ไทย “ไม่เคยสิ้น” ไส้ศึก #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

ประกาศ

ยกเลิกพระบรมราชโองการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์

และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์

………………………………………………………….

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า

ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาสมณศักดิ์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ จำนวน 77 รูป รวมทั้งหมด 81 รูป

ตามประกาศพระบรมราชโองการ จำนวน 2 ฉบับ ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2568

ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568 นั้น

บัดนี้ ทรงมีพระราชดำริว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับพระภิกษุ ซึ่งประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่สมณสารูป และพระราชาคณะกระทำผิดพระธรรมวินัย เป็นเหตุให้พุทธศาสนิกชนได้รับผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างยิ่ง

จึงประกาศยกเลิกพระบรมราชโองการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์และพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568

ประกาศ ณ วันที่ 15 กรกฎาคม พุทธศักราช 2568

เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน

…………………………………………………………

ความชัดเจนตามประกาศนี้แล้วนะครับ คงไม่ต้องอธิบายขยายความอะไรอีก!

คุยกันเรื่องอื่นดีกว่า ถ้าอยากหาพระดี ผมจะบอกให้ ไม่ต้องไปซอกซอนหาที่ไหน

-ใจไม่โลภ-อยากได้จนเกินงาม

-ใจไม่โกรธ-อาฆาต พยาบาทผู้อื่น ถึงขั้นแค้นฝังหุ่น และ

-ใจไม่หลงในอบาย คือหนทางสู่ความฉิบหายรูปแบบต่างๆ

นี่แหละพระ…..

รู้แล้วก็กราบตัวเอง ทำนุบำรุงรักษาพระในตัวเองให้หนักแน่น-มั่นคง จะได้ชื่อว่าผู้ทำหน้าที่สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาเช่นกัน

บ้านเมืองเราช่วงนี้ ต้องบอกว่า มีวันละเรื่อง-สองเรื่อง ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงหัวใจจากกะปลก-กะเปลี้ย ให้กระปรี้-กระเปร่าดีจังเลย

ที่ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวาน (๑๕ ก.ค.๖๘) นึกว่าเกิดติ๊ดชึ่งกันซะแล้ว เหตุจากหญิงชาวเขมรขึ้นมาพูดจาภาษาดอกไม้กับทหารไทย เคราะห์ดีทหารทั้ง ๒ ฝ่ายมีวุฒิภาวะ

แยกๆ กัน กลับไปอยู่ในแดนของตน ก็หมดเรื่อง-หมดราวกันไป แบบนี้ ซักวัน ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะตบะแตกก่อนกัน

เพราะทางเขมร ส่งดาวยั่วขึ้นมาเร้าประสาทแทบทุกวัน!

ดูเขาพยายามยั่วให้ฝ่ายไทยตบะแตกก่อน เพื่อนำไปตีฆ้องร้องป่าวกับชาวโลกว่าทหารไทยใช้กำลัง แล้วก็แจ้นไปฟ้องศาล

งั้น เอางี้ดีกว่า….

เห็นนายกฯ ฮุน มาเนต ประกาศ ปีหน้า ๖๙ เกณฑ์ชาย-หญิงอายุ ๑๘ ขึ้นไปเป็นทหารเข้าประจำการมิใช่เรอะ?

ฉะนั้น ปีนี้ อย่าเพิ่งห้าวกันนักเลย และอย่าส่งดาวยั่วขึ้นมากวนบั้นท้ายเท้า แถว ๓ ปราสาท ให้มันมากนัก

ไปเตรียมตัว-เตรียมใจให้พร้อม พร้อมเมื่อไหร่ ก็เกณฑ์กำลังพล ยกกันมาเป็นกองทัพ ในปีหน้าก็ยังทัน

มาชมปราสาทนะ ไม่ใช่มารบกัน อย่าเข้าใจผิด!

อยากชมปราสาทไหนก่อน บอกได้เลย ทหารไทยปูเสื่อนอนรอข้ามปี พร้อมน้อมสนองตลอด ๒๔ ชั่วโมง

ในเมื่อ ๓ ปราสาท เป็นของไทย อยู่ในเขตแดนไทย ผมก็สงสัยอย่างที่ชาวบ้านสงสัย ว่าทำไมต้องให้ทหารเขมรมาร่วมดูแลกับทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธมด้วย?

