ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (ดร.ส้ม) ส.ส.กทม.เขต 2 (ปทุมวัน บางรัก สาทร) พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม.เขต 1 (พระนคร ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ ดุสิต) พรรคพลังประชารัฐ นำทีมนักวิชาการทางด้านอาชาญวิทยา ประกอบด้วย ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล ประธานหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาอาชญาวิทยา (นานาชาติ) ม.มหิดล เข้ายื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ดร.พัชรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีเหตุการณ์น่าสะเทือนใจ การถูกข่มขืนและถูกล่วงละเมิดทางเพศมาอยู่ตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับผู้ถูกกระทำ ซึ่งไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้
ตนได้มีการศึกษาถึงแนวทางในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบของกระบวนการยุติธรรมต่อเหยื่อและผู้ที่กระทำผิดในคดีทางเพศมาโดยตลอด ตน ในฐานะนักวิชาการด้านอาชาญาวิทยา และกรรมาธิการศึกษาพิจารณาแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาการถูกข่มขืนกระทำและการล่วงละเมิดทางเพศ ร่วมกับ ส.ส.กานต์กนิษฐ์ ได้รวมกลุ่มนักวิชาการด้านอาชญาวิทยา เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีข้อเสนอแนะ 3 ข้อ คือ
1.ด้านการคุ้มครองผู้เสียหาย และคุ้มครองพยาน คุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเสนอภาพ ข่าว หรือข้อมูลใด ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงข้อเท็จจริงถึงตัวผู้เสียหาย
2.ด้านการเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหาย ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติต่อไป โดยผู้เสียหายต้องสามารถเข้าถึงกองทุนยุติธรรมได้โดยง่าย
3.การสร้างระบบติดตามผู้ต้องขัง หรือนักโทษที่กระทำความผิดทางเพศ ที่ได้รับการปล่อยตัว โดยการนำระบบลงทะเบียนติดตามความประพฤตินักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวมาใช้ ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ ที่เป็นทางเลือกเพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยปลอดภัยมากขึ้น จากปัญหาการถูกข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งเป็นภัยที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ตกเป็นเหยื่ออย่างยิ่ง
ซึ่งท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้มารับหนังสือด้วยตนเอง พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนถึงแนวทางต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยในประเด็นต่าง ๆ จะนำไปศึกษาหารือกับกมธ.แก้ไขและป้องกันปัญหาข่มขืนฯ ด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีความคิดเห็นที่รอบด้านมากขึ้น
ส.ส.กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรี ได้รับฟังและแลกเปลี่ยนในประเด็นดังกล่าว สำหรับในคดีของครูที่ จ.มุกดาหาร นั้น ทางกระทรวงก็ได้ใช้แนวทางของกฎหมาย ป.วิ อาญา มาตรา 237 ทวิ คือให้ศาลใช้วิธีการสืบพยานก่อนฟ้อง ซึ่งก็ถือว่าทิศทางเดียวกับที่ทางกลุ่มได้นำเสนอ รวมไปถึงท่านยังได้รับแนวทางในการลงทะเบียนติดตามนักโทษตามที่ทางกลุ่มได้เสนอแนะ ถือเป็นทิศทางที่ดีที่ทางกลุ่มนักวิชาการ และทางกระทรวงจะได้ร่วมกันผนึกกำลังในการแก้ไขปัญหานี้
ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันมีการกระทำผิดเกี่ยวกับเพศมากขึ้นและผู้เสียหายที่เป็นเด็กตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเพศสูงขึ้น ตนจึงอยากขอให้กระทรวงยุติธรรมได้ผลักดันเกี่ยวกับกลไกและมาตรการในเชิงการบริหารงานยุติธรรม ที่ดำเนินการเกี่ยวกับผู้กระทำผิดทางเพศ ทั้งทางด้านการสืบสวนการพัฒนาระบบข้อมูลผู้กระทำผิด(criminal profiling) การแก้ไขพฤตินิสัย การติดตามและเฝ้าระวังหลังปล่อยตัว รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ได้รับการบาดเจ็บทางจิต ในขณะเดียวกันได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาและการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม
#กทม #สสพปชร #พลังประชารัฐ #ยุติธรรม #อาชญาวิทยา #คุ้มครองเหยื่อ
