10 ปี Teach for Thailand 10 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย พร้อมเติมเต็มการศึกษาเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น

มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ (Teach For Thailand) แถลงถึงความสำเร็จตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผ่านงานฉลองครบรอบ “10 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง” #เติมเต็มการศึกษาสานต่ออนาคต โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากหลายแวดวง และกลุ่มบริษัทผู้ให้การสนับสนุน การทำงานของมูลนิธิอย่างต่อเนื่อง

อาทิ นายวิเชียร พงศธร ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย รศ.ลัดดา ภู่เกียรติ ดร.กาญจน์วรินทร์ ผลอนันต์ ร่วมด้วยครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงและศิษย์เก่าเข้าร่วมงานคับคั่ง โดยมีกิจกรรมสำคัญ คือ เวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “10 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เส้นทางที่ผ่านมา และอนาคตของการศึกษาไทย”

วิชิตพล ผลโภค ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ได้ผลิตบุคลากรคุณภาพ ผ่านโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงซึ่งเฟ้นหาครูผู้นำฯ ที่มีศักยภาพ จากหลากหลายสาขาอาชีพไปปฏิบัติหน้าที่เป็นระยะเวลา 2 ปี ในพื้นที่ที่ขาดแคลนครูเพื่อให้พวกเขา เรียนรู้ปัญหาทางการศึกษาที่นักเรียน ครู และชุมชนต้องพบเจอซึ่งมีความซับซ้อนและลึกซึ้ง ความเหลื่อมล้ำทางการ ศึกษาเป็นเรื่องที่แก้ไม่ง่าย แต่เราเชื่อมั่นในการลงทุน กับคนและการสร้างเครือข่ายผู้นำที่มีศักยภาพ

ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ช่วยเชื่อมต่อให้ผู้คนเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริงสามารถปรับกลยุทธ์ และการลงมือทำให้ สอดคล้องกัน และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยกว่า 50% ของศิษย์เก่าฯยังคงทำงานอยู่ในภาคการ ศึกษาต่อหลังจบโครงการฯ 2 ปี พวกเขาได้สามารถใช้ประสบการณ์ต่างๆ แก้ปัญหาการศึกษาไทยกลายเป็นผู้นำ ที่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง”

วิถีครูผู้นำ ฯ รุ่น 1 มุ่งมั่นสู่การเป็นนักพัฒนาการศึกษาหลากมิติ

ยุทธกฤต เฉลิมไทย หรือ “นัท” จากครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 1 สู่ประธานสมาคมศิษย์เก่า ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ผู้ก่อตั้งเครือข่าย Education for the Deaf (EDeaf) ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อผู้บกพร่องทางการได้ยิน

“2 ปีในโครงการฯ ทำให้พบว่าปัญหาการศึกษาไทยมีหลายมิติและซับซ้อน การได้เข้ามาเป็นครูผู้นำการ เปลี่ยนแปลง จึงเป็นแรงขับที่ทำให้เราหันมาสนใจปัญหาการศึกษาอย่างจริงจัง และเลือกที่จะทำอาชีพด้านนี้ต่อหลัง จบโครงการ เราได้มีโอกาสร่วมงานกับองค์กรหลากหลายซึ่งตอบรับ และยอมรับเราเป็นอย่างดีเมื่อรู้ว่าเรามาจาก ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์

นอกจากนี้ที่นี่ยังได้ช่วยหล่อหลอมศักยภาพความเป็นผู้นำ ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเจอ ปัญหาอะไรครูผู้นำฯ จะพยายามหาทางออกให้กับปัญหานั้นจนได้ เราทุกคนมีเป้าหมายที่ชัดเจน และ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ มีระบบที่สนับสนุนครูผู้นำฯได้เป็นอย่างดี สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเป็นครูผู้นำฯคือทักษะความเป็นผู้นำ ความกล้าคิดกล้าตัดสินใจ การค้นพบตัวเอง

และที่สำคัญได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตนักเรียนที่มีต่อทัศนคติ ของครอบครัว เติมพลังให้กับครูในระบบ ปรับวิธีคิดของคนในชุมชน และสร้างพลังใจให้คนเหล่านั้นมาช่วยกัน เปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยให้ดีขึ้นผ่านการทำงานของเรา”

ครูผู้นำ ฯ รุ่น 9 ครูผู้นำ ฯ รุ่นใหม่ สะท้อนมุมมองผ่านประสบการณ์

วรัทยา ไชยศิลป์” หรือ “ครูแพรว” กล่าวว่า “การเป็นครูผู้นำฯ เป็นการเรียนรู้ที่เหนือความคาดหมาย การได้เข้ามาทำงานทำให้เราได้เห็นและเข้าใจปัญหาของการศึกษาไทย ได้เรียนรู้วิถีของชุมชนและสังคมไปพร้อมกัน เป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำงานด้านการศึกษาต่อ เราได้ความรู้ตลอดระยะเวลา 2 ปี และสามารถนำเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น ระหว่างการเป็นครูผู้นำฯ ไปต่อยอดได้

