รายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นายกฯ สื่อสารผลงานรัฐบาลด้วยตนเอง

รายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นายกฯ สื่อสารผลงานรัฐบาลด้วยตนเอง ชูคืบหน้า -โครงการ 30 บาท รักษาทุกที่ ครอบคลุม 77 จ.ทั่วไทย-ทุนเรียนภาคฤดูร้อน -บ้านเพื่อคนไทย - กม. สมรสเท่าเทียม -ร่างพ.ร.ก. ไซเบอร์ -การประชุม WEF - ฝุ่น รายการต่อไปวันที่ 2 มีนาคม

2 กุมภาพันธ์ 2568  เวลา 08.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร”ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT 2HD และวิทยุเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศโดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเรื่อง นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ของรัฐบาลว่า นับเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้ผู้บริการมีความสะดวก ไม่ต้องรอคิว ลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดการเสียเวลา นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากหน่วยงานไหนติดขัดเรื่องระบบที่ไม่ตอบสนอง ขอให้แจ้งมายังรัฐบาลได้

ส่วนประเด็นที่สองเรื่องหนึ่งอำเภอ หนึ่งทุนการศึกษา รัฐบาลมุ่งหวังให้โอกาสเด็กเรียนดีแต่ขาดแคลนทุน รวมถึงเด็กเรียนปานกลาง ไปศึกษาต่างประเทศ หวังให้นำความรู้ ประสบการณ์มาช่วยพัฒนาประเทศในอนาคต โดยนายกรัฐมนตรี เล่าประสบการณ์ที่ตนเองเคยไป Summer Camp ทำให้ได้ประสบการณ์ เห็นวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ซึ่งก็มองเห็นศักยภาพของเด็กเยาวชนหากได้มีโอกาสไปเรียนที่ต่างประเทศ จะต้องนำความรู้กลับประเทศไทย และไม่ต้องการแค่เด็กที่เรียนท็อปเท่านั้นแต่ต้องการเปิดโอกาสให้เด็กที่เรียนกลาง ๆ ตั้งใจเรียน ได้รับโอกาสไปเรียนต่างประเทศประมาณ 5 – 6 อาทิตย์ อยากสร้างโอกาสตรงนี้ให้ สมัยพรรคไทยรักไทยได้มีการจัดทำโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน ต้องดูงบประมาณว่าจะขยายได้แค่ไหน

สำหรับ “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเป็นการตอบโจทย์ปัจจัย 4 เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน รัฐบาลต้องการให้คนมีแรงบันดาลใจ มีกำลังใจและความภาคภูมิใจที่มีบ้านเป็นของตัวเองนั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องการ

จากนั้นนายกฯขอบคุณทุกแรงผลักดัน ช่วยให้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งมีผลบังคับ เมื่อ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ว่า ดีใจกับคู่สมรสทุกคู่ ต้องขอขอบคุณทุกคน ทั้งของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ สว. ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับทุกคนเช่นกัน สร้างความเท่าเทียมไม่ต้องไปแบ่งแยก นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนที่ช่วยกันผลักดัน ต่อสู้มากว่า 20 ปี จนมีผลบังคับใช้สำเร็จ

ขณะที่เงินหมื่นเฟส 3 ยืนยันว่ามาแน่ ส่วนปัญหาอาชญากรรมเทคโนโลยี ได้เดินหน้าตัดวงจรอย่างเด็ดขาด โดยย้ำถึง โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ล้านคน รวม 30,000 ล้านบาท ว่า ทำให้ประชาชนสามารถนำเงินหมื่นไปต่อยอดทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ขอชื่นชมกระทรวงการคลังที่ผลักดันนโยบายจนเกิดผลสำเร็จ พร้อมทั้งยืนยันว่า เงินหมื่นเฟส 3 มีแน่นอน สำหรับรายละเอียดทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด

ส่วน พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (พ.ร.ก.ไซเบอร์) นั้นอำนาจของ พ.ร.ก. นี้จะมีสิทธิ์ในการจับกุมผู้ที่มาตั้งเสาส่งสัญญาณตามแนวชายแดน หรือจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ อีกทั้ง จะทำให้สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย สำหรับเหตุผลในการออกเป็น พ.ร.ก. เนื่องจาก ปัญหาประชาชนไม่สามารถรอได้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติออกเป็น พ.ร.ก. และเร่งประกาศใช้เพื่อตัดวงจรหลอกลวงประชาชนให้เด็ดขาด

ส่วนผลสำเร็จในการประชุมดาวอส 2025 ไทยได้ลงนาม EFTA เพิ่มเปิดโอกาสการลงทุน และแสดงศักยภาพของอาหารไทยบนเวทีโลก ทั้งนี้ การเข้าร่วมประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิสเดือนมกราคม โดยนำรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปด้วย ซึ่งเห็นว่าทิศทางของโลก เป็นอย่างไรทำให้เรา สามารถกำหนดทิศทางของเราให้เข้ากับโลกได้ ซึ่งมีขึ้นทุกเดือนมกราคม ดังนั้น นายกตั้งเรื่องไว้เลยว่าในเดือนมกราคมต้องมาประชุม

