คน “อุทัย” ชื่อ “ชาดา” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ดาวประจำเมือง” อย่างรัฐมนตรี “ชาดา ไทยเศรษฐ์”
ทำให้คำว่า “ดาวสภา”
แปลว่า “หมาเห่าใบตองแห้ง” เก่งแค่แง่งๆ ในลีลา เจอคนจริงสบัดแข้ง จากแง่งๆ ก็กลายเป็นเอ๋งๆ ไปทันที!

ญัตติด่วนในสภาเมื่อวาน (๑๔ กพ.๖๗)
“ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ” ที่พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอ

อภิปรายกันแซบเวอร์ สมเป็นวัน “วาเลนไทน์” จริงๆ
“สส.รังสิมันต์” อภิปรายพาดพิงรัฐมนตรีชาดา นำภาพศปปส.ถ่ายรูปคู่รัฐมนตรีชาดามาประกอบการอภิปราย ว่า

“…..แม้กระทั่งนายชาดาพูดถึงการเนรคุณแผ่นดิน มีการปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินกว่าความเป็นจริงมาก และทำให้คนทั้งสังคมรู้สึกไม่ปลอดภัย

รัฐจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร ในเมื่อสุดท้าย ผีที่สร้างขึ้นมา มันมาจากพวกท่านเอง

ถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์บานไปเรื่อยๆ หากไม่มีการดึงสติ แล้วคำขู่เกิดขึ้นจริง ใครจะรับผิดชอบ

และสุดท้าย ผู้ที่ใช้ความรุนแรง แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ควรจะหาว่ารัฐบาล เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ขออย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย”

เมื่อศิษย์เอก “ศาสดาบูด” กระแทก รัฐมนตรีชาดาลุกขึ้นกระทอกกลับทันที สภาร้อนฉ่า เป็นเตาเกาหลีปิ้งย่าง ไฟโชน

“…..ญัตตินี้เป็นเรื่องของการอารักขาขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่กำลังเอาเรื่องนอกประเด็นผลของการกระทำเด็กหรือใครก็ตามกี่ครั้งแล้วที่ทำผิดกฎหมาย

การแสดงออกด้วยหัวใจคนไทย ไม่มีปัญหา

แต่มันมีขบวนการในประเทศนี้ ที่จะล้มล้าง ที่จะบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าทำกับผมแบบนี้ พูดกับผมแบบนี้ เดี๋ยวผมจะพูดให้หมด

ยืนยันว่าวันนี้ ไม่ได้อยากจะพูด แต่หัวใจความรักชาติมันเต็มเปี่ยม สิ่งที่ท่านทำ ไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์

ปากบอกว่าพัฒนา แต่สิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้เลวทรามมากในความรู้สึกผม ซึ่งประธานสภาปล่อยภาพนี้ออกมาได้อย่างไร ใครอนุญาต

ผมไม่ว่าสมาชิก แต่ขอถามประธาน การอภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า ยืนยันว่ามี

ซึ่งผมพร้อมจะถ่ายรูปกับคนทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไร ผมไม่รู้ ผมไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง
ต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดดูดี แต่ปฏิบัติไม่ดี”

ช่วงต่อมา ก้าวไกลอยากจะกรี๊ดดดด เมื่อรัฐมนตรีชาดา ลุกขึ้นอภิปรายเป็น เอพพิโซด 2 ว่า

“๔ ปีที่ผ่านมา ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ผมนั่งดูมาตลอด ดูการกระทำของเด็กๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันมาตลอด
หากขบวนการต่างๆ เกิดขึ้นจากเด็ก เกิดจากความรู้สึก หรือสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ปัญหา คือ มีผู้อยู่เบื้องหลัง “มอบเงินให้เด็ก”

และบางทีมี “ต่างชาติ” ไปทำเรื่องประกันตัวที่โรงพัก กดดัน ต่างๆ มากมาย

ผมเห็นว่าไม่ได้เกิดจากการกระทำของเด็ก และไม่ใช่พื้นที่ที่จะทำให้เกิดสันติภาพหรือการพูดคุยที่ชัดเจน

ในฐานะคนไทย ก็เจ็บปวดพอสมควร เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการประทุครั้งหนึ่งของคนไทย ส่วนหนึ่งจึงเป็นที่มาของญัตติในวันนี้

สิ่งสำคัญ คือ มันมีเบื้องหลัง มีเงินสนับสนุน
ผมไม่อยากจะพูด จากบางคน หรือจากกลุ่ม มันทำให้ปัญหาไม่จบสิ้น

ประเทศไทยอยู่มาได้ ไม่เคยมีปัญหาเหล่านี้
จะเกิดจากอะไร ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เกิดในชีวิตจิตใจของคนไทยทั้งชาติ

แต่เป็นความรู้สึกของคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามจะเข้ามาข้องเกี่ยวและสร้างความเสื่อมให้กับสถาบันฯ

ถ้าจะเอาพื้นที่พูดคุย ต้องด้วยความต้องการของคนไทย เป็นความรู้สึก แต่นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นความรู้สึกของคนที่เข้าใจ

คำว่า “ประมุขของประเทศ”

ตอนมี ข้อมูลอยู่ในมือนี้… ถ้าใครอยากดู แต่เรียนด้วยความเคารพว่า ผมไม่อยากสร้างความขัดแย้ง แต่ท่านเริ่มก่อน
และสิ่งที่ผมพูดมีหลักฐานแต่ยังจับไม่ได้ ถ้าถึงเวลาเขาดำเนินคดีแน่นอน

ถ้าถามว่าใคร ถ้าอยากจะรู้ เดี๋ยวจะตอบให้ว่า….

“เป็นผู้ช่วยส.ส” ท่านใด ที่ส่งเงินให้ขบวนการพวกนี้

ผมบอกว่า อย่าเอาผมเข้าไปสู่องค์ประกอบให้มันครบ
คนอย่างผม ถ้าไม่ใช่ความจริง…ไม่พูด

และสิ่งสำคัญ มันอยู่ระหว่างที่เขารวบรวมหลักฐาน แต่ผมกล้าพูดว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องห่วง ความจริงมันต้องเปิดออกมาแน่นอน

ถ้าท่านจะใช้กลไกทางสภา…ก็ดี

เพียงแต่ว่า วันนี้จะทำเพื่ออะไร และอยากรู้อะไร ข้อมูลมันเป็นเอกสารของทางราชการ ความจริงย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ”

พร้อมกันนั้น รัฐมนตรีชาดาก็ชูเอกสารให้ดูเป็นการเรียกน้ำย่อย!

นี่พูดกันตรงๆ นะ ในสังคม “หัวเต่า” ทุกวันนี้
โดยเฉพาะกับเรื่องคุกคามหยามหมิ่นสถาบันในรูปแบบ
“กัดกร่อนบ่อนเซาะ”

ถ้ารัฐมนตรีชาดาถือว่า “ธุระไม่ใช่” เพียงรักชาติ-พิทักษ์สถาบันอยู่ในใจ เหมือนผู้ใหญ่จอมปลอมอีกหลายๆ คน ที่ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัว ด้วยกลัว “ทัวร์ส้ม” ลง ละก็

สถาบันต้องถูก “ส้ม-สามนิ้ว” ตามกระชับพื้นที่ถี่ขึ้นและหนักขึ้นแน่นอน

ยามนี้ มีแต่ “รัฐมนตรีชาดา” ภูมิใจไทยคนเดียวเท่านั้น เป็นหนุมานในดงยักษ์ ประกาศตัวรบ ทั้งในสภา-นอกสภา

ผู้คนที่ได้แต่ “อัดอั้น-ตันใจ” เมื่อมีผู้กล้าออกนำ บรรดาผู้ตามก็พร้อมพรัก!

คนเก่งน่ะ ไม่ต้องการแล้ว เพราะมีล้นจนประเทศทรุด
ต้องการ “คนกล้า-คนจริง” ที่จับคอเสื้อเขย่าได้ทั้งในสภา-นอกสภา อย่าง “รัฐมนตรีชาดา” มากกว่า

เก่งประเภท “เห่าอาศัยสภาคุ้มกะลาหัว” ถีบทิ้งซะมั่ง!

“อุทัยธานี” เป็นเมือง “พระปฐมบรมราชชนกแห่งราชวงศ์จักรี”
ก็สมแล้วที่รัฐมนตรีชาดาเป็นคนอุทัยธานีและคนอุทัยเลือกให้เข้าไปทำหน้าที่แทนในสภา

เอาละ เดี๋ยวจะไม่ได้คุยเรื่อง “ทานตะวัน” ผู้คร่ำครวญหาคุก

ตำรวจนำ “ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” และ “นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร” ไปฝากขังศาลเมื่อวาน
และศาล “ไม่อนุญาต” ให้ประกันตัว ส่งเข้าคุกไป!

ก็ตามสูตรสามนิ้ว ประกาศ “อดอาหาร” ประท้วง จากนั้น ศูนย์ทนายสิทธิฯ ก็คงทำหน้าที่กระจายข่าวอาการเป็นระยะปลุกเร้า เรียกร้องความเห็นใจ

คำร้องในการฝากขัง ๑๒ วัน ตั้งแต่ ๑๔-๒๕ กพ.ตำรวจระบุพฤติกรรมทานตะวันและนายณัฐนนท์ว่า

ณัฐนนท์ “ผู้ต้องหาที่ ๒” บีบแตรส่งเสียงดัง ดังต่อเนื่องยาวประมาณ ๑ นาที ลักษณะแสดงถึงความไม่พอใจ โดย ไม่มีสาเหตุใดให้ควรใช้แตร

ในขณะเดียวกัน น.ส.ทานตะวัน “ผู้ต้องหาที่ ๑” ที่เป็นผู้โดยสาร ได้เปิดกระจกออกมา
และกล่าววาจาส่งเสียงตะโกนโวยวายในลักษณะว่า เดือดร้อนประชาชน ภาษีประชาชน
ก็ถูกกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ ทั้งคู่!

ตำรวจไทยเรานี่นะ….
ถ้าเอาจริง ถือว่าเก่ง มีประสิทธิภาพ ประชาชนฝากไข้ได้ ไม่ใช่ฝากได้แค่ผี

แต่ทีนี้ ตำรวจไทย ชินระบบไขลาน

ฉะนั้น ผบ.ตร. “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ต้องไขลานทุกเช้า ไม่งั้นหยุดเดิน หรือเดินไม่ตรง

แต่ตอนนี้ กับเรื่องคุกคามไล่ล่าขบวนเสด็จ ท่านรับปากว่า ๒ วันได้เรื่อง ก็ได้จริงตามที่ท่านรับปาก
ขอบคุณครับ…ขอบคุณ!

วันนี้ ๑๕ กุมภา.ชาวประชานัดแต่งสีม่วงพร้อมกัน แสดงให้ประจักษ์ “เรารักสมเด็จพระเทพฯ”
ผมมีอยู่ตัว วันนี้ก็ต้องคุ้ยตู้เอามาใส่

กับการแสดงออกซึ่งความรักในสมเด็จพระเทพฯ ผมจะน้อยหน้ากว่าประชาภักดิ์คนอื่นๆ เขาได้อย่างไร?

ขอปิดเบรกโดยอาศัยคำพูดรัฐมนตรีชาดากับพี่น้องอุทัยธานีนับหมื่นเมื่อวานนี้ก็แล้วกัน

“วันนี้ ประเทศไทย อยู่มาได้เพราะอะไร….
อยู่มาด้วยสถาบันหลัก อยู่มาด้วยพระมหากษัตริย์ ที่ทําให้คนไทยยังมีความสุข

ลองดูประเทศเพื่อนบ้านเรา มาตรการทางสังคมต้องเกิดขึ้นกับบุคคลพวกนี้
อย่ากลัว เราต้องรักชาติ รักแผ่นดิน ต้องลุกขึ้นมา

วันนี้ มีขบวนการ มีสิ่งที่พยายามจะมาสร้างความเสื่อมให้กับสถาบันหลัก “องค์พระประมุขของไทย”
เราต้องลุกขึ้นสู้……

ถ้าเราไม่สู้ เพราะไม่มีใครรักคนไทย รักเจ้าไทยและพระมหากษัตริย์ไทย เท่ากับคนไทยทุกคนอีกแล้ว
ขอบคุณทุกคน ที่ได้มาแสดงพลังด้วยความบริสุทธิ์ใจ”
………………..

ใครไปอุทัย ไม่ต้องอุทธรณ์ นอนอุทัย ตื่นสายๆ ไปไหว้หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วซดต้มยำปลาแรด
รับรอง “หายแรด”!

เปลว สีเงิน
๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

Written By
More from plew
บนก้าวย่างนายกฯ-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน เมื่อวาน “ศุกร์ ที่ ๑๐ มิถุนา.” คงฤกษ์ดี เพราะ ๓ ป. “ป.ป้อม-ป.ป๊อก-ป.ประยุทธ์”...
Read More
0 replies on “คน “อุทัย” ชื่อ “ชาดา” – เปลว สีเงิน”