เปลว สีเงิน
“ฝน-ฟ้า” ท่าจะไม่หยุดแค่นี้ น่าจะมาถล่มเพิ่ม!
เห็นรัฐบาลตื่นตัว “ตั้งรับสถานการณ์” ล่วงหน้า ก็ดีแล้ว
เมื่อวาน “นายกฯ แพทองธาร”
สั่งตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” นั่งเป็นประธานเองที่ทำเนียบ
ที่ “กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย” นายอนุทิน ชาญวีรกูล “รมว.มหาดไทย
เปิด “กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ” เป็นศูนย์ประสานส่วนหน้า
และรับข้อมูลจากทุกภาคส่วนเพื่อการแจ้งเตือนและการจัดหา-จัดส่งสิ่งที่ขาดแคลน
คุยเรื่องน้ำที่เหนือและอีสานมาหลายมื้อ วันนี้ คุยเรื่องอื่นเป็นการ “ตัดเลี่ยน” บ้าง
เรื่อง “คลิปเสียงหลุด” ที่ “คุณดนัย-หมาแก่” นำมาเปิดในรายการโทรทัศน์ช่อง ๓๐ อสมท.นั่นเป็นไง เห็นสนใจกันมาก
ผมไม่ได้ดู แต่อ่านจากข่าว ได้ความว่า คุณหมาแก่บอกเป็น “คลิปเสียงลุง” ไม่ระบุลุงไหน
แต่คนฟังเข้าใจว่าเป็นเสียง “ลุงป้อม-พลเอกประวิตร” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ลุงคุยกับคนนั้น-คนนี้ ตั้งแต่เป็นรองนายกฯ สมัยรัฐบาลคสช.คือ ๘-๙ ปี มาแล้ว
ถูก “แอบอัดเสียงโทรศัพท์” นั้นไว้
เพิ่งถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือประหัต-ประหารกันทางการเมือง โดย “คุณหมาแก่” นำไปเผยแพร่ทางโทรทัศน์ ไม่กี่วันมานี้
ก็ที Who ที It ให้เขาว่ากันไปทางการเมือง
เห็นเรื่องขยายไปสู่กระบวนการทางกฎหมาย จึงอยากคุยในมุมนี้ เพราะน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับ “คนยุคไอที”
ทุกวันนี้ เราสื่อสารกันทางโทรศัพท์แทบทั้งนั้น
แล้วที่คุยกัน ทั้งเรื่องลับ-ไม่ลับ
แต่มีคน “แอบดักฟัง-แอบอัดเสียง” ไว้ อย่างกรณี “คลิปลุง” ทางกฎหมายอย่างไร เราจะมาศึกษากันพอรู้
ยกเคส “นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์” พรรคเพื่อไทย ไปยื่นร้องเอาผิด “พลเอกประวิตร” ต่อปปช.เป็นกรณีศึกษา
เป็นเจ้าพนักงานรัฐ ทำผิดรัฐธรรมนูญเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา ๑๗๒, ๑๗๓และผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ รวมทั้งประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรง
ให้ป.ป.ช.พิจารณาส่งเรื่อง “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” ดำเนินคดี ฐานเรียกรับเงิน
หลักฐานในการร้อง เป็นคลิปเสียง ๔ คลิป จากรายการหมาแก่ อ้างคล้ายเสียง “พลเอกประวิตร” สนทนากับ “ไอ้โอ๋”
นายพร้อมพงษ์ บอกด้วยว่า ๑ ใน ๔ คลิป “นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดมหาดไทย ยืนยัน เป็นคลิปเสียงจริง
โดยเขาพูดระหว่างที่พลเอกประวิตร เป็นรองนายกฯ ดูแลความมั่นคงและกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย
นายพร้อมพงษ์บอก นอกจากร้องป.ป.ช.แล้ว จะไปยื่นกกต.และป.ป.ง.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย
สรุปความได้ประมาณนี้
ความจริงแล้ว หลักการใหญ่ เรื่องดักฟังโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารต่างๆ แล้วแอบอัดมาใช้เพื่อการใด-การหนึ่งนั้น
“ผิดกฎหมาย” เอามาเป็นหลักฐานในศาลไม่ได้!
