ผักกาดหอม
ผ่านไปแล้วครับ…
ที่ประชุมรัฐสภาเขารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งกรรมาธิการ เดินหน้ากันไปเรียบร้อย
ชิงไหวชิงพริบกันพอหอมปากหอมคอ แต่เปลืองน้ำเปลืองไฟไปไม่น้อย
ขั้นตอนหลังจากนี้ต้องติดตามว่า ส.ส.ร.จะมีที่มาอย่างไร ใช้เวลายกร่างเท่าไหร่ กระบวนการมีอะไรบ้าง ภาพรวมก็คือตีเช็คเปล่าให้ ส.ส.ร.ไปเขียนรัฐธรรมนูญใหม่
เสร็จแล้วรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ที่กำลังใช้กันอยู่ก็ถูกฉีกทิ้ง
หมดสภาพการบังคับใช้ไป
ที่น่าสนใจคือ ในรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ หากมีการแก้ไขกติกายุบพรรค คุณสมบัติรัฐมนตรี อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ บรรดาบุคคลที่ถูกให้เว้นวรรคทางการเมืองจะหวนกลับมาทันที
มีใครบ้าง?
คนที่ถูกตัดสิทธิ์เพราะยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล “ธนาธร-พิธา” เหมือนนักโทษที่ออกจากคุกก่อนกำหนด
“เศรษฐา ทวีสิน-แพทองธาร ชินวัตร” กลับมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยได้อีกครั้ง
บุคคลเหล่านี้จะมีคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจครับว่า ที่หลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคส้ม กับพรรคเพื่อไทย ขู่ฟ่อมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ ที่ยึดโยงเผด็จการนั้นไม่เป็นประชาธิปไตย จะต้องจัดการกับองค์กรอิสระให้สิ้นซาก
คุณสมบัติรัฐมนตรีที่อ้างว่าเป็นนามธรรม เช่นเรื่องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ละเมิดจริยธรรมร้ายแรง จะถูกตัดออกทั้งหมด
แต่การยกร่างรัฐธรรมนูญจริงๆ อยู่ที่ ส.ส.ร.!
หากพรรคการเมืองกลุ่มนี้รวมหัวกลายเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภาได้ ก็คุม ส.ส.ร.ได้
สามารถครอบงำการยกร่างรัฐธรรมนูญได้
ฉะนั้นการเลือก ส.ส.ร.จะกลายเป็นศึกใหญ่ ระหว่างขั้วการเมืองที่จับกลุ่มใหม่เป็นการเฉพาะกิจอีกครั้ง
กระบวนการเลือก ส.ส.ร.จะเกิดขึ้นในรัฐสภาชุดถัดไป หากประชามติครั้งแรกผ่าน
ถึงเวลานั้นพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนจะจับมือกันชั่วคราว
ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะจับมือกับ สว.สีน้ำเงิน
ก็ไม่ทราบว่าฝั่งไหนจะมีกำลังมากกว่ากัน เพราะยังไม่รู้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไร แต่ภาพรวมมันจะออกมารูปนี้
หากฝั่งเพื่อไทยกับพรรคส้มชนะ ใครที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองอยู่ ตัดชุดรอได้เลย
ได้กลับก่อนกำหนดแน่!
การอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวานนี้ ที่เป็นน้ำเป็นเนื้อ และตั้งข้อสังเกตไว้ชัดเจนที่สุดคือ คำอภิปรายของ “ชวน หลีกภัย”
“…ประสบการณ์ที่ใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเหล่านี้มา ทำให้ผมได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเองว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่เราจะเขียนให้ดีอย่างไรก็ตามแต่ เวลาปฏิบัตินั้นอาจจะเป็นเรื่องหนึ่ง ผมจึงขอนำประสบการณ์มาเป็นประโยชน์ เป็นข้อคิด ซึ่งสมาชิกในห้องนี้คงทราบดี แต่ผมหวังผลว่าประชาชนที่ไม่ได้ติดตามใกล้ชิดอาจจะมีความกังวลว่า ทำไมมาสนใจเรื่องนี้ ทำไมไม่พูดเรื่องปากท้อง ซึ่งผมขอบอกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นหลักของบ้านเมือง เป็นหลักที่จะบอกให้เรารู้ว่าอำนาจแต่ละฝ่ายมีมากน้อยเพียงใด
เมื่อไหร่ก็ตามถ้ามีการละเมิดอำนาจที่กำหนดไว้ บ้านเมืองจะมีปัญหา เราจึงย้ำเรื่องนี้ว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญคือโครงสร้างที่แท้จริง ที่จะให้รู้ว่าขอบเขตอำนาจแต่ละฝ่ายเป็นอย่างไร…”
“…ผมได้ใช้รัฐธรรมนูญจนถึงฉบับปี ๒๕๔๐ ที่เราพูดว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุดฉบับหนึ่งซึ่งอยู่ได้ ๑๐ ปี และล้มไปในปี ๒๕๔๙ ผมเป็นคนใช้รัฐธรรมนูญฉบับ ๔๐ เป็นคนแรก ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เราเคารพกฎเกณฑ์บ้านเมือง แต่หลังจากนั้นก็มีปัญหาติดตามมาจนในที่สุดเกิดเหตุเมื่อปี ๒๕๔๙ มีการยึดอำนาจด้วยเหตุผล ๔ ข้อ