เท่าที่ผมดูๆ ฟังๆ ทราบว่า แต่ก่อนที่ปราสาทตาเมือนธม มีรั้วหรือกำแพงกั้น แต่มารื้อไปภายหลัง?

เห็นตอนนี้ ชนชาวโซเชียลมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ทำรั้วหรือกำแพงกั้นอาณาเขตให้ชัดเจนไปเลย

ทหารไม่ปฏิเสธ แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะอนุญาตหรือไม่?

ได้ยินข่าวทางฝั่งเขมรเขาว่า ก่อกำแพงหรือทำรั้วกั้นเมื่อไหร่ ก็ต้องทำศึก-ทำสงครามกันเมื่อนั้น

อูยยยยย….กลัวจังเลย!

ผมก็มานั่งคิด-นอนคิดแบบชาวบ้าน เออ…มันก็มีเหตุผลนะ ๓ ปราสาทนั่น ทั้งตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย

ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๘ ซึ่งตอนนั้น เขมรยังเป็นขี้ข้าฝรั่งเศสอยู่เลย

และฝรั่งเศสก็ยอมรับว่า ๓ ปราสาทนั้นเป็นของไทย อยู่ในเขตแดนไทย

เมื่อประจักษ์ทั้งทางประวัติศาสตร์และทางความเป็นจริง

เออ…เราก็ทำกำแพงหรือรั้วกั้นในเขตแดนไทยเราได้นี่ จะต้องไปแยแสพวกเคลมโบเดียทำไม?

และอีกอย่าง ในเมื่อ ๓ ปราสาทเป็นของไทยชัดๆ ใครให้ทหารเขมรมาดูแลความเรียบร้อยปราสาทตาเมือนธมร่วมกับทหารไทย….อยากเห็นหน้าจัง?

เนี่ย ผมก็อยากให้รัฐบาล โดยกระทรวงกลาโหม ทำความจริงให้ประจักษ์ใน ๒ เรื่องนี้

คือเรื่องล้อมรั้ว เคยมี…แต่รื้อไปจริงมั้ย ถ้าจริง…ใครสั่งรื้อ รื้อสมัยไหน?

กับเรื่องให้ทหารเขมรมาร่วมดูแลปราสาทตาเมือนธม ใครเป็นคนตกลงในมาตรการนี้ ในสมัยไหน?

พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ เมื่อนึกได้ปุ๊บ ก็เกิดความฉงนปั๊บ!

คือ ไทย เป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีกระทรวงกลาโหม แต่ไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีแต่รัฐมนตรีช่วย!?

งานกลาโหม ว่าด้วยความมั่นคงประเทศชาติบ้านเมือง มันไร้ความหมาย ไร้ความสำคัญ ถึงขั้นไม่จำเป็นต้องมีเจ้ากระทรวงขนาดนั้นเชียวหรือ?

ไหน…นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผู้เลอโฉมและมีปัญญาเป็นเลิศ ช่วยบอกเหตุผลทีซิ ว่าทำไมไม่ยอมให้กลาโหมมีหัว?

ตอนนี้ กลาโหม มี “พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์​​” เป็นแค่ รมช.หนึ่งเดียวโด่เด่ของกระทรวง

ส่วนรัฐมนตรีว่าการ เดิมคือนายภูมิธรรม พอปรับ ครม.นายใหญ่เขาให้ไปนั่งว่าการมหาดไทยแทนนายอนุทิน

แล้วที่กลาโหมก็ไม่ยอมตั้งใครเป็นรัฐมนตรีว่าการ​​!?

ก็ยุ่งละซี ……

นี่ก็ปล่อยข่าวหยั่งเชิงจะให้ฝรั่งมังฆ้องมาตั้งฐานทัพเรือแถวพังงา ในภาวะบ้านเมืองมีทั้งไส้ศึก มีทั้งคนขายชาติ คนกบฏชาติ  แต่ประเทศ ไม่มีรัฐมนตรีกลาโหม?!

