สันต์ สะตอแมน
ก่อนจะสิ้นปี..
นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน(ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..
ได้มอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีกับนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร กรณีที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ
กล่าวอ้างว่านายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และทางตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 แบบฉับไว โดยให้คุณธีรยุทธไปให้ปากคำในวันที่ 10 มกราคมนี้ ส่วนนักร้อง-นักเคลื่อนไหวที่อยู่ในข่าย..เตรียมต่อแถวไว้ได้เลย!
เนี่ย..ทักษิณก็คือทักษิณ ใครที่คิด-คาดหวัง หรือ(แอบ)ไปตกลงอะไรกันไว้ เพราะเชื่อ-วางใจว่านักโทษคดีทุจริตผู้นี้ จะกลับตัว-กลับใจ กลับมาสร้างความปรองดอง..
จะยังกินอิ่ม-นอน(ทับเงิน)หลับสบายดีอยู่หรืออย่างไรไม่ทราบ?
แต่..ที่อยากบอกให้ทราบ ทั้งนักร้อง นักเคลื่อนไหว เขาไม่ได้รู้สึกครั่นคร้ามกับท่าทีแข็งกร้าว คำประกาศเช็คบิล-เอาคืนของนายทักษิณแต่อย่างใด
กลับกัน เท่าที่ได้สดับตรับฟัง บางท่านยังมีพลังกาย-พลังใจเข้มแข็ง พร้อมที่จะยืนหยัดแลกหมัดซดกับพ่อนายกฯโดยมีจุดหมายปลายทาง..นายทักษิณต้องกลับเข้าคุกเท่านั้น!
เมื่อทราบแล้ว คนที่ไปดีล-ไปตกลงกับนายทักษิณก็ขอให้หลบหัว-ซ่อนหน้าไม่ต้องรับผิดชอบใดๆต่อไปล่ะกัน ส่วนปัญหาความวุ่นวาย-ยุ่งยากที่พวกท่านขุดผีตนนี้ขึ้นมา..
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ปวงประชา-ผู้รักชาติ รักแผ่นดิน คิดหาหนทางกำจัดมันไปตามยถากรรม!
อ้อ..แต่ที่คุณสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “อดีตพุทธะอิสระ”ว่า.. “หากเหิมเกริมเหลิงอำนาจขนาดนี้ ดูท่าดีลลับคงจะกลายเป็นดีลล้มในอีกไม่นานนี้หละพี่น้อง” นั้น
จะล้ม-ไม่ล้มสำคัญอะไรอีกเล่า เพราะ “น้องสาว” ก็เตรียมแพ็คกระเป๋ารอขึ้นเครื่องบินกลับบ้านอยู่โน่นแล้ว อย่าไปคาดหวัง หรือเพ้อเจ้อ-เพ้อฝันกับดีลเลย!
เอ้า..แต่นี่ไม่ได้เพ้อฝัน เผลอคงเอาแน่ ผมหมายถึงที่คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯให้สัมภาษณ์..
“ส่วนตัวมองว่ากฎหมายที่เป็นอยู่ในขณะนี้อาจจะมีความรุนแรงมากไป ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เรากำลังทำอยู่นี้ อาจจะช่วยแก้ไขสิ่งเหล่านี้ไปได้
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่มีกฎหมายบังคับในทางการเมือง แต่โทษยุบพรรคหรือตัดสิทธิตลอดชีวิตจะค่อนข้างรุนแรงเกินไป
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร เขาใช้สติปัญญา อาจจะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ถ้าเราคิดว่านักการเมืองไม่ใช่อาชญากร โทษจึงควรสมควรกับความผิด
ไม่ใช่การตัดสิทธิ 10 ปี 20 ปี ตลอดชีวิต หรือยุบพรรค พรรคการเมืองเป็นของประชาชน ไม่ควรจะยุบ เราควรส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง..”
ใช่ครับท่านประธาน..นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร แต่ถ้านักการเมืองชั่ว โกง-คอร์รัปชั่น คิดล้มล้างสถาบัน ก็จะยิ่งกว่า “อาชญากร” เลยล่ะขอรับ!
อาชญากร หรือผู้กระทำความผิดอาญาน่ะไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ไม่มีเงินเดือนจากภาษีประชาชน ไม่มีเครื่องราชฯ ไม่มีค่าพาหนะฟรีในการเดินทาง ไม่มีเงินสวัสดิการรักษาฟรี
นักการเมืองกับอาชญากรจึงแตกต่างกันตรงนี้..แค่ตัดสิทธิ 10-20 ปี นะน้อยไป ตลอดชีวิตนั่นแหละ..
สมควรแล้ว!