ทักษิณ “ถูกกลั่นแกล้ง” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

บอกก่อน….
อภิปรายงบประมาณ ๖๗ ในสภา ๒-๓ วันนี้ ผมไม่ค่อยได้ดู เพราะติดคิว ไปทำฟันบ้าง
ไปปรึกษาหมอปรับความสมดุลร่างกาย “ไม่ป่วยด้วยการไม่ใช้ยา” ที่ “สุขชีวาคลินิก” ย่าน RCA บ้าง
ถามพรรคพวกในสำนักงานที่เฝ้าจอว่าไปถึงไหน มันมั้ย..วันนี้?
เขาก็บอก “มัน” แต่ประเภท “มันแกว” คือจืดสนิท!

ไม่เหมือนวันแรก
ที่คุณจุรินทร์ “ประชาธิปัตย์” ต้มยำน้ำข้น งบประมาณกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ๑๔,๙๗๒ ล้านบาท

ที่เอางบก้อนนี้ไปทำ “โครงการผู้ต้องขังได้รับการคุมดูแล” โครงการ ๖ ปี ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลหลักสิทธิมนุษยชน

แล้วคุณจุรินทร์ ก็ตั้งคำถามว่า…..
“การใช้งบส่อไปในทางไม่ชอบหรือไม่ เพราะระเบียบนี้ มันกลายเป็นระเบียบ “ศรีธนญชัย” ไปแล้ว

คือแทนจะแยกผู้ต้องขังที่ “อยู่ระหว่างคดี” ออกจาก “นักโทษเด็ดขาด”
แต่กรมราชทัณฑ์กลับไปแยก “ผู้ต้องขังเด็ดขาด” ออกเป็น “๒ มาตรฐาน”

คือ มาตรฐาน ที่ ๑ “ติดคุกที่เรือนจำ”
และ มาตรฐานที่ ๒ “ติดคุกที่บ้านได้”

จนมีเสียงวิจารณ์ ว่า….
“อาจทำให้คำพิพากษาศาลไม่มีความหมายและนักโทษบางคนไปติดคุกเสวยสุขที่บ้านได้ กลายเป็น “นักโทษเทวดา”!

คุณจุรินทร์ตั้งข้อสังเกตการใช้งบประมาณกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์เนื้อๆ
ไม่มีการกล่าวถึง นายหมา..นายแมว ที่เป็น “บุคคลภายนอก” แต่อย่างใดทั้งสิ้น

แต่ปรากฎว่า ช่วงคุณจุรินทร์อภิปราย มีสส.เพื่อไทยคนหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด ชื่อครูมานิตย์ หรืออะไรนี่แหละ
ลุกขึ้นประท้วงว่า อภิปรายพาดพิงถึงคนนอก คือ “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ!
เผอิญผมฟังพอดี ……

ด้วยความเคารพ ถ้าครูมานิตย์ไม่ “วัวสันหลังหวะ” ร้องมอ..มอ..ออกมาเอง ก็ไม่มีใครนึกว่า ๒ มาตรฐานนั้น เพื่อทักษิณ
ขอบคุณครับ..ขอบคุณ ที่ช่วยขยายความให้ชัดเจนขึ้น

ก็ชื่นชมความ “กตัญญู” ของท่านต่อนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณมากครับ

อยากกราบเรียนว่า ความกตัญญูท่านล้นเกินจนออกนอกหน้ามากไปนิด เพราะคุณจุรินทร์ไม่ได้เอ่ยชื่อ “นักโทษทักษิณ” แม้แต่คำเดียว

ทั้งการอภิปรายนั้น เป็นการอภิปรายถึงเนื้อหาการใช้งบประมาณโดยตรง
ไม่ใช่การเห่า “เลียมือ-เลียตีน” ใคร

หากแต่เป็นการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน “ตรวจสอบ-ท้วงติง” ด้วย “ซื่อสัตย์-กตัญญู” ต่อประโยชน์ชาติ ประโยชน์ประชาชน เยี่ยงสส.ผู้มี “จริยธรรมสำนึก” ทั้งหลาย

ที่จริง สาบานให้ตกน้ำป๋อมแป๋ม บทบาทครูมานิตย์ไม่อยู่ในความคิดที่ผมจะหยิบมาพูดคุยเลย

แต่มาดูข่าวที่ท่านให้สัมภาษณ์เมื่อวาน มีบางประเด็นจำเป็นต้องยกมาคุย
เพราะมันคลาดเคลื่อนด้านข้อเท็จจริง ถ้าไม่พูด “สังคม ๘ บรรทัด” อาจหลงชื่อตาม

ตอนหนึ่ง นักข่าวถามครูมานิตย์ ว่าการประท้วงคุณจุรินทร์ ทำให้มองว่าเป็นองครักษ์หรือไม่?
ครูมานิตย์ตอบตรงๆตามประสาผู้ภักดีนาย ว่า

“แล้วแต่มุมมอง แน่นอนที่สุด ในความเป็นพวก โดยเฉพาะผมที่มาจากผู้แทนไทยรักไทย มีนายทักษิณเป็นหัวหน้าพรรค

และอยู่ในพรรคนี้มาจนถึงยุคน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พวกท่านเป็นคนที่ผมเคารพนับถือ

ก็พยายามเรียกร้องหาความเป็นธรรม ๑๗ ปี ที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ มีพรรคการเมืองเรียกร้องความเป็นธรรมให้ท่านหรือไม่

ตอนที่ท่านอยู่ต่างประเทศ ก็ด่าซ้ำเติมมาโดยตลอด วันนี้ท่านกลับมาไทย ยอมรับในกติกา

เพียงแค่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ท่านไม่สบาย ท่านป่วย และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเรื่องถูกต้องในการเข้าโรงพยาบาล

แต่ถึงเวลาหนึ่ง ก็พยายามพายเรือลากเข้ามาในสภา ผมว่าไม่ยุติธรรมที่นักการเมืองอาวุโสอย่างนายจุรินทร์ จะลากเข้ามา

ถามว่าผมเป็นองครักษ์หรือไม่ ตอบแบบไม่อายเลยว่า บางครั้งมีความจำเป็น เพราะนายทักษิณเป็นคนทำให้ผมมายืนตรงนี้

ผมคิดว่านายกฯ ทักษิณ ถูกกลั่นแกล้ง…….”

