เปลว สีเงิน
เรา “เห็นอะไร”…..
จากการลาออกจากตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ” ของท่าน “ปานปรีย์ พหิทธานุกร”?
ตรงนี้น่าสนใจนะครับ
เพราะใครเห็น……..
เท่ากับเห็น “จุดจบ” ในอนาคตอันใกล้รัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย”!
ฉะนั้น เรามาส่องกล้องมองจุดนั้นกันซักนิดปะไร
-คุณปานปรีย์ไม่ใช่ “หมาในคอก” อย่างที่คนเข้าใจ
-ไม่แคร์งาน แต่แคร์ “สัจจะ-จริงใจ” การให้เกียรติกัน
-มุ่งมั่นงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่งาน “เพื่อใคร”
-อะไรที่ไม่เป็นไปเพื่อชาติ, ทำแล้วผิดกฎหมาย “ไม่เอา”
-ไม่ได้ทรนง แต่ไม่พูดมาก ไม่เวิ่นเว้อ ไม่ต่อรอง และไม่ติดตำแหน่ง
-“ลาออก-คือลาออก”
ที่จะหันกลับ นั่นไม่ใช่สุภาพบุรุษลูกผู้ชายชื่อ “ปานปรีย์”
ฉะนั้น “ปิดประตูตาย” ที่มีคนเอาใจโจรไปวัดใจวิญญูชนว่า ยังมีงานอีกมากที่จะไปพูดให้คุณปานปรีย์กลับมาทำ!
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ …….
ที่รัฐบาลประชาธิปไตย “ไม่มีรัฐมนตรีต่างประเทศ” แม้กระทั่ง “รัฐมนตรีช่วยฯ”
ผู้นำรัฐบาลนามว่า “เศรษฐา” มีคำตอบเป็นเหตุ-เป็นผลให้สังคมโลก “รับฟังได้” หรือไม่ ผมไม่ทราบ
คน “พร้อมเป็น” น่ะ มีเยอะ
แต่หาที่ “พร้อมทำงาน” โดยไม่ประสงค์ให้ใครเอาปลอกคอมาสวม “คอยกระตุกสั่ง” อย่างที่คุณปานปรีย์เป็น
ก็คงมีนะ…แต่ “คงไม่มาก”!
สะท้อนจากคุณปานปรีย์ มันส่งกระเพื่อมให้สังคมจับจ้อง “ดูหน้า-ดูประวัติ-ดูสายพันธุ์” คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่เป็นพิเศษ
นี่เป็น “กรวดในรองเท้า” เม็ดแรกของเศรษฐา “นายกฯ ร่างทรง”
แรงกระเพื่อมที่สอง จะกระเพื่อมให้รัฐมนตรีบางคนตระหนักคิด
เพราะคำสั่งจาก “ใครบางคน” ให้คุณปานปรีย์ทำในเรื่อง “สนองประโยชน์ตน” ผสมด้วย ก็เป็นได้
คุณปานปรีย์ “ไม่ทำ”
เหตุที่ไม่ยอมทำ เพราะคุณปานปรีย์ไม่ใช่หมาในคอกอย่างหนึ่ง สิ่งที่ให้ทำไม่เป็นคุณส่วนรวมอย่างหนึ่ง
และสิ่งที่ให้ทำนั้น อาจ “ผิดกฎหมาย”
มีผลที่คนทำต้องรับผลแทนคนสั่งในบั้นปลาย อีกอย่างหนึ่ง
นี่คือ “สิ่งที่เห็น”…..
อาจเรียกได้ว่าเป็น “คุณูปการ” จากการ “ลาออก” ของคุณปานปรีย์ จากรัฐบาลที่มีการกระทำหลายเรื่องมะลำ-มะเลืองในสายตาประชาชน!
สะเทือนถึงโครงการ “กู้ ๕ แสนล้าน” มาแจกตามสัญญาหาเสียงของเพื่อไทย เพราะคณะรัฐมนตรีเองก็ยังไม่ทราบคำตอบชัดว่า
ในเมื่อจะแจก…
ก็แจกเงินสดคนละ ๑ หมื่นเข้าแอปเป๋าตังไปเลยซี
ทำไมต้องเอาเงิน ๕ แสนล้านไปแลกเป็น “โทเคน” กะโหลก-กะลาไปแจก ทำเพื่ออะไร และใครได้ประโยชน์ไปตรงส่วนนี้?
นี่แหละ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร อยู่ในช่วง” ทำท้อง”
ถึงตอนเข้าครม. “ทำคลอด” วันไหนละก็ เชื่อเหอะ “มีปัญหาแน่ ๙๙.๙๙%”
โดยเฉพาะจาก “รัฐมนตรีพรรคร่วม” ภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ-ชาติไทยพัฒนา!”
ก็ในเมื่อ แหล่งที่มาเงิน ๕ แสนล้าน มาจากการ “ปล้นงบประมาณ” ในส่วนใช้พัฒนาประเทศ
และการขู่กรรโชกเอาเงินส่วนเกษตรกรจากธกส.มาทั้งสิ้น
มันเข้าข่าย “ผิดกฎหมาย” หลายฉบับ ผมขี้เกียจจำจี้-จ้ำไชอีก
ขืนเฮโลไปกับเพื่อไทย ก็เข้าตำรา “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กลับเอากระดูกมาแขวนคอ”
เพราะกู้มาแจก ๕ แสนล้านนั้น เป็นโครงการตอนหาเสียงของเพื่อไทยเขาโดยตรง
ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย
เว้นแต่อยากไปอยู่กับ บุญทรง “ในคุก” ก็โอเคกันไป
แต่รัฐมนตรีคนไหนไม่อยาก
ฟังที่ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รมว.มหาดไทย ตอบนักข่าวให้ได้บินบ่อยๆ นั่นแหละ “ลีลาพารอด”
ท่านบอกว่า…….
