ย้อนตำนานอมตะของเรือนเวลาอันเป็นนิยามของความหรูหราสง่างาม

ลองจินส์ (Longines) คือแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสที่มีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่และยาวนาน “เทคนิคที่ถ่ายทอดกันมา”, “ความหรูหราสง่างาม”, “คุณภาพ” และ “ความเที่ยงตรง” เหล่านี้คือคุณค่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อ ออกุสต์ อากาซิซ (Auguste Agassiz) สร้างเครือข่ายช่างฝีมือและกลไกนาฬิกา ที่ผลิตชิ้นส่วนเพื่อส่งให้ Agassiz & Co. ประกอบขายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ มาจนถึงยุคบุกเบิกของหลานชายอย่าง เอิร์นเนสต์ ฟรานซิลลง (Ernest Francillon) ผู้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเทคนิคกลไกนาฬิกา และก่อตั้งโรงงานบนที่ดินหุบเขาริมแม่น้ำที่เรียกกันว่า “Longines” จนกลายมาเป็นชื่อของตำนานเรือนเวลาอมตะอันเป็นนิยามของความคลาสสิก โดยมีสัญลักษณ์เป็นโลโก้รูปนาฬิกาทรายติดปีกอันโด่งดังมาจวบจนปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 188 ปี ลองจินส์ให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมอย่างจริงจัง และเป็นผู้บุกเบิกด้านกลไกนาฬิกาในช่วงท้ายศตวรรษที่ 19 นาฬิกาของลองจินส์ยังได้รับความนิยมในกลุ่มนักผจญภัยในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 เนื่องจากความทันสมัยที่ตอบโจทย์และสามารถใช้กับกีฬาต่างๆ ทุกชนิด หลังจากนั้นได้มีการเปิดตัวนาฬิการะบบควอตซ์ที่ทันสมัยขึ้น อีกทั้งลองจินส์ยังเข้าใจดีเกี่ยวกับรสนิยมและการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ลองจินส์พามาย้อนการเดินทางของเรือนเวลาคลาสสิกตั้งแต่ปีค.ศ. 1832 – 1984 อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรือนเวลา 

ตระกูลต่างๆ ของลองจินส์ ก่อนจะพัฒนามาเป็นรุ่นที่ทันสมัยในปัจจุบัน

ปีค.. 1832: การก่อตั้งแบรนด์


ในปี ค.ศ. 1832 Auguste Agassiz ได้ร่วมมือผลิตนาฬิกากับช่างทำนาฬิกาอีกสองคนเพื่อดำเนินงานใน Raiguel Jeune et Cie comptoir ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นที่ทำงานของ Auguste Agassiz และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการผลิตนาฬิกา

Omega Marine

ปีค.. 1867: การก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกา

ในปีค.ศ.1867 นาฬิกาเรือนแรกภายใต้แบรนด์ลองจินส์พร้อมโลโก้นาฬิกาทรายติดปีกและหมายเลขรุ่น (Serial number) ได้ปราฏโฉมต่อสาธารณชน โดยนาฬิกาพร้อมหมายเลขรุ่น 335 คือนาฬิกาลองจินส์ที่เก่าแก่ที่สุดที่บริษัทมีไว้ในครอบครอง

ปีค.. 1900: งานเอ็กซ์โปปารีส (Expo Universelle Paris)

ลองจินส์เข้าร่วมงานเอ็กซ์โปในกรุงปารีสโดยได้จัดแสดงนาฬิกาพก La Renommée ที่ได้รับการติดตั้งด้วยกลไกโครโนมิเตอร์ และได้รับรางวัลภายในงานอีกด้วย ซึ่งต่อมาลองจินส์ยังได้รับรางวัลต่างๆ อีกมากมายจนทำให้ได้รับยกย่องว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก

ปีค.. 1902: นาฬิกาข้อมือเรือนแรกสำหรับสุภาพสตรี

ลองจินส์รังสรรค์นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรีมาตั้งแต่ปลายยุคศตวรรษที่ 19 โดยตัวเรือนสีทองจากปี 1902 นี้นับว่าเป็นเรือนที่เก่าแก่ที่สุดที่ได้เก็บรักษาอยู่ในคอลเลกชั่นประวัติศาสตร์ของลองจินส์

ปีค.. 1911: นาฬิกาพกสำหรับนักแข่งม้า

นาฬิกาพกโครโนกราฟและบอกเวลาด้วยเสียง (minute repeater) จากปี 1911 เรือนนี้ตกแต่งด้วยศีรษะม้า 3 ตัวที่อยู่
ระหว่างการแข่งขัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลที่ลองจินส์มีต่อกีฬาขี่ม้า นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์นาฬิกาพกที่ได้นา กลับมาทา ใหม่ในจา นวนจา กัด

ปีค.. 1916: นาฬิกาจิวเวลรี่


นอกจากจะรังสรรค์นาฬิกาข้อมือเรือนเล็กสุดหรูสำหรับสุภาพสตรีแล้ว ลองจินส์ยังได้นำเสนอเรือนเวลาที่เป็นทั้งนาฬิกาและเครื่องประดับที่สามารถเป็นจี้ห้อยคอ แหวน หรือเข็มกลัดอีกด้วย