ครั้นจะถามกับ “พลเอกณัฐพล” ท่านเป็น รมช.ก็คงเป็นเรื่องอยู่นอกวงแขนท่าน ก็คงตอบไม่ได้ถนัดปาก

คนที่ตอบได้ ก็เก่งเหลือเกิ๊น “ท่านอ้วน” เป็นมันเกือบทุกกระทรวง

รองนายกฯ ก็เป็น รัฐมนตรีพาณิชย์ก็เป็น รัฐมนตรีกลาโหมก็เป็น รัฐมนตรีมหาดไทยก็เป็น กระทั่ง “นายกฯ รักษาการก็เป็น!

พูดไปก็คงไม่ผิด ท่านอ้วน มี ๒ ขา ….

แต่ตอนนี้ ท่านคร่อม ๓ เก้าอี้ ทั้งรักษาการนายกฯ ทั้งว่าการมหาดไทย ทั้งก่ายไปที่ว่าการกลาโหมกลายๆ!

ว่าไปแล้ว ท่านอ้วนนี่ เหมือน “แท่งทองโอสถ” ประจำตระกูลชิน แท่งเดียว ใช้ได้ ทั้งกิน, ทั้งอม, ทั้งดม, ทั้งทา, ทั้งใส่, ทั้งสอด, ทั้งหยอด และทั้งเสียบ

รัฐบาลเพื่อไทย “เผด็จการอำนาจ” หรือเปล่าเนี่ย ไม่ยอมตั้งรัฐมนตรีกลาโหม แต่ให้ท่านอ้วนรวบอำนาจควบไปกับมหาดไทย

แล้วนี่ นางสาวแพทองธาร ขอเลื่อนส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญไปอีก ๑๕ วัน กรณีคลิปสนทนา “อังเคิลฮุน”

ก็หมายความว่า ท่านอ้วน-แท่งทองประจำตระกูลชิน ว่าการทั้งนายกฯ ทั้งกลาโหมอีกเป็นเดือน

นอกเหนือจากตำแหน่งเจ้ากระทรวงมหาดไทย ที่เช้าขึ้นมาก็ทำสีหนาท ฮึ่มๆ แฮ่ๆ

ขู่จะย้ายคนนั้น-คนนี้ ทำเอาข้าราชการมหาดไทยกลัวจนไข่หด-ตดไม่ออก ท้องขึ้นอืดไปตามๆ กัน!

สรุปแล้ว ใครรู้ ช่วยตอบที…..

ว่ารัฐบาลเพื่อไทย “เข็มทิศ” เพื่อนำทางไปมีมั้ย และ “หางเสือ” อยู่ตรงไหน?

มีแผนจัดการกับปัญหา “ลุงข้างบ้าน” เพื่อนพ่อเธออย่างไร และเอาอะไรเป็นกระไดไปล่อให้ทรัมป์ ลดจาก ๓๖% เหลือซัก ๒๐% ก็ยังดี มีหรือยัง ….

…..ที่ไม่ใช่เอาประเทศไปแลกน่ะ?

บอกตรงๆ “หมาในรางหญ้า” เป็นเช่นไร ประเทศไทยวันนี้ ก็อยู่ในสภาพเช่นนั้น มันไม่มีปัญญาบริหารให้รอด นอกจากวอดวาย แต่มันก็ไม่ยอมลุกไปไหน

หรือจะรอไปพร้อมกันในเดือนหน้า “ทั้งพ่อ-ทั้งลูก”?

ดูท่า…มันจะเป็นอย่างนั้นซะด้วย!

เปลว สีเงิน

๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
บ้านเมือง “คนละเรื่องเดียวกัน”
เห็น”ข่าวพาดหัว”ว่า…….. Serbia grants citizenship to Thailand’s fugitive ex- PM Yingluck Shinawatra ก็ต้องบอกว่า...
Read More
0 replies on “ไทย “ไม่เคยสิ้น” ไส้ศึก #เปลวสีเงิน”