ผักกาดหอม
ไปให้สุด…
สมัยรัฐบาลลุงตู่ เราได้ยินคำว่า “การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” อยู่บ่อยครั้ง
ที่ไม่ดีเพราะรัฐบาลลุงตู่มาจากการรัฐประหาร จึงเต็มไปด้วยปัญหาปากท้อง ประชาชนไร้อนาคตอย่างสิ้นเชิง
ขณะนั้นผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย สรุปตรงกันว่า รัฐบาลประชาธิปไตย ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ถึงจะทำให้เกิดการเมืองดี
ยึดตามตรรกะนี้ วันนี้รัฐบาลแพทองธาร มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้นการเมืองต้องดี มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
วันนี้การเมืองดีแล้วหรือยัง
วานนี้ (๒๑ กุมภาพันธ์) “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แม่งานขุดพนันออนไลน์ที่อยู่ใต้ดิน มาวางไว้บนดิน กำลังโหมทำงานหามรุ่งหามค่ำ
“…ขณะนี้กำลังพิจารณาว่ากฎหมายระดับรองจะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) หรือประกาศกฎกระทรวง
ซึ่งพนันออนไลน์ที่จะต้องมีการทำให้ถูกกฎหมาย จะมีเรื่องพนันบอลออนไลน์ มวยออนไลน์
ส่วนจะมีการพนันประเภทอะไรเพิ่มเติมนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากทั้ง ๓ หน่วยงานคุยกันเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องยกร่างกฎกระทรวง หรือพระราชกฤษฎีกาออกมา ซึ่งจะต้องมีอีกหลายกระบวนการ
อาทิ การรับฟังความคิดเห็นก่อนนำเข้าคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะอยู่ในกรอบของเดือนเมษายนนี้…”
นี่คงเป็นหนึ่งในชุดนโยบายสร้างการเมืองดี
ปากท้องดี มีอนาคต มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
“…สำหรับประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันในระดับรุนแรง ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นักการเมืองส่วนใหญ่มีสำนึกและความละอายต่ำ จึงมักออกนโยบายโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองและวงศ์ตระกูลเป็นที่ตั้ง
จนทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ดังนั้น การที่กฎหมายไม่มีการระบุประเภทและอัตราภาษีที่จะจัดเก็บจากธุรกิจกาสิโน จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการทุจริตเชิงนโยบายของฝ่ายบริหารในอนาคต…”
มือปราบกาสิโน “ศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล” พูดไว้เช่นนั้น…
ตามมาติดๆ นะครับ…
ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นฮับการพนัน
รัฐบาลไทยคาดหวังให้ประเทศไทยเป็นแหล่งเล่นพนันของคนไทยและต่างชาติ โดยพยายามออกกฎหมายควบคุม ไม่ให้มีการมอมเมาประชาชน
คณะกรรมการกฤษฎีกา พยายามแก้ร่างกฎหมายกาสิโน กำหนดให้ผู้ที่สามารถเข้าไปเล่นกาสิโนได้ต้องมีเงินฝากในบัญชี ๕๐ ล้านบาท
ต่อเนื่องหกเดือน
“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” สวนทันควัน
“…หลักคิดนี้แตกต่างจากหลักคิดของรัฐบาลบางส่วน เพราะกลไกที่ทางรัฐบาลทำนอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจและลงทุนจากต่างชาติแล้ว ที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมายด้วย
ดังนั้น หากกำหนดที่ ๕๐ ล้านบาท ลองคิดภาพง่ายๆ ว่าคนไทยมีเงิน ๕๐ ล้านบาทในบัญชีประมาณ ๑ หมื่นบัญชี
แปลว่าเราจะดันกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ปัจจุบันยังไปเล่นตามชายแดนและเล่นในลักษณะผิดกฎหมายออกไป แทนที่จะดึงเข้าสู่ระบบ
หากคิดถึงส่วนนี้จะเห็นว่าหลักคิดแตกต่างกัน และเป็นเรื่องที่ต้องหารือกันต่อไป ซึ่งมีขั้นตอนของทางสภาอีก…”
ล่อนจ้อนมั้ยครับ
คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล คงเห็นปัญหาของการมีกาสิโน จึงพยายามให้คนไทยเข้าถึงกาสิโนให้ได้น้อยที่สุด
คือไม่พยายามมอมเมา
แต่รัฐบาลคิดอีกอย่าง
จะเปิดทางให้คนไทยเล่นกาสิโนเยอะๆ เพื่อสกัดไม่ให้ข้ามไปเล่นกาสิโนประเทศเพื่อนบ้านที่ผุดราวดอกเห็ด และตายระเนนระนาด เพราะแผนธุรกิจไม่เป็นไปตามเป้า
ดูสีหนุวิลล์ มาเก๊า กัมพูชาเป็นตัวอย่าง
ย้ำอีกครั้งครับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ยืนยันมาตลอดว่า รัฐบาลจีนไม่มีความคิดในการนำการพนันทุกประเภทเป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย
เพราะแม้ภาครัฐจะมีรายได้มหาศาลจากการนำธุรกิจใต้ดินเหล่านี้มาอยู่บนดินมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น จากการที่ชาวจีนจำนวนมากกลายเป็นผีพนัน
เขาพยายามสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนเล่นการพนันทุกวิถีทาง
แต่รัฐบาลการเมืองดีแก้ปัญหาคนไทยเล่นการพนันด้วยการ ปล่อยให้เล่นถูกกฎหมายเพื่อนำเงินบาปเข้ารัฐ
ไม่มีการห้ามโดยการบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาด
ไม่คำนึงถึงผลกระทบจากการเล่นพนันของประชาชน
ร่างกฎหมายกาสิโนกำหนดให้ มีกาสิโน ในสัดส่วนไม่เกิน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รัฐบาลพยายามบอกว่าไม่เยอะ ไม่ได้หวังมอมเมา
ลองคิดสัดส่วนง่ายๆ ครับ
สร้างโรงแรม ๑๐ ชั้น ๑ ชั้นเป็นกาสิโน
ทรงนี้ แทบไม่ต่างจากกาสิโนในกัมพูชา เมียนมา ลาว
หรือถ้าเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดยักษ์ สัดส่วนกาสิโนจะใหญ่ตามไปด้วย
มีประเด็นที่ “ศ. ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล” ตั้งข้อสังเกตไว้ ถือเป็นประเด็นใหญ่ทีเดียวนั่้นคือ การที่ร่าง พ.ร.บ.ฯ ไม่ระบุภาษีที่จะเก็บจากธุรกิจกาสิโนให้ชัดเจน ว่าจะมีประเภทใดบ้าง ในอัตราเท่าใด จะนำไปสู่การทุจริตเชิงนโยบายในอนาคต
เพื่อเอื้อประโยชน์มหาศาลให้แก่ผู้ประกอบการกาสิโน!
และกำหนดให้คณะกรรมการนโยบายมีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งเมื่อพิจารณาอัตราค่าธรรมเนียมตามบัญชีแนบท้ายในการได้ใบอนุญาตครั้งแรกอยู่ที่ไม่เกิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท
ดังนั้น จึงแปลความได้ว่า คณะกรรมการนโยบายสามารถกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตครั้งแรกที่จำนวนเงินเท่าใดก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ประเด็นนี้ก็สามารถก่อให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายได้เช่นกัน
เช่น คณะกรรมการนโยบายในอนาคตอาจจะอ้างว่า เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมกาสิโน ดังนั้น เห็นควรเก็บค่าใบอนุญาตครั้งแรกที่ ๕๐๐ ล้านบาท เป็นต้น ทั้งหมดนี้ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน
รวมถึงการออกใบอนุญาตก็ไม่ชัดว่าใช้วิธีประมูลหรือให้อำนาจคณะกรรมการเคาะเอง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นบ่อเกิดการหาผลประโยชน์ทั้งสิ้น
ไปให้สุดครับ แล้วจะได้จบ
