15 ธันวาคม 2568 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยผ่านการแถลงข่าวของศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ตามหลักกติกาสากลพื้นที่โบราณสถานไม่ควรถูกใช้เป็นที่ตั้งหรือฐานปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากการสู้รบ
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ขณะนี้ มีข้อบ่งชี้ว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ดัดแปลงพื้นที่โบราณสถาน เช่น บริเวณปราสาทตาควาย เพื่อใช้ประโยชน์ทางทหาร นำไปสู่การใช้อาวุธและก่อให้เกิดความเสียหายแก่โบราณสถานในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
อธิบดีกรมศิลปากร ยืนยันว่า กรมศิลปากร ศักยภาพ องค์ความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีในการฟื้นฟูและบูรณะปราสาทตาควาย รวมถึงโบราณสถานต่าง ๆ ให้กลับมามีความมั่นคง แข็งแรง และใกล้เคียงสภาพสมบูรณ์ดังเดิม โดยมีตัวอย่างความสำเร็จจากการบูรณะโบราณสถานสำคัญในอดีต อาทิ ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทพิมาย และปราสาทสด๊กก๊อกธม ประกอบกับปัจจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาสนับสนุนจึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า กรมศิลปากรสามารถบูรณะฟื้นฟูโบราณสถานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาคืนสภาพได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากรมีอำนาจดำเนินการบูรณะเฉพาะโบราณสถานที่ตั้งอยู่ในเขตประเทศไทยเท่านั้น โดยย้ำว่า ตราบใดที่โบราณสถานยังอยู่บนผืนแผ่นดินไทย กรมศิลปากรสามารถเข้าไปซ่อมแซมและบูรณะได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า โบราณสถานทุกแห่งที่อยู่ในเขตแดนอธิปไตยของไทย ได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และมั่นคง
“กรมศิลปากรมีอำนาจที่จะบูรณะเฉพาะโบราณสถานที่ตั้งในประเทศไทยเท่านั้น หากแม้นเราเสียดินแดนที่เป็นปราสาทเหล่านี้ไป กรมฯก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย แต่ตราบใดที่แผ่นดินนั้นเป็นของเรา เมื่อเหตุการณ์สงบเราสามารถที่จะบูรณะให้กลับมาได้ดังเดิมหรือสมบูรณ์มากกว่าเดิม”
