายเป็นผี ๑๐ ชาติกลับมาเกิด ก็ไม่มีทาง!

ปี ๕๓ ระดม “แดงทั้งแผ่นดิน” เผาบ้าน-เผาเมืองขนาดนั้น ยังทำอะไรไม่ได้
แล้วนี่ มุดใต้กระโปรงเด็กเชิด ไปขนคนหน้าเดิม อาชีพรับจ้างสวมเสื้อแดงมาชุมนุม ทั้งหยาบช้า ถ่อยสถุล ทั้งวิปริตผิดเพศ มาเป็นมันสมอง-เป็นขุุนพล “ล้มสถาบันกษัตริย์”

มันยิ่งกว่า “ตุ๊กตาเสียกระบาล” ซะอีก…….
ไม่แค่หญิงอ้อส่ายหน้า กระทั่งองค์การนอกชาติ ที่ขับเคลื่อนเอ็นจีโอและนักวิชาการ ทำหน้าที่บ่อนทำลายชาติยังร้อง…ฮ่วย อิหยังวะ!

รีบออกตัว เข้าไปพูดจาภาษาทูตกับรัฐบาลที่ทำเนียบฯ ให้เป็นภาพ-เป็นข่าวปรากฏ ว่าตะวันตกสนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ไล่เลียงกันดู ก็จะเห็น

“คบเด็กสร้างบ้าน-คบมารแดงมารส้มผลาญเมือง” ท่อน้ำเลี้ยงเขากำลังคิดอย่างนั้น เรื่องสำคัญระดับ “ล้มสถาบัน-เปลี่ยนประเทศ”

แต่ใช้เด็กวิปริตผิดเพศ-ผิดพันธุ์ ไร้สำนึกมนุษย์ นำครู-อาจารย์ นำพรรคการเมือง นำคนทั้งประเทศ ๖๐-๗๐ ล้าน ก่อการ “กบฏชาติ”


แค่หวังต้มเงินต่างชาติ หรือฮอร์โมนเพศ ทำพวกมึงบ้าไปแล้วจริงๆ?
ก็คงบ้าด้วยโรค “แฮชแท็กขึ้นสมอง” นั่นแหละ อย่าว่าแต่คุณหญิงอ้อเลย องค์การนอกชาติที่เคยชักใย ก็เห็น มองว่า “คบเด็กสร้างบ้าน” ไม่เป็นการณ์แน่
ก็เลย “ตัดหางปล่อย” พวกนี้ ตอนนี้!

คอยดูแล้วกัน ทำเป็นคึก นัดชุมนุมใหญ่ ๑๔ ตุลา.ว่ามาเป็นแสน-เป็นล้าน ๗ วัน ๗ คืน ยึดบ้าน-ยึดเมือง
ดูอะไรน่ะหรือ?
ก็ดูว่า ศึกใหญ่ครั้งนี้ ไอ้ที่ซุกง่ามตูดเด็ก เช่น “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” จะกล้าออกหน้านำทัพครั้งสุดท้ายมั้ย?

ถ้าเอาตัวเองรอด เจ้าเล่ห์ “หลอกใช้เด็ก” นำหน้าเหมือนเดิม ก็อยากดูว่า ใครออกค่าใช้จ่าย ค่ากินอยู่หลับนอนกลางถนนหลายวัน-หลายคืน ค่าเดินทาง
ที่สำคัญ ม็อบผสมพันธุ์ส้ม-แดงคราวนี้ ที่ผ่านมา จะเห็นว่า มีแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์ ให้ดื่มตลอดรายการ

ก็ทำนอง ย้อมประสาทให้กร้านหนา ม็อบพวกนี้ เขาฝึกมาแค่ชุดวาทกรรมบิดเบือนด่าสถาบัน กับชุดคำหยาบช้าให้ตะโกนด่าเท่านั้น จึงจำเป็นต้องทำให้มึนเมาเข้าไว้

