เปลว สีเงิน
“ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย” กับแผ่นดินไทย
มันมีเยอะจริงๆ!
เขมรมันใช้จรวดหลายลำกล้องจงใจยิงเข้ามาใส่บ้านเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และชาวบ้านในฝั่งไทย ที่ศรีสะเกษ จนพินาศวอดวาย
ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ บาดเจ็บและตายหลายสิบคน
พวกหวังดีแต่ประสงค์ร้าย เงียบ
UN ก็เงียบ
เขมรละเมิดกติกาโลก ลอบเข้ามาฝังกับระเบิดในเขตไทย ทำให้ทหารลาดตระเวณของไทย ต้องขาขาดไป ๖ นาย และบาดเจ็บอีกหลายนาย
ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้ายกลุ่มนั้น เงียบ
UN ก็เงียบ
เขมรหนีตายสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เข้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว บนความรู้เห็นของ UN
แผ่นดินไทยอยู่สบาย ว่าแล้วพวกเขมรก็ “อยู่แล้ว-อยู่เลย”
แถมทึกทักเอาแผ่นดินไทยที่ให้อยู่อาศัย ว่าเป็นแผ่นดินในดินแดนเขมรของมันไปหน้าด้านๆ ตามสันดานเขมร!
ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย เงียบ
UN ก็เงียบ
แต่พอ “กัน จอมพลัง” เอาเสียงหนังผี เสียงเครื่องบิน เอฟ-๑๖ มาเปิดให้ฟังแก้ง่วงที่บ้านหนองจานเท่านั้นแหละ
ไม่ทำให้ชาวบ้านตาย ไม่ทำให้ทหารขาขาด ไม่ทำให้อาคาร-ร้านค้า-โรงพยาบาล-บ้านเรือน ไฟไหม้
ตรงกันข้าม การเล่นหลอกผี มันช่วยกระชับสามัคคี สนุกดีจะตาย เพราะการกลัวผีทำให้ทุกคนต้องมาจับกลุ่มหรือนอนสามัคคีคลุมโปงด้วยกัน
ที่ไหนๆ เขาก็เล่นกัน เพื่อความฮาและสนุกสนาน ซึ่งไม่มีใครเขาถือเป็นเรื่องจริงจัง ตอนผมเป็นเด็กวัด ตอนดึกๆ มึงหลอกกู-กูหลอกมึง บางครั้งนอนคลุมโปงจนเยี่ยวราด
มีแต่ไอ้-อี “พวกดัดจริต” นี่แหละ วี๊ดว๊ายกันยกใหญ่ ทำแบบนี้ ไทยแพ้เขมรแน่ เพราะผิดทั้งกฎหมาย ผิดทั้งกฎมนุษยธรรม
โธ่เอ้ย….ถามจริงๆ พวกสังคมดัดจริตนี่น่ะ
“ดึงขาไทย เพราะใจอยู่ข้างเขมร” อย่างนั้นหรือเปล่า?
ถ้า UN เอาเรื่องเสียงผีที่เขมรช่างฟ้องมาร้องและรับเป็นเรื่อง-เป็นราวละก็
แสดงว่า UN บ้อเท่าโล่ ไม่มีงานสำคัญที่จะทำ จึงเอาเรื่อง “ขี้หมูรา-ขี้หมาแห้ง” มาเป็นเรื่องในเวที “สหประชาชาติ”
เขมรยิงถล่มพลเรือนไทยตาย ยิงถล่มพยาบาล เขมรฝังทุ่นระเบิดทำให้ทหารไทยขาขาด ๖ นาย ซึ่งผิดกติกาโลกร้ายแรงเข้าขั้นก่อ “อาชญากรรมสงคราม”
แบบนี้ซี ที่UN ควรต้องเอาเรื่อง แต่กลับไม่เป็นเรื่อง!
แล้วดันจะมาเอาเรื่อง “เสียงผีที่บ้านหนองจาน” ขึ้นเป็นวาระโลก ถ้าอย่างนั้นละก็….
