“สุรเดช” พูดแทนชาวเหนือ เผยหมดไม่มีกั๊ก แนะเพื่อไทยหัดถอดบทเรียนความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้งที่สำเร็จมาแล้วทั่วประเทศ

“สุรเดช” พูดแทนชาวเหนือ เผยหมดไม่มีกั๊ก แนะเพื่อไทยหัดถอดบทเรียนความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้งที่สำเร็จมาแล้วทั่วประเทศ เผยปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ต้องเร่งดักทางก่อนเกิดเหตุ ประชาชนได้รับผลกระทบ

18 กรกฎาคม 2568 นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ภาคเหนือของไทยที่ตอนนี้ข่าวน้ำท่วมในหลายจังหวัด ว่า หากพรรคพลังประชารัฐ มีโอกาสแก้ปัญหานี้ คงไม่ยากจนเกินไป เริ่มต้นต้องใช้วิธีเกลี่ยน้ำ เสียก่อน หมายความว่า น้ำมีระดับของมัน สมมุติ ระดับน้ำปกติสูง 5 เมตร แล้วมีน้ำขึ้นมาระดับ 5.20 เมตร ก็ต้องเร่งเคลียร์น้ำที่เพิ่มขึ้น 20 ซม.นี้ โดยเกลี่ยให้ไปอยู่ในพื้นที่อื่นใกล้เคียง ที่มีปริมาณน้ำน้อยยังสามารถรับน้ำได้อีกเสียก่อน และจึงเร่งแจ้งพี่น้องประชาชนให้ทราบ

รัฐบาลก็ต้องเร่งบูรณาการบริหารจัดการน้ำ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานเร่งแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม ทำให้น้ำไม่ท่วม มี 4 กรมฯ 1 ศูนย์ฯ คือ 1. กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย 2.กรมอุตุนิยมวิทยา 3.กรมชลประทาน 4. กรมทรัพยากรน้ำ และ 5 ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ

ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องติวเข้มหาคนเก่ง มีความรู้ ความสามารถ ที่เหมาะสม มาเป็นหัวหน้า ตัวขับเคลื่อน ต้องไม่มีระบบเส้นสาย แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพ ทุกหน่วยงานมีอธิบดี-ผู้อำนวยการ คนเป็นรัฐมนตรี ไม่ว่า กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือกระทรวงใดๆที่เกี่ยวข้อง ต้องมีหน้าที่ลงไปติดตามงาน ให้มีการเตรียมการณ์ให้พร้อม ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุแล้วเพิ่งลงไปช่วยชาวบ้าน ต้องทำงานในเชิงรุก

หากย้อนกลับไปในสมัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ดูแลการบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ ท่านพล.อ.ประวิตร ได้นำหน่วยงานเหล่านี้มาบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้ ประสบความสำเร็จ น้ำไม่ท่วมซ้ำซาก เหมือนรัฐบาลชุดปัจจุบัน

“รัฐบาลตอนนี้เหมือนขี่ม้าปล่อยมือ เหมือนไม่ได้สนใจเรื่องน้ำท่วม-น้ำแล้ง อย่างจริงจัง หากจะให้พูดก็เหมือนแค่ต้องการใช้งบประมาณหรือไม่” นายสุรเดช กล่าว.

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวอีกว่า ปกติระบบเตือนภัยสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้หลายชั่วโมง ตามมาตรฐานในต่างประเทศ แจ้งประชาชนก่อนประมาณ 6-12 ชั่วโมง สำหรับเมืองไทยควรแจ้งเตือนได้ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง แต่ชาวบ้านในพื้นที่บอกผมว่า พวกเขารู้ตัวก่อน แค่ 1-2 ชั่วโมง แล้วจะไปเตรียมตัวอะไรทัน จะขนข้าวขนของอย่างไรไม่ให้เกิดความเสียหาย

นายสุรเดช เสนอแนะต่อว่า การแก้ปัญหา ระยะสั้น เห็นควรต้องเปลี่ยนตัวคนทำงานให้มีประสิทธิภาพ ความรู้ ความสามารถ เข้ามาแทนหรือไม่ หรืออาจมีการตั้งทีมงานมาตรวจสอบการทำงาน หากพบมีความผิดต้องมีการลงโทษ รวมถึงอาจมีการพิจารณาโยกย้าย หากชาวบ้านยังประสบปัญหาซ้ำซากอยู่หรือไม่?

ระยะกลาง ต้องให้กรมฯและกระทรวงต่างๆที่มีหน้าที่ ทั้ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องมาบรูณาการงานร่วมกันเป็นระบบให้ได้

“ส่วนระยะยาว จัดการกับปัญหาตัดไม้ทำลายป่า บนที่สูง เช่น บนดอย หรือ บนภู ต้องไม่ปล่อยให้ชาวบ้านขยายพื้นที่เพาะปลูกแบบผิดกฎหมาย ต้องเข้าไปกำหนดพื้นที่เกษตรกรรมให้กับประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้อง ส่วนที่ดินผืนใดที่ผิดกฎหมายให้ยึดคืนมาเป็นของรัฐ และทำการปลูกต้นไม้ ปลูกป่า เมื่อต้นไม้เติบโตก็จะเป็นปราการซับน้ำ เป็นการป้องกันน้ำท่วม-น้ำแล้ง-ดินโคลนสไลด์ แบบถาวร รวมทั้งต้องสร้างอ่างเก็บน้ำบนยอดเขา เวลาหน้าแล้งจะได้กักเก็บน้ำ ขณะหน้าฝนพร่องน้ำออกซักครึ่งหนึ่ง จะได้รองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา เป็นการป้องกันปัญหาแบบยั่งยืนด้วย “รองหัวหน้า พปชร.” กล่าว.

Written By
More from pp
APEX Medical Center ผนึก Allergan ชูนวัตกรรมไฮเทคระดับโลก เปิดตัว Coolsculpting Elite สุดยิ่งใหญ่ เอ็กซ์คลูซีฟที่แรกในไทยและแห่งแรกในอาเซียน
แพทย์หญิงนันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แพทย์ผู้ก่อตั้ง APEX Medical Center ร่วมทอล์กพิเศษแลกเปลี่ยนมุมมองและแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จนวัตกรรมเครื่อง Coolsculpting Elite ครองกระแสตอบรับดีอย่างต่อเนื่องตลอด 11 ปี
Read More
0 replies on ““สุรเดช” พูดแทนชาวเหนือ เผยหมดไม่มีกั๊ก แนะเพื่อไทยหัดถอดบทเรียนความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้งที่สำเร็จมาแล้วทั่วประเทศ”