“เมื่อร่วมรัฐบาลกันแล้ว ก็ต้องไปด้วยกัน อะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย ต้องยกมือให้อยู่แล้ว”
เศรษฐา “ฟังผาด” คงสบายใจ
แต่ถ้าฟังพิศ น่าจ ะ”ปัสสาวะไม่ออก” นะ!
ฉะนั้น ที่คุณปานปรีย์ “ลาออก” ชนิดไม่แยแสตำแหน่งประดุจประเหยื่อล่อ หนึ่งในเหตุผลคือ
“ให้ทำเรื่องผิดกฎหมาย” ออกก็ได้.. “กูไม่ทำ” ประมาณนั้น!
จึงเห็นอนาคตรัฐบาล “เศรษฐา-เพื่อไทย” ค่อนข้างชัด
ตอนนี้ “๕ แสนล้าน” อยู่ขั้นตอนบอร์ดธกส.จะยอมให้ ๑.๗๒ แสนล้านมั้ย คลังจะส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความว่าที่ทำผิดกฎหมายมั้ย?
รัฐบาลที่ “ไร้ความเชื่อถือ” จากประชาชน ก็อยู่ๆ กันไป พรรคหลักว่าไง พรรคร่วมก็พยักหน้าไป เพราะเรื่องยังไม่ถึงครม.
แต่ผมเชื่อ รัฐมนตรีคลังคนใหม่ “นายพิชัย ชุณหวชิร” เข้าว่าการแล้ว ดูทั้งด้านบัญชี ด้านกฎหมาย ด้านผลได้และผลฉิบหายในระยะสั้น-ยาวแล้ว
ไม่ยอม “ติดคุกแทนโจร” ตามแผน “ปล้น๕ แสนล้าน” อันเป็นเงิน “อนาคตประเทศ” แน่
และนั่น จะเกิดปรากฎการณ์ “ปานปรีย์ ๒”
คือ “นายพิชัย” ในฐานรัฐมนตรีคลังที่ต้องรับผิดชอบหน้าเสื่อ คง “ลาออกดีกว่ายอมติดคุก”!
ถ้ายอม เรื่องแจก ๕ แสนล้าน “ปรุงเสร็จ” เสนอครม.อนุมัติโครงการ
รัฐมนตรีเพื่อไทย คงยกมืออนุมัติ
แต่ “ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ-ชาติไทยพัฒนา” ๙๐% ขึ้น คงไม่อนุมัติ
ส่วน “พลังประชารัฐ” ผมไม่รู้ทั้งหน้า-ทั้งใจนายธรรมนัสและพล.ต.อ.พัชรวาท จึงตอบแทนไม่ได้ว่า จะเยสหรือโน!?
ที่มาของเงิน ๕ แสนล้าน จาก ๓ แหล่ง คือจากงบประมาณเหลือ ปี ๖๗ จากงบใหม่ ปี ๖๘ ตั้งงบกู้เพิ่มเพื่อแจกและ “ยืม-ไม่กู้” จาก ธกส.อีกก้อน นั้น
จะบอกให้ทราบ……….
พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย นั้น
ถึง ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมา เท่ากับยังไม่ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
แล้วรัฐบาลทึกทักเอางบเหลือของปี ๖๗ ตั้งแสนกว่าล้านบาท มาทำโครงการแจกได้ไง?
นี่คือ “โจทย์เฉพาะหน้า” ง่ายๆ ที่รัฐบาลต้องตระหนัก
“อย่ามักง่าย”!
วันนี้ (๒๙ เมย.) เช้าไปทำบุญ บ่ายไปหาหมอ กลับมาบ่าย นึกขึ้นได้ วันที่ ๑ พฤษภาคม ๑๐ พฤษภาคม ๒๒ พฤษภาคม
“วัดทรายขาว” สงขลา แจ้งมา…
ทยอยประกอบพิธีเทชิ้นส่วนส่วนล่างขององค์ “หลวงพ่อทวด” และจะเทครบ “ทุกชิ้นส่วน” ไม่เกินเดือนมิถุนายน
จากนั้น จะขัดตกแต่ง และกำหนดวันยกขึ้นประกอบเป็น “หลวงพ่อทวด” เต็มองค์สมบูรณ์
ผมจึงเกริ่นให้ท่านทั้งหลาย ร่วมกันอนุโมทนาสาธุ
ก็จากเงินกว่า ๑๗ ล้านบาท ที่ร่วมกันบริจาคมานั่นแหละครับ ถ้าใครมีโอกาส วันที่ ๑ พฤษภา.เป็นการเทชิ้นส่วนหน้าตัก ก็ไปร่วมกันนะ
เอาละ พรุ่งนี้คุยกันใหม่ ในประเด็นว่า “นายพิชิต ชื่นบาน” ที่เรียกกัน “ทนายถุงขนม” เหตุไฉน จึงเป็นรัฐมนตรีได้
วันนี้ “ยกยอด” ไปก่อน คนแก่หมดแรง!
เปลว สีเงิน
๓๐ เมษายน ๒๕๖๗