ส่วนความสำเร็จในเรื่องของ FTA การลงนามความตกลงเขตการค้าเสรี ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสประเทศไทย การลงนามสัญญา FTA ช่วยให้กฎเกณฑ์น้อยลงทำให้ง่ายต่อการลงทุน และการติดต่อมากขึ้น นี่คือโอกาสของคนไทย ไม่ใช่แค่ของบริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่โอกาส SMEs เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีการหารือคุยกับ Nestle CocaCola Bayer AstraZeneca และที่สำคัญ การจัด Thailand Reception ณ พื้นที่ตรงกลางศูนย์ประชุม เพื่อโชว์ศักยภาพประเทศไทยผ่านอาหารไทย ช่วงอาหารกลางวัน ทำให้ทั่วโลกต่างตื่นเต้นถือเป็นไฮไลต์ และทุกคนชอบอาหารไทยมาก CEO หลาย ๆ บริษัทมาชิมอาหารต่างก็ชอบมาก ที่สำคัญประธานที่จัดการประชุม WEF ซึ่งนั่งประชุมอยู่ในตึก ก็เดินออกมาข้างนอก เพื่อมารับประทานอาหารไทย รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตที่ดาวอส มีวัตถุดิบของไทยไปขาย เป็นเรื่องน่าภูมิใจมากๆ

นายกรัฐมนตรี ยังประกาศยกระดับปัญหา PM 2.5 เป็นวาระแห่งอาเซียน เดินหน้ามาตรการลดฝุ่นทั่วประเทศ เพื่อคืนอากาศสะอาดให้คนไทยว่าช่วงวันที่ 20 – 24 มกราคม ได้เข้าร่วมประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 ในช่วงเวลานั้นได้รับทราบรายงานข้อมูลจากทางสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เกี่ยวกับฝุ่นเข้าที่จะเข้าประเทศไทย จึงได้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมก่อนวันเดินทาง โดยได้กำชับทุกกระทรวงให้ดำเนินการตามมาตรการที่ได้สร้างไว้อย่างเคร่งครัด ทุกกระทรวงดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างเต็มที่

กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินมาตรการเพิ่มมูลค่าใบอ้อยเพื่อลดการเผา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความรู้เกษตรกรเกี่ยวกับการจัดการเศษพืชโดยไม่ต้องเผา รวมทั้ง ส่งเสริมการไถกลบแทนการเผาซังข้าวโพด ลดการปล่อยฝุ่นจากภาคการเกษตร กระทรวงคมนาคมออกมาตรการให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าฟรีในกทม. ลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนถึง 500,000 คันต่อวัน เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากทางจิสด้า จุด hotspot ซึ่งปัญหาฝุ่นของทางประเทศไทยพบว่าลดน้อยลง สำหรับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาระดับประเทศ แต่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศในอาเซียน มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศประสานความร่วมมือกับทุกประเทศในอาเซียน เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นข้ามพรมแดน ซึ่ง “การเจรจาทางการทูตเป็นกระบวนการที่ต้องมีลำดับขั้น แต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างผู้นำก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น” รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง และจะเดินหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อคนไทยได้มีอากาศบริสุทธิ์ในการดำเนินชีวิต

ในช่วงท้ายรายการ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีหัวใจเป็นกำลังใจในการทำงาน ยอมรับว่าเสียใจ ที่โดนบูลลี่บ้างแต่เลือกที่จะปล่อยผ่าน เพราะมีงานรอให้ทำ ต้องแก้ไขปัญหาจำนวนมาก

“เวลาที่นโยบายต่างๆ ทำสำเร็จ หากถามว่าความภูมิใจในความสำเร็จมันเป็นอย่างไร ความภูมิใจของตัวดิฉันคือประชาชน ประชาชนที่มีความสุขมากกับนโยบายที่ได้ไป มันเติมเต็ม และมันรู้สึกว่า ฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้ ไปทำงานแบบนี้ให้ประชาชนมีความสุข “นายกรัฐมนตรี กล่าว

ก่อนจบรายการนายกรัฐมนตรี หวังว่า ประชาชนคงจะได้ยิน ได้ฟังอะไรที่เป็นความรู้ เป็นแรงบันดาลใจ เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ซึ่งเดือนหน้าจะกลับมาพบกันใหม่ จะนำเรื่องต่างๆ ของเดือนที่ผ่านมา พร้อมฝากให้ประชาชนติดตามตอนต่อไป

ทั้งนี้ รายการ โอกาสไทยกับนายกแพทองธารจะดำเนินรายการในวันอาทิตย์แรกของต้นเดือน โดยรายการครั้งที่สองจะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 08:00 น. เป็นต้นไป

Written By
More from pp
ครม.เห็นชอบปลดโรคโควิด-19 ออกจากโรคต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรหรือมีถิ่นที่อยู่ในไทย มีผลนับแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจาฯ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ว่า
Read More
0 replies on “รายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นายกฯ สื่อสารผลงานรัฐบาลด้วยตนเอง”