โฆษก ศบค. ตอบคำถามเพื่อชี้แจง ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอนำไปเป็นบทเรียนปรับปรุงการดำเนินงาน โดยขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา และให้คำแนะนำต่อไป

14 ก.ค. 63 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชน ช่วงการแถลงข่าวของศูนย์ข่าวโควิด-19 และสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

โฆษก ศบค. ชี้แจงกรณีคณะชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศบค. ขอเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด พร้อมย้ำว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด

โดยการเข้ามาในลักษณะของผู้ควบคุมยานพาหนะ ตามเอกสาร มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ฉบับที่ 7/2563 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ไม่ได้กำหนดให้ต้องมีผู้ควบคุม แต่ต้องให้มีหนังสือแสดงการเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ

และกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลกรณีโรคโควิด – 19 หรือหลักประกันอื่นใด ตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางพำนักอยู่ในราชอาณาจักร ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ และให้มีการคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ผู้เดินทาง ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศของประเทศต้นทาง ก่อนออกเดินทาง (Exit screening)

โดยเมื่อเดินทางถึงให้ใช้ระบบที่สามารถติดตามตัวหรือแอปพลิเคชัน เพื่อเฝ้าระวังหรือติดตามอาการระหว่างที่เข้ารับการกักกัน ซึ่งจากรายงานคณะดังกล่าวมีการลงทะเบียนใช้แอปพลิเคชัน แต่ต้องมีการตรวจสอบว่าได้ใช้จริงหรือไม่อย่างไร

โดยในกรณีสถานกักกันของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ศบค. ได้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่กักกัน โดยตรวจพบว่า สอท. ได้ติดต่อโรงแรมโดยตรง ทำให้ทีมฯ ที่เข้าไปดูแลภายหลังรับทราบในภายหลัง ซึ่งทีมฯ ได้ขออนุญาตเข้าไปตรวจถึงได้รับทราบผลยืนยันการติดเชื้อ

โฆษก ศบค. กล่าวเพิ่มเติมกรณีการทบทวน หรือยกเลิกสิทธ์ VIP ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยโฆษก ศบค. กล่าวแสดงความเสียใจ และขอโทษที่ขอให้ประชาชนทุกคนไม่การ์ดตก แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐการ์ดตกเสียเอง ซึ่ง ศบค. ได้หารือในเรื่องนี้อย่างมาก และพร้อมจะรับมาเป็นข้อปฏิบัติ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงให้ดีที่สุดในข้อต่อเล็กๆ ที่หละหลวมในทุกจุด

โดยถือเป็นความรับผิดชอบของ ศบค. ที่ยังไม่ละเอียดในทุกเรื่อง เช่น จากที่คิดว่าลูกเรือจะมาลงที่สุวรรณภูมิ ไม่ใช่ที่อู่ตะเภา ทำให้มาตรการที่วางไว้ไม่ครอบคลุมเพียงพอ ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. เช้านี้ จึงได้มีมติ 3 ข้อดังนี้

  1. ศบค. จะดำเนินการทบทวนผ่อนคลายมาตรการกักกันบุคคลในคณะทูต โดยเฉพาะคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
  2. ให้ กต. ยกเลิกการอนุญาตบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ที่อนุญาตไปแล้วทั้งหมด 8 เที่ยวบิน (ช่วงวันที่ 17-20 และ 25-29 ก.ค. 2563)
  3. ให้ชะลอการอนุญาตของการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแบบผ่อนคลายมาตรากร State Quarantine ตามข้อกำไหนดที่ 12 (2กลุ่มที่มีเหตุยกเว้น), (3บุคคลในคณะทูต), (11 special arrangement) ไปก่อน และมีการทบทวนมาตรการควบคุมให้มีความรัดกุมรอบคอบ จึงให้มีการดำเนินการต่อไป

โอกาสนี้ โฆษก ศบค. ได้กล่าวขออภัยพี่น้องประชาชนทุกคนในจังหวัดระยอง และกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันจะทำให้ดีกว่านี้ ละเอียดกว่านี้ และจะกลับไปทบทวนรายละเอียดในทุกๆ ข้อ

