2 ก.ค.63 เวลา 07.50 น. ที่สถานีตำรวจภูธรมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 9, พลเอก จตุพร กลัมพสุต ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตำรวจตรี ดุษฎี ชูสังกิจ และนายไพโรจน์จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ตรวจสอบการจับกุมยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ในพื้นที่ มูโนะ จังหวัดนราธิวาส
หลังมีการรับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ถึงกระบวนการขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่ด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้ามาผ่านพื้นที่ บ้านปะดาดอ ตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก่อนนำทีมเจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบ
โดยได้จัดกำลังร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สถานีตำรวจภูธรมูโนะ, หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 30 และ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอสุไหงโก-ลก ตระเวนตามเบาะแสของแหล่งข่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.30 ของวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจพบรถบรรทุก 18 ล้อ ขนาดใหญ่ ทะเบียน 70-5331 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ในพื้นที่หมู่บ้าน ซอยบ้านปะดาดอ มีนายสมชาย เทียนเครือ ที่อยู่ 49/7 หมู่ที่ 4 อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ขับ และ นายคำรณ จันทมณี ที่อยู่ 82/3 หมู่ที่ 2 ตำบลรำแดง อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นผู้โดยสารมากับรถบ
เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัว จากการสอบถามผู้ครอบครองรถให้การวกไปวนมามีพิรุธ จึงได้เชิญตัวพร้อมควบคุมรถคันดังกล่าวมาทำการตรวจค้นที่ สถานีตำรวจภูธรมูโนะ
ผลการตรวจค้น พบว่าได้มีการบรรทุกเหล็กเส้น พร้อมกระสอบ จำนวน 35 กระสอบ ตรวจค้นภายในกระสอบพบยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) บรรจุมาภายใน กระสอบละ 40 แท่ง รวมน้ำหนักยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ 1,420 กิโลกรัม
จากการสอบสวนนายสมชาย และ นายคำรณ ในขั้นต้น ทราบว่า ได้มีการนัดหมายกับ นายอาแว เมาะบากอ ที่อยู่ 95/1 หมู่ที่ 3 ตำบลนานาค อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ว่าให้ตนมาพบกับนายอาแว ณ จุดนัดพบภายในหมู่บ้าน จากนั้น นายอาแว จะนำทางไปส่งยาเสพติดในพื้นที่ อำเภอสุไหงโก-ลก และลำเลียงส่งต่อประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าติดตามจับกุม นายอาแว ทั้งที่บ้านในอำเภอตากใบ และบ้านภรรยาที่ อำเภอสุไหงโก-ลก แต่เนื่องจากไหวตัวทันจึงได้หลบหนีไปก่อน เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยในพื้นที่จัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจ รวมทั้งกำลังตามแนวชายแดนในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบุคคลเข้า-ออก อย่างเต็มที่ เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว เนื่องจากการจับกุมครั้งนี้มีของกลางเป็นจำนวนมาก ตีมูลค่ากว่าพันล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เน้นย้ำให้สืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า