เปลว สีเงิน
อยากบอก “พลพรรคเสื้อแดง” ว่า
รักทักษิณ
เฉลิมฉลองทักษิณพ้นโทษคุก ก็ว่ากันไป ตามประสาคนรักกัน
แต่ระวัง อย่าให้ลามไปถึงขั้นยกระดับเป็น “แดงทั้งแผ่นดิน” เหมือนปี ๕๒-๕๓ อีกครั้งก็แล้วกัน!
เพราะเห็น “อดีตแกนนำ” นัดรวมพล “คนเสื้อแดง” ออกมารวมตัวกันในหลายพื้นที่
ไม่ใช่อะไรหรอก…
เมื่อมีคนรัก ก็ย่อมมีคนชัง เมื่อฝ่ายหนึ่ง ระดม “แดงทั้งแผ่นดิน” ออกมา
ก็เป็นไปได้ ที่อีกฝ่าย จะแสดงปฎิกริยาไม่ชอบใจ มันก็จะเกิดเหตุทำนอง “สองฝ่าย-ต่างสี” ออกมาราวีกัน
แล้วสังคมไทย ที่กำลัง “สมานเนื้อ-รวมใจ” เป็นหนึ่งเดียว มันก็จะแตก “แยกข้าง-แบ่งฝ่าย” กันไปอีก
บ้านเมืองก็จะ “วนกลับที่เก่า”
ซึ่งเราทั้งหลาย ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นมิใช่หรือ?
รักในที่ตั้งก็ได้
ไม่จำเป็นต้องนัดสวมเสื้อออกมาแสดงแสนยานุภาพกันหรอก!
“วิบาก” นั่นน่ะ ให้ทักษิณเขารับคนเดียวเถอะ
เราอย่าทำให้ชาติบ้านเมืองต้องพบวิบากไปด้วยเลย แล้วคนที่จะลำบากในวิบากของบ้านเมือง ก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน
พวกเรา “คนไทย” ทุกคนนี่แหละ ที่จะลำบาก!
แค่ข่าวแพร่ออกไป….
เมืองไทยเกิด “สงครามสี” อีกแล้ว อย่าว่าแต่ธุริจการลงทุนเลย การท่องเที่ยวก็จะสะดุดหยุดชะงัก ต่างชาติไม่เข้ามา
คนที่ดีใจ อาจมีแต่ “รัฐบาลเศรษฐา” เท่านั้น
เพราะเข้าล็อก
“เศรษฐกิจวิกฤตแล้วโว้ย” ๕ แสนล้าน มันน้อยไป ต้องเพิ่มเพดานกู้มาแจกเป็น ๑ ล้านล้าน
ออกพันธบัติรัฐบาลในสกุลเงินดอลลาร์ ๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ สร้างหนี้ “สกุลเงินต่างชาติ” ให้ประเทศในรอบ ๒๐ ปี อย่างที่เขาซุบซิบกันอยู่ตอนนี้
ที่แฮปปี้ คือ รัฐบาลเพื่อไทย ได้กู้มาแจก
ที่ป่นปี้ คือคนไทย ได้แบกหนี้ไป ๗ ชั่วโคตร!
การนำ “การตลาด” มาประยุกต์ใช้ใน “การเมือง” ตัวฉกาจ ไม่มีใครเก่งเท่าทักษิณ
ในกรุงเทพฯมีรถกว่า ๑๑ ล้านคัน มีถึงร้อยคันหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ที่กระจกไม่ติด “ฟิล์มกรองแสง”?
แต่ในจำนวนร้อยที่ว่านั้น มีรถเบนซ์ตู้ที่รับทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจกลับจันทร์ส่องหล้า เมื่อเช้าตรู่ ๑๘ กุมภา.ด้วย
ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินติดฟีล์มกรองแสง
ที่ไม่ติด ก็เพื่อ “การตลาด” โดยตรงนั่นเอง!
ต้องการให้คนเห็นสภาพทักษิณตัวเป็นๆ ว่าน่าสงสารขนาดไหน สื่อจะได้ถ่ายภาพไปเผยแพร่ให้เห็นสภาพ “ป่วยจริง-เจ็บจริง” ชัดๆ
แขนก็เดาะ คอก็ต้องดาม แววตา-หน้าก็โทรม
“โถ….ทักษิณพ่อทูนหัวของบ่าว หมอโรง’บาลตำรวจใจร้าย ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาหรือยังไง ถึงได้ผลักไส-ไล่ส่งออกจากวิมานชั้น ๑๔ ทั้งที่อาการท่านยังวิกฤต”?