โดยกรณีที่มีกระแสข่าวลือขอยืนยันว่า คณะลูกเรือจากอียิปต์ไม่ได้ออกไปเที่ยวสถานบันเทิง คณะดังกล่าวเข้ามาพักที่จังหวัดระยอง 2-3 คืน ไม่ได้ออกจากโรงแรม เนื่องจากมาถึงกลางคืน และมีภารกิจแต่เช้า และไม่ใช่คณะ VIP แต่เป็นลูกเรือ
อย่างไรก็ดีตามปกติ คณะลูกเรือส่วนใหญ่จะพักที่โรงแรม Novotel ที่สุวรรณภูมิ และหลังจากนี้ยังไม่ได้คณะใดเข้ามาอีก โดยแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้องต้องมีการทบทวน หน่วยงานทั้งหมดต้องร่วมกันรับผิดชอบ อ


เรื่องนี้ไม่เข้าที่ ศบค. เนื่องจากคณะนี้เป็นลูกเรือ ซึ่งได้รับการยกเว้นให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ตามประกาศฉบับที่ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งอนุญาตให้กลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ยานพาหนะที่จำเป็นต้องเดินทางเข้าประเทศตามภารกิจ หรือมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรที่ชัดเจนเดินทางเข้ามาได้ ตั้งแต่ก่อนผ่อนคลายระยะที่ 5 แล้ว
โอกาสนี้ โฆษก ศบค. ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ซึ่งจากกรณีดังกล่าว เมื่อได้สอบสวนโรค และดูเส้นทางการเดินทางของทั้ง 31 คน ครอบคลุมทั้งหมดไม่เฉพาะผู้ติดเชื้อ และนำมาจำแนกแยกแยะผ่านเวลา เส้นทางของแอพไทยชนะ จึงมั่นใจได้ว่าได้จำกัดวง กรอบ ขอบเขตจากการใช้แอพไทยชนะ
โดยผู้ที่ลงทะเบียนใช้ในเวลานั้น จะได้รับข้อความแจ้งกลับ แจ้งเตือน มีข้อความกำหนดการปฏิบัติตัว หากต้องการตรวจสารคัดหลั่ง ทางกระทรวงสาธารณสุขยินดี โดยเมื่อเช้านี้มีรถพระราชทานไปให้การบริการ และหน่วยราชการได้ตีวงขอบเขต ซึ่งเมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจนจะทำให้พิจารณามาตรการที่เกิดขึ้นได้ อาทิ ปิดโรงเรียน โดยถ้าไม่ได้อยู่ในเส้นทางก็อาจพิจารณาทบทวนได้เร็วขึ้น
ส่วนการประกาศล็อกดาวน์นั้น โฆษก ศบค. กล่าวว่า ต้องดูจากการติดเชื้อยืนยัน 1 คนนั้น นำไปสู่การติดเชื้ออื่นๆ หรือไม่ โดยดูจากระยะการควบคุมการติดเชื้อ 14 วัน ถ้ามีตัวเลขของการติดเชื้อของคนในพื้นที่ แล้วเราสามารถจัดการ คงไม่จำเป็นต้องล็อคดาวน์ แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ ก็ต้องมีมาตรการอื่นๆเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเยียวยา ศบค. ยังไม่ได้พูดคุย หากมีการพูดคุยต้องครอบคลุมไปถึงพื้นที่อื่นๆ อย่างเท่าเทียม อาทิ สนามมวย สถานบันเทิง
ในตอนท้าย โฆษก ศบค. กล่าวว่า ทาง ศบค. ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ต้องปรับปรุงการดำเนินการเรื่อยๆ เป็นบทเรียนที่สำคัญ ในฐานะตัวแทนของ ศบค. ต้องขออภัย และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ร่วมมือ ทำให้ได้เห็นความเข้มแข็งของสื่อมวลชน ความเข้มแข็งของทีมในพื้นที่ ไม่ลดละที่จะขอตรวจ แม้จะไม่ได้รับความร่วมมือ คนที่ทำงานระดับเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการชื่นชม ขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชน และขอขอบคุณประชาชนที่ให้โอกาส ศบค. ทำงานให้ดีที่สุด ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา และให้คำแนะนำ ขอบคุณครับ
Written By
More from pp
5 ข้อดีของการฝึกโยคะ
ทางเลือกของการออกกำลังกายในทุกวันนี้ มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเน้นในเรื่องการเผาผลาญไขมันในช่วงเวลาสั้นๆ การวิ่งมาราธอน การเต้นในรูปแบบต่างๆ ซึ่งก็อยู่ที่แต่ละคนจะเลือกตามความชอบ และเป้าหมายของการออกกำลังกาย
Read More
0 replies on “โฆษก ศบค. ตอบคำถามเพื่อชี้แจง ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอนำไปเป็นบทเรียนปรับปรุงการดำเนินงาน โดยขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา และให้คำแนะนำต่อไป”