จุดดับรัฐบาล #ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

มาถอดรหัสกันหน่อยครับ…

การเมืองวันสองวันที่ผ่านมา ดูเหมือนจะบ่งบอกถึงอนาคตอันใกล้ของรัฐบาลแพทองธารว่า ไร้เสถียรภาพในขั้นรุนแรง

อาจถึงขั้นยุบสภา

หรือไม่ก็มีการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็มีความเป็นไปได้น้อยกว่ายุบสภามากพอสมควร

เรื่องระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทยนั่นแหละครับ

หน้าฉาก “ทักษิณ” เอา “อนุทิน” ไปกอด

แต่หลังฉากเลือดไหลกันซิบๆ

อาการของ “อนุทิน” ล่าสุดบ่งบอกว่า ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการชงยุบพรรคภูมิใจไทย ขอให้รู้ว่าคราวนี้พร้อมพุ่งชน!

ท่าที “อนุทิน” ที่จี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เชือด “ณฐพร โตประยูร” นักร้องลำดับต้นๆ ๑ ใน ๑๔ ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน สหกรณ์คลองจั่น ไม่ใช่ท่าทีที่ธรรมดา

แต่…ท้ารบ!

“…ตรงนี้ผมว่าผู้มีหน้าที่จับกุมต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมปล่อยให้ทอดมาถึงทุกวันนี้ จนใกล้หมดอายุความ ฉะนั้น ต้องเร่งเพราะผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนีไปไหน…”

กระทบไปถึง “ทวี สอดส่อง” โดยตรง

ดีเอสไอ สังกัด กระทรวงยุติธรรม แต่ขยันขันแข็งไปทำคดีฮั้วเลือก สว. จนเกิดคลื่นใต้น้ำในรัฐบาล

เพราะมีการใช้สงครามตัวแทน ให้หน่วยงานราชการในสังกัดปาหลังคาบ้านพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

ตั้งแต่เรื่องเขากระโดง สนามกอล์ฟอัลไพน์ แล้วครับ

วานนี้ (๓๐ พฤษภาคม) “ทักษิณ” ยังคงแสดงบท สทร. เสือกทุกเรื่อง ด้วยการปรับคณะรัฐมนตรีให้ลูกสาว

แต่ประเด็นคือ แทงไปที่หัวใจของพรรคภูมิใจไทยโดยตรง

“ทักษิณ” ไปให้ สัมภาษณ์พิเศษกับรายการ ๓ บก. เนชั่นทีวี

มีคำถามว่า โดยปกติแล้วพรรคแกนนำรัฐบาลมักต้องเอากระทรวงสำคัญๆ ไว้ในมือ พรรคเพื่อไทยควรเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยไหม?

คำตอบถึงกับทำให้ “อุ๊งอิ๊ง” ตกใจ จนไอแพดหลุดจากมือ

“…การนำนโยบายไปถึงประชาชน กระทรวงหลักคือกระทรวงมหาดไทย วันนี้มันไม่ค่อยถึง เพราะว่ากระทรวงมหาดไทยยังไม่ค่อยทำเต็มที่ เวลามันเหลือ ๒ ปีแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่มหาดไทยต้องทำงานให้เต็มที่…”

“…คือมันเป็นเรื่องการทำงานเพื่อประชาชน ถ้าอยากทำงานให้ได้ผล พรรคเพื่อไทยต้องตัดสินใจเพื่อให้นโยบายถึงประชาชนจริงๆ ก็ต้องให้กระทรวงมหาดไทยอยู่ในความดูแลของพรรคเพื่อไทย นี่คือหลักการ…”

กับคำถามที่ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเอากระทรวงมหาดไทยมา คิดว่าในฐานะนักวิเคราะห์ มีประสบการณ์ทางการเมือง ภูมิใจไทยเขาจะกล้าถอนไหม?

คำตอบคือ “คิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่อง คงไม่ถอนมั้ง เราไม่อยากให้เขาถอนอะ ก็อยู่ด้วยกันมา”

และคำถาม ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ล่ะ?

“ทักษิณ” ตอบว่า “อันนั้นก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมการตัดสินใจของแต่ละพรรคได้”

โนสนโนแคร์ครับ

นี่คือการตำหนิการทำงานของ “อนุทิน” แบบไม่ไว้หน้า

ที่กอดกันวันก่อน ลืมไปเลยครับ แค่ละครหลอกเด็ก

วิจารณ์กันแบบนี้เหมือนจะบอกให้ “อนุทิน” รีบลุกจากเก้าอี้ มท.๑ โดยเร็ว

ทำงานไม่เต็มที่!

ทำให้นโยบายรัฐบาลไปไม่ถึงประชาชน

ต้องให้คนของพรรคเพื่อไทยเป็น มท.๑ ประเทศจะมั่งคั่งประชาชนจะร่ำรวย

แรงนะครับ!