ยุบไปเถอะ “สหประชาชาติ” น่ะ น้ำยาในทางพิทักษ์สังคมโลก มันจบสิ้นไปตั้งนานแล้ว
ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ก็คอยเป็น “ลูกมือ-ลูกตีน” ให้สหรัฐฯ เท่านั้น ถ้าพิทักษ์โลกได้จริง ตอบได้มั้ย….ว่า
“ที่อิสราเอลฝืนมติยูเอ็นถล่มปาเลสไตน์ยึดเอากาซา” นั้น ถูกหรือผิด ฝืนมติแล้ว ยูเอ็นมีมาตรการอะไรบังคับได้?
เพราะสหรัฐฯ ทั้งสนับสนุน ทั้งรู้เห็นเป็นใจ เห็นทนโท่ทั้งโลก!
โลกตอนนี้ หวังพึ่งพระเจ้า-พึ่งยูเอ็นไม่ได้แล้ว ต้อง “ตัวใคร-ตัวมัน” ไม่มีใครช่วยใครได้หรอก ที่บอกว่าจะช่วย ก็ล้วนแต่ถือมีดไขว้หลังทั้งนั้น
วันนี้ ไม่คุย เพราะมีเรื่องอยากให้ท่านอ่านความเป็นมาเขมรที่บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ที่ UN รู้เห็น
แต่วันนี้ ทำเป็น “ไม่รู้-ไม่เห็น” กันเลยนะ
……………………………………..
ThaiTribune
ทำไม UNHCR ถึงเงียบ ? โดย ปฏิพล อภิญญาณกุล
13 ตุลาคม 2568 #UNHCR คืออะไร .. คือ #สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “ประวัติศาสตร์ชายแดนไทยโดยตรง” . มาดูเรื่องราวนี้กัน
มี 2 ชื่อหมู่บ้านในขณะนี้ ที่คนไทยส่วนใหญ่เพิ่งรู้จัก นั้นก็คือ
1 #หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว และ 2 #บ้านหนองจาน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ “ทวงคืน” ของ #กองทัพภาคที่1
เริ่มต้นที่ หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว กันก่อน
เดิมในอดีตนั้น บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วเป็นป่ารกร้าง ที่ว่าง .. ในปี 2537 เมื่อเหตุการณ์ #สงครามเขมร4ฝ่าย สงบลง
ทางราชการไทยได้ #จัดสรรที่ดินให้ราษฎร เข้ามาอยู่อาศัย
โดยจัดสรรให้ครอบครัวละ 14 ไร่
และเป็น #หมู่บ้านป้องกันตนเอง ตามชายแดนไทย-กัมพูชา
“นางสมพร เพชรจิตต์” ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ได้เห็นชาวเขมรเข้ามาในพื้นที่นี้ ตั้งแต่ปี 2539
แสดงว่า พอรัฐจัดสรรให้ราษฎรไทยได้ 2 ปี ชาวเขมรก็เริ่มเข้ามาบ้าง
นับจากนั้นมา คนไทยกับคนกัมพูชา ก็ค้าขายแลกเปลี่ยนกัน
#คนกัมพูชา เมื่อค้าขายได้ จึงชวนกันเข้ามาอยู่เพิ่มขึ้น จนกลายเป็น #รุกล้ำ
“บ้านหนองหญ้าแก้ว” อยู่ระหว่างหลักเขตที่ 42-43 และไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนอย่างที่บางฝ่ายอ้าง
เพราะมีหลักฐานรับรองโดย #JBC (Joint Boundary Commission) ..ว่าเป็นพื้นที่ของประเทศไทย