ไม่ใช่กฎหมายเพิ่งมี หากแต่มีมาแล้วตั้งแต่ยุค “คณะราษฎร” โน่นด้วยซ้ำ
“พ.ร.บ.โทรเลขและโทรศัพท์ พ.ศ ๒๔๗๗”
“มาตรา ๒๔ ผู้ใดใช้อุบายอย่างใดๆ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อล่วงรู้หรือติดต่อกันซึ่งเนื้อความในข่าวสารทนเลขโทรศัพท์ใดๆ
ท่านว่าผู้นั้น มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
“มาตรา ๒๕ ผู้ใดเอาความหมายของอาณัติสัญญาณหรือข่าวสารโทรเลขโทรศัพท์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้แก่บุคคลใดๆผู้ไม่มีสิทธิ์จะรู้
ท่านว่าผู้นั้น มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
และเมื่อปี ๒๕๔๙ ที่ “บิ๊กบัง” ยึดอำนาจทักษิณ ได้ออกประกาศ “คณะปฏิรูปการปกครองฯ” เรื่อง “ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด” ไว้
ปัจจุบัน ใช้รัฐธรรมนูญ ปี ๖๐ แล้วก็ตาม แต่ประกาศนั้น ยังชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีสภาพบังคับใช้อยู่
แถมมีโทษ “ทางปกครอง” ด้วย
“ผู้ใดดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความ ที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด โดยไม่มีอํานาจโดยชอบด้วยกฎหมาย
ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ”
จะทําได้ เท่าที่กฎหมายให้อํานาจตามพรบ.ต่างๆเช่น
๑.พรบ.ป้องกันปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติพ.ศ.๒๕๕๖
๒.พรบ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ.๒๕๕๑
๓.พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.๒๕๔๗
๔.พรบ.ป้องกันปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.๒๕๑๙
๕.พรบ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒
๖.พรบ.ข่าวกรองแห่งชาติพ.ศ.๒๕๖๒
๗.พรบ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘
๘.ร่างแก้ไข วิ.อาญาฯเพิ่มเติม มาตรา ๑๓๑/๒ ว่าด้วยการอนุญาตให้ตำรวจดักฟังโทรศัพท์
เนี่ย…เมื่อดูตามกฎหมาย ก็พอจะเข้าใจกระมังว่า การแอบอัดเสียงโทรศัพท์ลุง นอกจากใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้แล้ว
ยัง “ผิดกฎหมาย” แทนที่จะเอาลุงตาย คนที่แอบอัดและนำมาเผยแพร่นั่นแหละ เผลอๆ จะตายก่อน!
รัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน มาตรา ๓๖ บัญญัติไว้ว่า
“บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารถึงกันไม่ว่าในทางใดๆ
การตรวจ การกัก หรือการเปิดเผยข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกัน รวมทั้งการกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อให้ล่วงรู้หรือได้มาซึ่งข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกัน จะกระทำมิได้
เว้นแต่ มีคำสั่งหรือหมายของศาล หรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ”
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา บอกไว้ว่า
“มาตรา ๒๒๖/๑๑” ในกรณีที่ความปรากฏแก่ศาลว่า พยานหลักฐานใดเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยชอบ
แต่ได้มาเนื่องจากการกระทำโดยมิชอบ
หรือเป็นพยานหลักฐานที่ได้มาโดยอาศัยข้อมูลที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยมิชอบ
ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานนั้น
เว้นแต่การรับฟังพยานหลักฐานนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสีย อันเกิดจากผลกระทบต่อมาตรฐานของระบบงานยุติธรรมทางอาญาหรือสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
ในการใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลพิจารณาถึงพฤติการณ์ทั้งปวงแห่งคดี โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) คุณค่าในเชิงพิสูจน์ ความสำคัญ และความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานนั้น
(๒) พฤติการณ์และความร้ายแรงของความผิดในคดี
(๓) ลักษณะและความเสียหายที่เกิดจากการกระทำโดยมิชอบ
(๔) ผู้ที่กระทำการโดยมิชอบอันเป็นเหตุให้ได้พยานหลักฐานมานั้นได้รับการลงโทษหรือไม่เพียงใด
นอกจากนี้ “พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม” ๒๕๔๔
มาตรา ๗๔ บอกว่า….
“ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อดักรับไว้ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสารหรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔ แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เนี่ย…ในมุมกฎหมาย เท่าที่ค้นๆดูก็ได้ความประมาณนี้
การแอบอัดเสียงโทรศัพท์นั้น นำมาใช้ฆ่ากันทางการเมืองพอได้
นำไปฟ้องร้องก็ได้ แต่คลิปเสียงที่แอบอัดแบบผิดกฎหมาย ใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้ ศาลจะยกฟ้อง
แต่ในทางการเมือง ก็อย่างว่า ยกหรือไม่ยก ก็คุ้มแล้วเพราะทำให้ฝ่ายถูกร้อง “เสียรังวัด” ไปหลายแสนตารางกิโล
เห็น “นายไพบูลย์ นิติตะวัน” ว่าจะฟ้องหมาแก่ ถ้าฟ้องจริง หมาแก่ถึงจะทำหน้าที่สื่อ ติ-ชมโดยสุจริต
แต่เมื่อสู้กันในศาล ก็ต้องบอกถึงที่มาของคลิปเสียงนั้นต่อศาลว่า ได้มาจากไหน
ไปอัดมาเองหรือมีคนอัดเก็บไว้แล้วนำมาให้เผยแพร่และคนนั้นคือใครและจะอ้างใครเป็นพยาน?
ถ้าไม่บอกหรือบอกไม่ได้หรือไม่มีพยานยืนยัน คุณหมาแก่ คงเหนื่อยหน่อย!
แต่สำหรับชาวบ้านทั่วไป ใช่ว่า จะดักฟังหรือแอบอัดเสียงไม่ได้ซะเลย
ที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้คือ “ไม่ผิดกฎหมาย” ก็มี
“เมียแอบบดักฟังผัวมีเมียน้อยหรือผัวดักฟังเมียมีชู้”
อัดได้เลยครับ
อัดแต่เสียงนะ ห้ามอัดจนซี่โครงไปติดข้างฝา แบบนั้น กฎหมายไม่อนุญาตครับ!
เปลว สีเงิน
๑๖ กันยายน ๒๕๖๗