พลพรรคคนรักทักษิณ เห็นแล้วน้ำเล็ด-น้ำตาริน กับสภาพทักษิณ-ผู้นำจิตวิญญานพรรคเพื่อไทยในสภาพ “สิ้นสภาพ”!
ก็ขนาดเมื่อวาน (๑๙ กพ.๖๗) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นำตัวทักษิณในฐานะผู้ต้องหาคดี มาตรา ๑๑๒ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อที่เกาหลีใต้ ปี ๕๘ ไปมอบพนักงานอัยการ
“นายปรีชา สุดสงวน” อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ยังเล่าถึงสภาพ ขณะรับตัวทักษิณว่า
“หลังจากที่ตำรวจนำตัวมาส่ง ผมเองต้องมีการพูดคุยกับนายทักษิณ ซึ่งจากสภาพที่ผมเห็น มองว่า นายทักษิณมีอาการป่วยขั้นวิกฤต
เพราะต้องนั่งรถวีลแชร์มา เพราะเดินไม่ไหว และจากการที่ได้พูดคุย นายทักษิณไม่มีเสียงพูด ดูท่าทางมีการป่วยหนัก และมีการสวมที่ดามคอมา”
เห็นมั้ย ทักษิณทำ “การตลาด” ได้ผล!
แล้วย้อนไปดูวันกลับบ้าน ทักษิณรู้ ช่างภาพเหมือนมดปลวกหิวอาหารตอมอยู่หน้าบ้าน
ครั้นจะเปิดประตูให้เข้าไปแล้วแอ็กชั่นให้ถ่าย ขืนให้กองทัพช่างภาพซึ่งไม่รู้ใคร-เป็นใครเข้าไป มันเข้าง่าย แต่ไล่ออกยาก
ทักษิณในชุดเดิม “คอดาม-แขนเดาะ” ออกมานั่งริมสระน้ำในบ้าน ให้ลูกสาวโพสต์อินสตาแกรม
เท่านั้น ภาพการตลาด “ทักษิณที่น่าสงสาร”
ก็กระชากเสียงเสื้อแดงกลับออกมาจากดงเสื้อส้ม เสียงสะอื้น ด้วยสงสารซืดซ้าด สั่งขี้มูกฟู๊ดๆๆๆป้ายตูดผ้าถุง
สงสารทักษิณ..สงสารทักษิณ โกงเอามาแบ่งปัน ไม่เป็นไร เพราะพวกเรายังพอได้กิน พ่อทักษิณของเราคืนมา พวกฟ้าเอาพ่อตี๋หัวตั้งของมึงคืนไป!
นี่คือการตลาด “ทางการเมือง” ของทักษิณ แค่เริ่มยังเริ่ดขนาดนี้ ถ้าลงมือจริง
“ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา-ก้าวไกล” เด็กในตีนซึ่งโตทาบรัศมีนายเก่าในวันนี้ ไม่ฉี่หดหรือ?
ที่คิด ๔ ปีข้างหน้า “ก้าวไกล” พรรคเดียวตั้งรัฐบาล “เสียงข้างมาก” ๒๕๐ เสียง ถีบเพื่อไทยลงไปเป็นฝ่ายค้านแทนนั่นน่ะ
ชั่วโมงนี้ ส้มยังคิดว่าจะกินแดงได้อยู่เหมือนเดิมมั้ย?
และในมุมกลับ
ถ้า “ธนาธร-พิธา-ชัยธวัช” เป็นทักษิณ จะยอมให้เด็กวานซืนเอาตีนลูบหน้าในสนามเลือกตั้งเป็นครั้งที่สองมั้ย?
ใครจะไปยอมล่ะ
นั่นก็เช่นกัน ยอมอะไรก็ยอมได้ แต่ทักษิณจะยอมให้ก้าวไกลเหยียบหน้าซ้ำสองในสนามเลือกตั้งอีกไม่ได้เด็ดขาด!
แล้ว “ก้าวไกล” ล่ะ….