นอกจากนี้ การเป็นครูผู้นำฯ ยังช่วยให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองในหลายด้านโดยเฉพาะการปรับตัว ไม่ว่าเรา จะต้องเข้าไปอยู่ในตำแหน่งไหน หรือเจอกับปัญหาอะไร สิ่งที่ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ปลูกฝังให้กับครูผู้นำฯ คือการแก้ไขปัญหา และความมุ่งมั่นสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นต่อไป”

ความสำเร็จ ของ มูลนิธิ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ คือ แรงใจของผู้สนับสนุน

วิเชียร พงศธร ประธานมูลนิธิยุวพัฒน์ ในฐานะผู้สนับสนุน มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “หวังว่าความพยายามของ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ จะสัมฤทธิ์ผลและสามารถแก้ไขปัญหาการศึกษาไทย เพราะยังมีเด็กอีกหลายล้านคนที่ไม่ได้รับโอกาส ขาดศักยภาพที่จะเติบโตและช่วยพัฒนาสังคม ครอบครัว ชุมชนของเขาให้เข้มแข็ง จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น”

วิชิตพล ผลโภค ผู้ก่อตั้ง มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ กล่าวปิดท้ายถึงก้าวต่อไปว่า “สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ เราจะพยายามบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ครูผู้นำฯ และศิษย์เก่า ได้ลงมือทำแสดงให้เห็นแล้วว่า “การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้” นับจากนี้ไปจึงมีความมุ่งหวังว่าอีก 3 ปี ข้างหน้าเราจะสามารถ เข้าถึงนักเรียนได้ 100,000 คน ผ่านการทำงานของครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 300 คน และศิษย์เก่าฯ ช่วยขับเคลื่อน ทำงานด้านการศึกษา และช่วยเด็กนักเรียนได้ไม่ต่ำว่า 500,000 คน”

ติดตามข่าวสารและการขับเคลื่อนการสร้างความเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยของ มูลนิธิ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ และร่วมสนับสนุนมูลนิธิได้ที่ www.teachforthailand.org

มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ มีพันธกิจในการพัฒนาความเป็นผู้นำเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาของเด็กไทย ผ่านโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมูลนิธิฯ สรรหาและคัดเลือกผู้สมัคร เพื่อทำงานเป็นครูในโรงเรียนขยายโอกาส เป็นเวลา 2 ปี โดย “ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง” จะทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในชุมชน เพื่อมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้นักเรียนและเพื่อให้พวกเขาสามารถกำหนดอนาคต ของตนเอง และคนรอบข้างตลอดระยะเวลา 2 ปี ครูผู้นำฯ จะได้ประสบการณ์ที่จะเป็นพื้นฐานของการสร้างความเป็นผู้นำ และหลังจากจบโครงการฯ พวกเขาจะเป็นศิษย์เก่าที่มีความสามารถเข้าไปทำงานในหลากหลายสาขาวิชาชีพ เพื่อสร้างความ เปลี่ยนแปลงในวงกว้าง ต่อไป

มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ดำเนินการสานต่ออนาคตเด็กไทยจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 สามารถสร้างเครือข่าย ครูผู้นำฯ 518 คน เข้าถึง 106 โรงเรียนใน 21 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยครูผู้นำฯ ได้สอนนักเรียนไปแล้วกว่า 120,000 คน และมีจำนวนศิษย์เก่าฯ 294 คนโดยกว่า 50% ยังคงทำงานในสายการศึกษา เปลี่ยนแปลงการศึกษาจากทั้งในและนอกระบบ ทั้งนี้ 90% ของผู้อำนวยการโรงเรียนที่ทำงานกับมูลนิธิฯ ได้แนะนำมูลนิธิฯ ให้กับโรงเรียนอื่นๆ ตัวเลขทั้งหมดนี้สะท้อนความมุ่งมั่นการทำงานโดยมีหมุดหมายในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ให้สังคมไทย เพื่อเติมเต็มการศึกษาสานต่อ อนาคตของประเทศไทยต่อไป

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง สมัครโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้ที่
https://tft-fellowship.org/ หรือบริจาคได้ที่ https://teachforthailand.org

Written By
More from pp
รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19  มุ่งเน้น “ตรวจเร็ว แยกเร็ว  รักษาเร็ว” ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท. 
12 สิงหาคม 2564 – นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล  ฤกษ์พิบูลย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่หน่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 โครงการลมหายใจเดียวกัน กลุ่ม ปตท.
Read More
0 replies on “10 ปี Teach for Thailand 10 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย พร้อมเติมเต็มการศึกษาเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น”