จนป่านนี้ยังนับถือนักโทษหนีคุก?

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

ก็..รู้สึก “เวทนา” เหมือนกันแหละ!

คือ เวทนาที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก..  “อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีคุณค่าของประเทศไทย ประเทศไหนๆ ก็อ้าแขนรับให้พำนักอาศัย

ผมพบท่านๆ คราใดก็มีแต่พูดจาห่วงใยประเทศไทย ประชาชนคนไทย และอยากกลับประเทศไทย

วาทกรรมแบบกล่าวร้ายว่า “ชังชาติ” ทั้งแบบคำตรงและแบบคำแฝงน่ะ กำลังถูกสร้างมาบิดเบือนป้ายสี โดยคนที่กำลัง “พังชาติ” หรือเปล่า ?

ผมมั่นใจว่า อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านไม่มีความรู้สึก “ร้อนตัว” ใดๆ ทั้งสิ้นกับคำกล่าวร้ายฯ และหากจะมีความรู้สึกบ้าง คงมีเพียงความรู้สึก “เวทนา” เท่านั้น” น่ะ

และไม่ได้เวทนาเฉพาะนายกิตติรัตน์ ผมให้รู้สึก “เวทนา” ไปถึง “อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีคุณค่าของประเทศไทย” (ในสายตาของนายกิตติรัตน์) นั่นด้วย

แหมๆ..ห่วงใยประเทศไทย ประชาชนคนไทย และอยากกลับประเทศไทย!

ถ้าห่วงใยด้วยบริสุทธิ์ใจจริง ประเทศไทยมันคง “จบ-สงบ” มาตั้งแต่อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ตั้งโต๊ะเจรจากับแกนนำนปช.ในครั้งกระนู่นแล้วล่ะ!

ไม่ต้องมีคนปลุกระดม.. “พี่น้องครับ ถ้าเสียงปืนแตกนัดแรกเมื่อไร ผมจะกลับมานำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพเอง” นั่นหรอก!

แล้วไง..เสียงปืนแตกมาไม่รู้สักกี่รอบ ตายไปไม่รู้สักกี่ศพ ไม่เห็น “ผู้มีคุณค่าของประเทศไทย” ปรากฏตัวสักเหตุการณ์!

“อยากกลับประเทศไทย”..เอ้า แล้วทำไมนายกิตติรัตน์ไม่ออกเงินซื้อตั๋วเครื่องบินให้กลับล่ะ บอก “ผู้มีคุณค่า” ของคุณสิ..

คนไทย-ประเทศไทยไม่ได้ปิดกั้น หรือผลักไสไล่ส่ง ตรงกันข้าม ทุกคนต่างกวักมือ-เชื้อเชิญ “ผู้มีคุณค่า” (ทั้งสอง)..กลับมาเถอะ กลับมา จะมาในสถานการณ์ตอนนี้เลยก็ได้!

แต่..ถ้าไม่กล้า กลัวติดคุก ก็อย่าได้พยายามจะสื่อสารอะไรให้เป็นที่ “เวทนา” ไปเลย ส่วนที่นายกิตติรัตน์บอกว่า “ไม่มีความรู้สึก “ร้อนตัว” ใดๆ ทั้งสิ้นกับคำกล่าวร้ายฯ” นั้น

ดีแล้วล่ะที่เข้าถึงธรรม แต่เออ นายกิตติรัตน์น่าจะอธิบายกับผู้มีคุณค่าของคุณให้เข้าใจ ว่าไม่มีใคร “กล่าวร้าย” ท่านเลย และ “ชังชาติ” ก็ไม่ใช่วาทกรรม มันเป็นความจริงที่ประจักษ์ ไม่เหมือน “ไพร่กับอำมาตย์”

นั่นน่ะ “วาทกรรม” ของแท้ ที่พยายามปลุกปั่นจนประเทศชาติ-คนไทย แตกแยกกันเรื่อยมา ก่อนที่จะมีการสานต่อด้วยอีกวาทกรรม..

ที่กำลังจะทำให้คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าเผชิญหน้ากันด้วยระทึกเข้าไปทุกขณะ!

ว่าแต่..นายกิตติรัตน์เอาอะไรมามั่นใจ “ผู้มีคุณค่า” ทั้งสองไม่รู้สึก “ร้อนตัว” ก็ไม่รู้นะ แต่ที่ผมรู้ ยิ่งพูดก็ยิ่งให้รู้สึก “เวทนา” นายกิตติรัตน์ ที่จนป่านนี้..

ยังจะยกย่องนับถือนักโทษหนีคดีหนีคุก อยู่อีกเนาะ!



Written By
More from pp
“องอาจ” จี้นายกฯ จัดการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้การเปิดเมือง กทม. เป็นไปอย่างราบรื่น
19 ก.ย. 2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความชัดเจนที่ กทม. จะเปิดเมืองว่า...
Read More
0 replies on “จนป่านนี้ยังนับถือนักโทษหนีคุก?”