#รัฐบาลเขมร ก็รู้อยู่เต็มอก แต่ไม่ยอมใช้กฏหมายเอาคนของตนกลับไป
มาดูอีกแห่ง คือ “บ้านหนองจาน” หมู่บ้านนี้สำคัญมาก อดีตเคยเป็น “ค่ายน้ำใจ” ให้ที่ซุกหัวนอนแก่ชาวเขมร
มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า #แคมป์511
ช่วง #สงครามกลางเมืองเขมร ตั้งแต่ปี 2518 – 2536 #ไทย รับบท 3 ประเทศมนุษยธรรม มาโดยตลอด
#ผู้ลี้ภัยชาวเขมร ระลอกแรก เข้ามาเมื่อปี 2518 ตอนนั้น คนเขมรถูกเขมรแดง #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
พอปี 2522 เวียดนามก็บุกเข้าประเทศเขมร คนเขมรนับหมื่นๆ ก็หนีเข้ามาในไทยอีก
พ.ศ. 2527-2527 ทหารเวียดนามเริ่มโจมตีตามแนวชายแดนไทย พวกเขาก็หนีมาพึ่งไทยอีก
ประเทศไทยมี #ค่ายอพยพ มากมายหลายสิบค่าย ตั้งอยู่รอบ ๆ ชายแดน เพื่อรองรับผู้ลี้ภัย
แต่เฉพาะ “ค่ายผู้อพยพบ้านหนองจาน” ในช่วงเวลานั้นมีคนประมาณ 13,000 คน .. รัฐบาลไทยต้องสร้างที่พักชั่วคราวไว้ให้อาศัย
ในปี 2522 รัฐบาลไทยประเมินว่า ชาวเขมรอพยพคงต้องอาศัยอยู่ที่นี้อีกนาน ด้วยเหตุการณ์ในกัมพูชายังร้อนระอุ ยิงฆ่ากันทุกวัน
ไทยจึงร่วมกับ #องค์กรบรรเทาทุกข์ (UNRWA) และ 3 CARE จัดให้บ้านหนองจานเป็นแหล่งแจกอาหาร และแจกเมล็ดพันธุ์ข้าว
พร้อมให้อุปกรณ์ทำนา หาปลา เพื่อให้พวกเขาประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้
ตั้งแต่เริ่มต้นใช้พื้นที่บ้านหนองจาน ตั้งแต่ปี 2518 นั้น ไทยได้ร่วมมือกับ #ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ของสหประชาชาติ หรือ UNHCR มาโดยตลอด
ทหารฝ่ายไทย และผู้แทน UNHCR ได้ตกลงเลือกพื้นที่ระหว่างหลักเขต 46-47 ในไทย สร้างเป็นที่พักพิงหรือแคมป์ 511 ขึ้นมา
นั้นก็แสดงว่า UNHCR รู้อยู่แล้วว่า หลักเขต 46-47 หรือบ้านหนองจาน เป็นดินแดนของไทย
ไม่มีใครที่ไหนหรอก จะไปสร้างค่ายผู้ลี้ภัยในดินแดนประเทศที่กำลัง “ฆ่าคนของตัวเอง”
ถ้าบ้านหนองจาน อยู่ในเขตกัมพูชา ?
ทหารไทยจะเข้าไปสร้างค่ายให้ได้หรือ ?
จะสร้างอาชีพทำนา จับปลา ให้พวกเขาได้หรือ ?
ด้านหลังหมู่บ้านบ้านหนองจาน มีสระน้ำที่ถูกขุดขึ้นเพื่อให้คนเขมรได้ใช้ ก็เป็นสระน้ำที่ #UN ขุดให้
เขาจึงเรียกสระน้ำนี้ว่า “สระน้ำ UN”
เวลานั้น ชาวเขมรล้นทะลักเข้ามามาก ทางไทยต้องประกาศงดรับผู้อพยพ เพราะเราต้องทุ่มเทเงินทอง บุคลากรไปดูแลแต่เขมรไม่ได้
แต่ทาง UNHCR ไม่ยอม ..