ก็เข้าใจในความเป็นคนกตัญญูที่ชื่อ “ครูมานิตย์” นะ

ถ้าแบ่งความกตัญญูต่อทักษิณที่ทำให้ได้มายืนในสภาที่ “ภาษีประชาชน” เป็นผู้สร้าง และข้าวแดงแกงร้อน ที่ “ภาษีประชาชน” เป็นผู้จ่ายในแต่ละเดือน

แล้วแบ่งกตัญญูต่อทักษิณนั้น….
มากตัญญูต่อชาติบ้านเมืองและประชาชน ที่ทำให้มีชีวิต “ได้อยู่-ได้เป็นสส.” ในแผ่นดินนี้บ้าง ซักเสี้ยวก็ยังดี

ผมพูดอย่างนี้ คงไม่ผิดมโนธรรมสำนึกในความเป็นคนใช่มั้ย ท่านผู้ทรงเกียรติ?

อะไรคือเหตุทำให้ทักษิณต้องเป็นผีเร่ร่อน ๑๗ ปี แล้วครูมานิตย์สรุปว่า “ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม”?

และที่ครูมานิตย์บอก “ทักษิณถูกกลั่นแกล้ง”
ขอโทษเถอะ..ท่านสส.

ท่านบิดเบือนตามนิสัยเคยชิน หรือพูดด้วยเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ?

ตรงนี้ ถ้าไม่เคลียร์ให้ชัด “มดลูกสังคม” อักเสบได้ง่ายๆ นะครับ..ท่าน!

เอาอย่างนี้ เพื่ อ”เคลียร์-คัท” จบกันไปเลย ฟังจากปากคำทักษิณตัวเป็นๆ โดยตรงเลยดีกว่า
ว่าคดีที่ “หนีโทษคุก” ไป๑๗ ปี นั้น….

ถูกกลั่นแกล้งหรือทุจริต “โกงบ้าน-กินเมือง” จริง ตามที่เขาฟ้องและศาลตัดสินจำคุก?

ครูมานิตย์ก็อ่านด้วยนะ
…………………………

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๖
เผยแพร่ “พระบรมราชโองการ”

ที่ 1/2566 พระที่นั่งอัมพรสถาน
วันที่ 31 สิงหาคม พุทธศักราช 2566

ตามที่ นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา จำนวน 3 คดี

คดีที่ 1 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 4/2551 ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก 3 ปี

คดีที่ 2 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 10/2552 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี

ซึ่งคดีที่ 1 กับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกันรวมกำหนดโทษจำคุก 3 ปี และ

คดีที่ 3 คดีหมายเลขแดง ที่ อม. 5/2551 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมกำหนดโทษจำคุก 5 ปี

รวมกำหนดโทษจำคุก 8 ปี รับโทษมาแล้ว 10 วัน เหลือโทษจำคุก 7 ปี 11 เดือน 20 วัน อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ความว่าเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อถูกดำเนินคดี และศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าว
ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด
จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา

ขณะนี้ อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นั้น

ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร
เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา

เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือ และทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคม และประชาชนสืบไป

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
………………………………..

เป็นไง สส.ครูมานิตย์ “ตาสว่าง” หรือยัง?

“นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร” ยื่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ
และในฎีกานั้น “นักโทษทักษิณ” เขียนสารภาพไว้เองว่า

“….ด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม
ยอมรับผิดในการกระทำ
มีความสำนึกในความผิด
จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา”

-คดีอะไรบ้างล่ะ ที่ทักษิณ “ยอมรับผิด” ในการกระทำ ก็มี -.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษ แบบเลขท้าย ๓ ตัว ๒ ตัว ที่เรียกกันว่า “คดีหวยบนดิน” คุก ๒ ปี

-คดีสั่งให้ Exim Bank อนุมัติเงินกู้ ๔,๐๐๐ ล้าน ให้รัฐบาลพม่า นำมาซื้อสินค้า “บริษัทชินแซทเทลไลท์” ของทักษิณเอง คุก ๓ ปี

-คดีใช้นอมินี ถือหุ้น “บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด” (มหาชน) เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ
เข้าไปมีส่วนได้เสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม คุก ๕ ปี

ทั้งหมดนี้ ทักษิณยอมรับสารภาพว่า “ทำผิดจริง” คือคอร์รัปชันโกงบ้าน-กินเมืองจริง และสำนึกในความผิดนั้น

หวังว่า…คำว่า “ทักษิณถูกกลั่นแกล้ง”
คงถูกลบไปจาก “วาทกรรมหาแดก” ของเพื่อไทยนะ!

เปลว สีเงิน

๕ มกราคม  ๒๕๖๗

Written By
More from plew
“กู้ชาติ” กับ “ขายชาติ” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “เหยื่อการเมือง”….. ที่ “นักกินเมือง” ยุคนี้ชอบที่สุด คือพวกอ่านหนังสือไม่เกินวันละ ๘ บรรทัด พื้นที่ในสมองจึง “ว่าง”
Read More
0 replies on “ทักษิณ “ถูกกลั่นแกล้ง” – เปลว สีเงิน”