เหมือนออกปากไล่ให้พ้นรัฐบาล

เพราะในทางการเมือง หาก “อนุทิน” หลุดจากเก้าอี้มท.๑ จะให้ไปนั่งกระทรวงไหน

ที่บอกว่าอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักข้างต้น คือดัน “อนุทิน” เป็นนายกรัฐมนตรี แทน “อุ๊งอิ๊ง” ที่เริ่มแก่เกินวัยเข้าไปทุกวัน

แต่ในเมื่อ “ทักษิณ” เคลมเสียแล้วว่า ขนาดนั่งเก้าอี้มท.๑ ยังทำงานไม่ค่อยเต็มที่ แล้วจะไปเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีความรับผิดชอบมากกว่าได้อย่างไร

เห็นอย่างนี้แล้วโอกาสยุบสภาในเร็วๆ นี้มีไม่น้อยทีเดียว

ถ้ายังไม่ยุบ พรรคร่วมรัฐบาลหลังจากนี้ล้วนถือมีดไว้ข้างหลังกันทุกคน

เดินไปไหนเลือดไหลเป็นทาง

ทำไมจู่ๆ “ทักษิณ” จูบแล้วหันมาตบ!

ก่อนหน้า ๑ วัน “อนุทิน” ไปพูดเรื่องที่อาจทำให้ “ทักษิณ” ไม่พอใจหรือไม่?

นั่นคือพรรคภูมิใจไทย สามารถทำงานร่วมกับ พรรคประชาชนได้

“…วันนี้ต้องเลิกพูดว่าพรรคนั้นจับกับพรรคนี้ หรือพรรคนั้นจับกับพรรคโน้นไม่ได้

สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้สามารถสรุปได้ว่าไม่มีพรรคอะไรจับมือกับพรรคอะไรไม่ได้

ความจริงก็เป็นเรื่องที่ถูก เพราะเราไม่ได้มีความจงเกลียดจงชังกัน แต่เมื่อมีความเห็นหรือนโยบายที่ไม่ตรงกัน หรือนโยบายที่อีกฝ่ายรับไม่ได้ ในขณะนั้นก็อย่าเพิ่งจับกัน…”

“ทักษิณ” ไม่พอใจคำพูดนี้หรือเปล่า?

เป็นเรื่องจริงที่ว่า พรรคประชาชนเอง ก็พยายามปรับท่าทีทางการเมือง

ในวันที่สภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ท่วมท้น ด้วยมติ ๔๕๔ ต่อ ๐ เสียง งดออกเสียง ๒ เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุม ๔๕๖ คน

พรรคประชาชนเองต้องฝ่าดงส้มจี๊ดที่ไม่พอใจกับการโหวตเห็นชอบ เปลี่ยนชื่อ “สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” เป็น “สำนักงานพระคลังข้างที่” อย่างพลิกความคาดหมาย

ซึ่งแก๊งส้มจี๊ดมองว่าเป็นตัวแทนของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

บวกกับเงื่อนไขที่พรรคประชาชนไม่อาจแก้ ม.๑๑๒ ตามแนวทางของตนเองได้อีกต่อไป โอกาสที่สีน้ำเงินจะรวมกับสีส้มก็ใช่ว่าจะเป็นไปมิได้

แล้ว “ทักษิณ” มีอำนาจต่อรองมากพอที่จะริบกระทรวงมหาดไทยไปจากพรรคภูมิใจไทยได้จริงหรือเปล่า

ในขณะที่ “ทักษิณ” ต้องยืดอายุรัฐบาลให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เพราะเกี่ยวพันกับสถานภาพของตัวเองโดยตรง

หากรัฐบาลแพทองธารล้ม “ทักษิณ” ก็อยู่ไม่ได้

ครับ…การเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ไทม์ไลน์หายนะของ “รัฐบาลแพทองธาร” และ “ทักษิณ” กำลังจะถาโถม ชนิดโงหัวไม่ขึ้น

ไม่นานเกินรอ

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ
Written By
More from pp
“ทิพานัน” ย้ำหาบเร่ แผงลอย – มนุษย์เงินเดือน กู้เงินสู้ภัยโควิดได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ MyMo
“ทิพานัน” ย้ำหาบเร่ แผงลอย – มนุษย์เงินเดือน กู้เงินสู้ภัยโควิดได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯMyMo พร้อมชวนเยาวชนที่เริ่มอาชีพ- ผู้ต้องการซื้อเฟรนไชส์ กู้เงินตั้งตัวจาก ธ.ออมสิน ได้สูงสุด...
Read More
0 replies on “จุดดับรัฐบาล #ผักกาดหอม”