ไทยจึงต้องจัดงบประมาณของประเทศส่วนหนึ่ง รวมกับงบที่ได้จาก UHHCR ดูแลผู้อพยพ
ไม่ได้ดูแลแค่ 1-2 ปี แต่ดูแลตั้งแต่ 2518-2536 เป็นเวลา 18 ปี
ดังนั้น การช่วยเหลือให้ที่พักพิง เกิดขึ้นตลอดภายใต้สงครามกลางเมืองเขมร คนเขมรรู้อยู่ว่า พึ่งพาแผ่นดินไทย .
แต่ “ผู้นำเขมร” กลับไม่รับน้ำใจนี้
กลับผลักภาระการดูแลชีวิตของเขมร ให้มาอยู่บนบ่าของรัฐบาลไทย ทั้งอาชีพ การศึกษา และรักษาพยาบาล
เมื่อผ่านมาถึงยุคสมัยรัฐบาล “พลเอก.ชาติชาย ชุณหะวัณ” เป็นนายกฯ (2531-2534) ได้มีนโยบายชายแดน
คือ “#เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า”
มองความมั่งคั่ง มากกว่า ความมั่นคง
รัฐบาลพลเอกชาติชาย จึงได้มีการเชิญ #ฮุนเซน ที่เคยอยู่กับ #เขมรเฮงสัมริน ภายใต้อำนาจของเวียดนาม มาคุยเรื่องการค้า
(*ฮุนเซน เป็นหนึ่งในคนที่ไปหาเวียดนาม ให้มาปราบเขมรแดงและเขมรอื่นๆ เท่ากับไปชักชวนให้คนอื่นมาฆ่าคนเขมร เพียงเพื่อตนได้ชัยชนะและได้ประโยชน์)
เมื่อนโยบาย “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” เกิดขึ้น เขมร 4 ฝ่าย ที่สู้กัน ต่างก็หมดแรง พ่ายแพ้และตายไป
พอเหตุการณ์ภายในเขมรเบาบาง……
ค่ายอพยพเขมรในไทยจึงถูกผลักให้พวกเขากลับไปเขมรและทยอยปิดค่ายลง
แต่คนเขมรในบ้านหนองจาน มีอาชีพแล้ว มีที่ทำกินแล้ว จึงไม่ยอมกลับถิ่น
ฮุนเซน พลันกลอกตาเจ้าเล่ห์ คิดว่า “การยึดครองที่บ้านหนองจานแห่งนี้ถือเป็น “กำไร” ในความโงที่ใจดีของไทย”
และจาก “ความไม่เอาไหนของ UNHCR”
เพราะตั้งแต่เกิด #สงครามชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้นำเขมรล้วนแต่เสแสร้งแกล้งเล่นละครว่า
“ไทยรังแกพวกเขา…รุกรานดินแดนพวกเขา”
ผู้เขียน พยายามนิ่ง สดับตรับฟัง มาตั้งนาน ยังไม่เคยได้ยินเสียงของ “ตัวแทนสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ” UNHCR – ออกมาพูดถึงเรื่องนี้สักแอะเดียว
“UNHCR” จำสระน้ำที่พวกคุณสร้างได้ไหม?
ลองเปิดย้อนบัญชีรายรับ+รายจ่าย ในปีที่เกิด #ค่ายลี้ภัยชายแดนไทยดู ว่ามีไหม?
“UNHCR” จำการไปขอความร่วมมือกับชาวบ้านที่บ้านหนองจานในการ “ขอใช้ที่ดินชาวบ้าน” เพื่อสร้างแคมป์ 511ได้ไหม ?
ตอนนี้ UNHCR ทำไมไม่ออกมาเป็นพยาน ในหลักเขต 46-47 ว่า “เป็นของไทย” อย่างแท้จริง
#TruthFromThailand
#Thaitribune
………………………………….
เอาละ..จบ
วันนี้เลยไม่ได้ตามไปดูว่า “กัน จอมพลัง” เขาฉายหนังกลางแปลงเรื่องอะไรให้ทหารไทยและเขมรทาสได้บันเทิงประจำคืน!
เปลว สีเงิน
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘
