5 กุมภาพันธ์ 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมกระทรวง พม. ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่า ด้วยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการยกระดับทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ตนจึงได้มอบนโยบายกระทรวง พม. ให้มีการพัฒนาระบบ พม.ดิจิทัล และฐานข้อมูล เป็นพันธกิจสำคัญ (Flagships) ด้านที่ 9 ทำให้กระทรวง พม. สามารถป้อนข้อมูลให้กับรัฐบาลดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการให้ได้รับการสนับสนุนเงิน 10,000 บาทต่อคน โดยในปีนี้ตนได้กำชับกระทรวง พม. มุ่งเน้นการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน ปลอดภัย และเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลร่วมกันที่สามารถทำงานร่วมกัน ภายใต้แนวทางฐานข้อมูล พม. ดิจิทัล โดยภายในปีงบประมาณ 2568 จะนำไปสู่กรอบแนวคิดและแนวทางขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญที่ 9
นายวราวุธ กล่าวว่า มีการวางเป้าหมายเพื่อยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลของกระทรวง พม. ด้วยการสร้างระบบฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงและสามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนการทำงานด้วยข้อมูล สู่การพัฒนานโยบายและการบริการที่มีคุณภาพ พร้อมกับยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูลและระบบโครงสร้างพื้นฐานจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยการดำเนินงานด้านนโยบายและเทคนิคของทุกหน่วยงานตามหลักกฎหมาย อาทิ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทำให้มีระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มแข็ง มีการติดตั้งระบบตรวจจับพฤติกรรมและวิเคราะห์ข้อมูลภัยคุกคามทางไซเบอร์ มีการอบรมบุคลากรด้านไอทีเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และหวังว่าฐานข้อมูลหลักที่มีคุณภาพสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่ทุกหน่วยงานสามารถแบ่งปันข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยในการพัฒนานโยบายสวัสดิการสังคมและการจัดการสถานการณ์วิกฤตได้ อาทิ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า สำหรับระบบการขอรับการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (พม. Smart) เป็นการเปิดให้มีการบันทึกข้อมูลจากหน่วยงานผ่านระบบเดียวและส่งข้อมูลกลับฐานข้อมูลของแต่ละกรม ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาปรับเพิ่มประสิทธิภาพระบบให้สามารถประมวลผลการพิจารณาจ่ายเงินสงเคราะห์อุดหนุนทุกประเภทแบบอัตโนมัติ, การบูรณาการข้อมูลภายในระหว่างหน่วยงานในสังกัดและเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงาน พม. ด้วยเลข 13 หลัก และฐานข้อมูลประชาชนผู้ได้รับบริการจาก พม., การเชื่อมโยงและปรับปรุงฐานข้อมูลประชาชนในกลุ่มเปราะบางและกลุ่มคนพิการ เพื่อยกร่างแผนบูรณาการการจัดทำฐานข้อมูลด้านรายได้และด้านการมีงานทำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทุกหน่วยงานทบทวนชุดข้อมูลและกระบวนการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลโดยใช้ เนชั่นแนลบิ๊กดาต้าแพลตฟอร์ม ของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน), การบูรณาการด้านข้อมูลและระบบสารสนเทศภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้วยการจัดทำแผนที่ One Map กระดานสถานการณ์ข้อมูลด้านสังคมในพื้นที่ กทม. One Data การแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงข้อมูลคนพิการเพื่อการจัดสวัสดิการสังคมให้แก่คนพิการ One System การบูรณาการใช้ระบบ E-case ของ กทม. กับ ระบบ พม. Smart, การติดตั้งระบบเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพื่อรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่รวบรวมอยู่ในฐานข้อมูลใหญ่นั้น สามารถหยิบมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพการบริการสวัสดิการสังคม และคาดการณ์ วิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมร่วมกับข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาวะวิกฤตที่ส่งผลต่อกลุ่มเป้าหมายในแต่ละด้านตามสถานการณ์ทางสังคม ที่สำคัญคือเป็นการสนับสนุนข้อมูลให้กับ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) หน่วยงานภายใน กระทรวง พม. และทุกพันธกิจสำคัญ (Flagships) รวมทั้งหน่วยงานอื่นในรัฐบาล