ตั้งแต่เสือคืนป่า ก้าวไกล เหมือนลูกกวาง แค่ได้กลิ่นสาบเสือ ก็ขี้ไหล-เยี่ยวราด
ชัยธวัช เป็นผู้นำฝ่ายค้านแท้ๆ
ไหนล่ะ บทบาทนักต่อสู้ความเหลือมล้ำเพื่อ “ความเป็นคนที่เท่ากัน” นั่นน่ะ
ต้องให้เอาไม้แยงตูดมั้ย ถึงจะกล้าทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ฟัดรัฐบาลเพื่อไทย ที่ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณเป็นนักโทษเทวดาตำตาคนทั้งเมือง
ก็แค่เลียบๆ เคียงๆ แบบสะแอ๋งพูด แล้วรีบเลี่ยงไปยืนตัวสั่น
ทั้งอาจาน-อาจมมหา’ลัย ไม่เห็นหมาตัวไหนนำหน้ารุ่นใหม่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมที่เท่าเทียม เหมือนตอนที่ทำกับรัฐบาลประยุทธ์เลย?
“หลุบหัว-หลุบหาง” มุดกลับเข้ารั้วกันหมด กลัวอำนาจทักษิณ หรือกลัวไม่ได้กินจากทักษิณ ก็มิทราบ
หรือนี่คือ “ยุติที่เป็นธรรม” แล้ว
นักนิติศาสตร์, รัฐศาสตร์ ที่เคยเก่ง หลุบเปลือกตาซ่อนแววขาวขี้ขลาดของคนเป็นอาจารย์ แล้วทำเก่งออกมาตอบสังคมหน่อยซิ?
เนี่ย มองอีกมุม ให้ทักษิณออกมา มันก็ดีอย่างนี้
เป็น “พิษข่มพิษ” ที่ชะงัดนัก!
ไม่งั้น ชาวบ้านเดือดร้อน เพราะพวกเริงเมืองกำเริบ ทำระยำเมืองไม่จบ-ไม่สิ้น
หนัง มีพระเอกคนเดียว นอกนั้น แค่ผู้ช่วยพระเอก
โจร ก็มี “มหาโจร” เป็นหัวโจกตัวเดียว นอกนั้นเป็น “โจรกระจอก”
การเมืองเรื่องเลือกตั้งก็เหมือนกัน จะมี ๒ พรรค ได้ ๒๕๐ เสียงเท่ากัน มันไม่มี และมันเป็นไปไม่ได้
พูดแล้ว ก็อยากให้เศรษฐา “ยุบสภา” ซะวันนี้เลย แล้วเลือกตั้งใหม่ ดูซิ เพื่อไทยหรือก้าวไกล
พรรคไหนจะเป็นพระเอกและพรรคไหนจะเป็นมหาโจร?
เพื่อเป็นการทดสอบ
ทักษิณช่วยทำให้เด็กมันดูหน่อยได้มั้ย ว่าบารมีแค่ไหน โดยบอกพลพรรคเสื้อแดงทั้งหลายทีว่า
“รักอยู่ในที่ตั้ง” เถอะ พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลาย
อย่าออกมารวมพลสำแดงพลัง “แดงทั้งแผ่นดิน” กันเลย บ้านเมืองกำลังคืนสามัคคีดีอยู่แล้ว
อย่าทำให้เกิดบรรยากาศ “แตกแยก-แบ่งฝ่าย” อีกเลย เราเป็นไทย “ร่วมชาติ, ศาสน์, กษัตริย์” ไตรรงค์ “สีของชาติ” คือสีของไทยทุกคน
รักทักษิณ ต้องรักสงบ ไปจบที่ความเป็นไทยหนึ่งเดียวกัน
เอาอย่างนี้ดีมั้ยครับ..คุณทักษิณ
“กรรมเก่าชดใช้-กรรมใหม่ไม่ก่อ” แล้ววิบากตอนนี้ ก็จะค่อยๆ คลี่คลายไปเอง!
แม้กระทั่งคดีใหม่ที่ “อัยการสูงสุด” สั่งให้สอบสวนเพิ่มตามที่ท่านยื่นขอความเป็นธรรม คือยังไม่มีการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องขณะนี้
อดีตกรรม “ตัดไม่ได้” ก็จริง
แต่การทำ “ปัจจุบันกรรม” ให้ดี จะช่วยละลายผลร้ายจากอดีตให้จางคลายลงได้ เหมือนน้ำใสไปละลายน้ำครำ
ผมไม่ได้พูดเอง
แต่นี่จาก “โอษฐ์พระพุทธองค์”!
เปลว สีเงิน
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