ปีค.. 1935: นาฬิกาทหาร


ในปี 1935 ลองจินส์ได้ผลิตนาฬิกาให้กับกองทัพสหรัฐฯ โดยเรือนนี้มีความสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของความสวยงามและคุณสมบัติทางเทคนิคที่ตรงตามความต้องการของทหารทุกประการ จึงทำให้นาฬิกาเรือนนี้ได้จัดประเภทเป็น Type A-7 ซึ่งเป็นโมเดลที่โดดเด่นในเรื่องของหน้าปัดเอียง

ปีค.. 1936: การพัฒนา Siderograph


ปี 1936 ลองจินส์ได้พัฒนาเครื่อง Siderograph เพื่อบอกเวลาทางดาราคติ ณ เมืองกรีนิช ซึ่งเครื่องนี้เปรียบเสมือนกับต้นแบบของเครื่อง GPS และเป็นที่นิยมในหมู่นักบินและนักเดินเรือ ปัจจุบันนักสะสมต่างก็พากันตามหาเครื่องนี้ที่เป็นของหายาก

ปีค.ศ. 1939: โครโนกราฟ


ในปี 1939 ลองจินส์ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการจับเวลาให้กับวงการกีฬามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยได้เปิดตัวกลไกคาลิเบอร์โครโนกราฟ 24-line ออกมา 


ปีค
.. 1946: คาลิเบอร์ 13ZN

นาฬิกาตัวเรือนสตีลจากปี 1946 เรือนนี้มีกลไกโครโนกราฟที่โด่งดังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลองจินส์ โดยใช้คาลิเบอร์ 13ZN จากปี 1936 ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกายกย่องให้เป็นคาลิเบอร์ที่ดีที่สุดที่ลองจินส์เคยผลิตมาก็ว่าได้

 

ปีค.. 1954: Conquest

นับตั้งแต่ช่วงปี 1950 เป็นต้นมา นาฬิกาของลองจินส์ก็ได้รับการแบ่งให้เป็นหมวดหมู่ โดย Conquest นับเป็นตระกูลแรกของแบรนด์ มีเอกลักษณ์ที่ฝาหลังตกแต่งรูปเหรียญลงยา

ปีค.. 1959: Diver นาฬิกาดำน้ำ


นาฬิกา Diver เรือนนี้ผลิตขึ้นในปี 1959 โดยมีตัวเรือนแบบขันเกลียวและฝาหลังตกแต่งเหรียญรูปนักดำน้ำถือฉมวก หลังจากเป็นที่นิยมใช้ในหมู่กองทัพในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นาฬิกาดำน้ำเรือนนี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่คนธรรมดาทั่วไปในช่วงปลายยุค 1950 ซึ่งเป็นช่วงที่กีฬาทางน้ำได้รับความนิยมอย่างมาก

ปีค.. 1984: Conquest VHP


อีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ทำให้ลองจินส์ขึ้นมาเป็นผู้นำในด้านกลไกควอตซ์คือการพัฒนารุ่น Conquest V.H.P. (Very High Precision) ขึ้นมาได้สำเร็จในปี 1984 มาพร้อมความเที่ยงตรงสูง (± 1 นาที/5 ปี) ทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงสูง 5-10 เท่ากว่านาฬิกาควอตซ์ทั่วไปในยุคนั้น

จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่อดีต ชื่อของลองจินส์คือนิยามของความหรูหราสง่างามที่ผู้ที่หลงรักนาฬิกาและเหล่านักสะสมต่างหมายปอง ตัวเรือน ดีไซน์ รวมไปจนถึงวัสดุเลอค่าที่ประกอบขึ้นเป็นนาฬิกา ลองจินส์ในทุกๆ รุ่น ล้วนสะท้อนบุคลิกอันหรูหรา ไร้กาลเวลา และทำให้นาฬิกาทุกเรือนของ ลองจินส์เป็นมากกว่าอุปกรณ์บอกเวลา หากแต่ยังเป็นเครื่องประดับเลอค่าที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์การออกแบบและทัศนคติ ที่งดงามและน่าหลงใหลไม่แพ้ประสิทธิภาพในการบอกเวลาของกลไกล้ำยุคที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์สง่างามดังสโลแกนที่ว่า Elegance is an attitude อย่างแท้จริง

 

Written By
More from pp
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ร่วมแบ่งปันน้ำใจมอบถุงยังชีพฝากผ่านไปยัง ส.ส. ของพรรค พร้อมกำชับให้ ส.ส.ช่วยกันดูแล พี่น้องประชาชน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมแบ่งปันน้ำใจ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ที่เดือดร้อน ผ่าน ส.ส.กทม.ของพรรคทั้ง 12 คน เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยย้ำให้ ส.ส.กทม.รวมทั้งอดีตผู้สมัคร...
Read More
0 replies on “ย้อนตำนานอมตะของเรือนเวลาอันเป็นนิยามของความหรูหราสง่างาม”