๑.มีพฤติกรรมทุจริตโกงกินอย่างรุนแรง ๒.มีพฤติกรรมแตกแยกสามัคคี ๓.มีพฤติกรรมแทรกแซงองค์กรอิสระจนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ๔.มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จึงเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญปี ๕๐…”
“…รัฐธรรมนูญปี ๕๐ ได้เขียนวรรคสอง (มาตรา ๓ วรรค ๒) ให้อำนาจเหล่านั้นปฏิบัติภารกิจโดยยึดหลักนิติธรรม ประธานฯ ก็ทราบดีว่าไม่ต้องเขียน ทุกฝ่ายก็ต้องยึดหลักนิติธรรมอยู่แล้ว แต่ทำไมถึงมาเขียนวรรคสองในรัฐธรรมนูญปี ๕๐ รวมมาถึงปี ๖๐ ด้วย ไหนถ้อยคำที่เป็นการบังคับให้ยึดหลักนิติธรรม คำตอบก็คือในระหว่างที่ใช้รัฐธรรมนูญปี ๔๐ ที่เราคิดว่าเป็นฉบับที่ดีที่สุด ได้เกิดเหตุการณ์ในการละเมิดหลักนิติธรรม ทั้งเรื่องยาเสพติด มีการฆ่าตัดตอนในภาคใต้ จนเป็นเหตุให้รุนแรงมาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับหลังจากนั้นจึงเขียนข้อความเปลืองกระดาษไปอีก ๓-๔ บรรทัดว่าทุกฝ่ายต้องเคารพหลักนิติธรรม ทั้งที่ความจริงไม่ต้องเขียนก็ต้องยึดอยู่แล้ว แต่สะท้อนให้เห็นการใช้รัฐธรรมนูญที่ผ่านมา…”
“…ขอฝากข้อคิดสำหรับประชาชนว่า หลักที่ว่าถ้าเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หลักนิติธรรมหลักกฎหมายเป็นหลักที่สำคัญที่สุดหลักหนึ่ง เมื่อไหร่เราละเมิดปัญหาจะติดตามมา ซึ่งถือเป็นข้อคิดที่ผมฝากข้อสังเกตไว้กับรัฐบาลปัจจุบันในวันแถลงนโยบายรัฐบาล โดยริเริ่มวางรากฐานของประเทศเพื่อให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง และเชิญชวนว่าเมื่อเรายุบสภาหลังจากครบสี่เดือนแล้วเลือกตั้งใหม่
เราเริ่มตั้งแต่วันนี้ คือรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวในเรื่องการเลือกตั้งที่สุจริต เพราะทั้งหมดมีที่มาว่าทำไมจึงได้มีการกระทำที่ผิดหลักนิติธรรมเกิดขึ้น
คำตอบคือ มีพฤติกรรมที่ผู้บริหารขาดความเข้าใจหลักนี้ และไม่เชื่อกฎหมาย ประโยชน์เป็นที่ตั้ง ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ถูกยกย่องว่าฉบับปราบโกง ซึ่งผมเห็นด้วยว่าจริงๆ แล้วโกงเพราะปราบรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีปัญหาทุจริตโกงกินทุกหย่อมหญ้า
พูดได้เลยว่าบ่อนการพนันกระจายไปทั่วประเทศเพื่อหาประโยชน์ส่งส่วยให้กับนักการเมือง เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าเกิดจากคุณภาพคน ผมจึงคิดว่าถ้าเรากลั่นกรองคนที่จะเข้ามาสู่กระบวนการประชาธิปไตยในฝ่ายไหนก็ตาม รวมทั้งฝ่ายนิติบัญญัติได้คนที่มีความสุจริตเที่ยงตรง ปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันก็อาจจะเกิดขึ้นน้อย…”
“แก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต ถ้าเรามองข้ามความสำคัญของผู้ใช้รัฐธรรมนูญ เราจะพลาดและเราจะมีปัญหา ผมจึงถ้ากฎหมายที่ดีที่จะมีต่อไปในอนาคตกับคนที่ดีต้องไปด้วยกัน ที่ผ่านมาทั้งหมดผมพูดในฐานะเป็นประจักษ์พยานที่เห็นรัฐธรรมนูญมาทุกฉบับ แม้ทั้งหมดเราจะเขียนมาไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ทำไมถึงมีปัญหา คำตอบคือผู้ใช้รัฐธรรมนูญ…”
ชัดเจนครับ…
ถามพรรคการเมืองทั้งหมดที่กำลังจะฉีกรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ แบบตรงๆ พวกคุณต้องการอะไรกันแน่
อ้างว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย แต่นักการเมืองส่วนใหญ่เองก็ไร้คุณภาพ
จะมีนักการเมืองสักกี่คนไม่พัวพันผลประโยชน์
ต่อให้มีรัฐธรรมนูญใหม่สมใจอยาก ก็แทบไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่าคุณภาพนักการเมืองจะถูกยกระดับขึ้น
ถึงวันนั้นหากจะร้องหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีก ก็ควรจะจับเข้าค่ายทหารปรับทัศนคติสักปีสองปี
เผื่อจะมี “น้ำดี” ต่อท้าย สส.มากขึ้น.