ก็ต้องระวัง ที่หน้าสภาวันก่อน ……
ปฏิบัติการเถื่อนทำนองล้มประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี ๕๓ ก็ส่อแนวให้เห็นรำไรบ้างแล้ว
ถ้าชุมนุม ๑๔ ตุลา.ยืดเยื้อหลายวันตามที่คุย ชุมนุมที่ไม่มีหัว-มีหางแบบนี้ โอกาส “มือที่ ๓” สร้างสถานการณ์มีสูงมาก
“เป็น-ตาย” ขึ้นมาละก็ โทษรัฐบาลไม่ได้เชียว ต้องแขวนป้าย “สามสัส” นั่นแหละ รับผิดชอบ!

สรุป ก็คือ……….
อย่าไปให้ “ปฏิบัติการกราบ” ของหญิงอ้อ เกินราคาเป็นจริงไปนัก!
เรื่องเพื่อไทย นั้่น ไม่ใช่ “พรรคแตก” หากแต่ “แตกพรรค” ตามมุกเดิมนั่นแหละ
เพราะถึงตอนนี้ พรรคเพื่อไทย “ใหญ่นอก-กลวงใน” มีสส.เป็นร้อย แต่เดินแต้มการเมืองแป้กซ้ำซาก ดีแต่โชว์เขา ใต้เขา ไม่มีสมอง

ในฐานะพรรค “ผู้นำฝ่ายค้าน” แต่ถ้าเป็นควาย ก็เป็นควายที่เดินต่อท้าย-ดมตูด “พรรคฝูงธนาธร”!

เพ้อเจ้อแต่จะใช้ขบวนการนอกสภาบีบให้เป็นอย่างนั้น-อย่างนี้ จะเอาลูกพี่กลับบ้าน อยากครองอำนาจเป็นรัฐบาล
ช่องทางตามระบบรัฐสภามีให้เดิน เสือกไม่เดิน
กลับไปต้อนควายลุยคันนา!


นายสมพงษ์ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อ “ปูเสื่อใหม่” ก็ถูกแล้ว ก็สมพงษ์นั่นแหละ กลับมาเป็นใหม่ เชื่อเหอะ
เพราะมีตำแหน่งโปรดเกล้าฯ ทางการเป็น “หัวหน้าฝ่ายค้าน” ในสภาอยู่ แล้วจะไปไหน
เว้นแต่ได้กราบบังคมทูล ขอลาออกจากตำแหน่ง “หัวหน้าฝ่ายค้าน” แล้วเท่านั้น!

การเปลี่ยนแปลงในกรอบใหญ่ของระบอบทักษิณยังไม่เห็น ที่จะมี ก็อาจเป็นเพียง
“พรรคเพื่อไทย” เปลี่ยนท่าที “ไม่ร่วมปฏิบัติการล้มเจ้ากับคณะพรรคธนาธร” เต็มตัว เท่านั้น!

พร้อมกับ “แตกพรรค” รองรับการเลือกตั้ง ทั้งสภาใหญ่และสภาท้องถิ่น
เรียกเก็บคะแนนที่เทจาก “พรรคไทยรักษาชาติ” ไปให้พรรคอนาคตใหม่ของธนาธรกลับมา

แค่ “ปฏิบัติการกราบ” ก็อย่าเพิ่งเททั้งกระเป๋าแทง เดี๋ยวจะหมดตูด เดี๋ยวจะว่าไม่บอก!

เพิ่มช่องทางรับข่าวสารได้ที่ LineID: plewseengern.com หรือสแกน QR Code

 


Written By
More from plew
ยี่เก “กรรมาธิการตำรวจ” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน อ้าว…แล้วกัน ผมเข้าใจว่าที่ “กรรมาธิการตำรวจ” สภาผู้แทนฯ ไปโรงพยาบาลตำรวจเมื่อวาน (๑๒ มค.๖๖) ไปเพื่อทำความจริงให้ประจักษ์แทนประชาชน ด้วยการพิสูจน์ความจริง ๒...
Read More
0 replies on ““กราบเดียว” จันทร์ส่องหล้า”