หลังจากที่นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ขานรับนโยบาย ไม่เก็บค่าสมัครสอบ TCAS 67 รอบ 3 (Admission) ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566
ทำให้เป็นถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้างตามสถานศึกษา ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด ว่าเห็นด้วยกับรัฐบาลที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการสมัคร TCAS 67 รอบ 3 สมัครเลือกคณะฟรี ซึ่งจะเริ่มเดือนพฤษภาคม 2567 ที่จะถึงนี้เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
นายภัทรพล ศรีเมือง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี กล่าว่า การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งมีด้วยกัน 4 รอบ ในแต่ละรอบนั้นค่าใช้จ่ายก็สูงมากเช่นกัน หลังจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ผ่านมา บางครอบครัวก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูสถานภาพทางการเงินได้ คิดว่านโยบายที่ทางรัฐบาลออกมา คือ ฟรีค่าใช้จ่าย 900 บาท ในการเลือกอันดับ เป็นนโยบายที่ดีมากสำหรับผู้ปกครอง
ขณะที่นางสาวเขมมิกา พลเสน กล่าวดีใจและชื่นชอบที่ทางรัฐบาลได้ มีโครงการดีๆ แบบนี้ออกมา เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้ โดยได้เน้นย้ำว่า 900 บาทคนเราไม่เท่ากันจริงๆ
ด้านนางสาวญาณิศา ศรัทธาวาณิชย์ ได้กล่าวชื่นชมนโยบายนี้ว่าดีสำหรับเด็กที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในฐานะที่เป็นตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี ขอขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล และ ท่านศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวง อว. และกระทรวงที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ที่ผลักดันโครงการฟรีค่าสมัครสอบ TCAS รอบ 3 ให้เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน นายกิตติภพ คงทองเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า เงิน 900 บาท สำหรับหลายๆ คน ไม่เท่ากันอยู่แล้ว สำหรับคนที่จำเป็นจริงๆ จะต้องใช้ในเรียนต่อเข้ามหาวิทยาลัย มีความหมายอย่างมาก ทั้งนี้ขอขอบคุณท่านรองนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล และท่านรัฐมนตรี อว. ศุภมาส อิศรภักดี ที่มอบสิ่งดีๆ ให้กับชาวเด็ก TCAS 67
นอกจากนี้ นางสาวเพ็ญฤดี สุวรรณประภา รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า รู้สึกยินดี และดีใจกับเด็กๆ ม. 6 ที่กำลังจะจบการศึกษาในปี 2566 ไม่นานนี้ ที่ได้รับนโยบายดีๆ นี้จากรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการลดภาระ ของผู้ปกครองและเด็กๆ เพราะบางครอบครัวเงิน 900 บาท มีความสำคัญมาก แต่ขณะที่บางครอบครัวมีความพร้อมอยู่แล้วก็อาจจะนำไปใช้ในการเตรียมตัวสอบได้ด้วย
เมื่อภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ บริบททางสังคมที่แตกต่างกัน ย่อมนำไปสู่การเห็นค่าของเงินที่แตกต่างกันเช่นกัน การเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆ ถือเป็นฐานรากอย่างหนึ่ง เพื่อที่จะนำพาสู่การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า และทัดเทียมกับนานาชาติได้ “ #900บาทคนเราไม่เท่ากัน “ อาจจะเป็นเสียงสะท้อนกลับไปถึงรัฐบาล ให้เห็นคุณค่าทางด้านการศึกษา และแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ “ผู้ที่ด้อยโอกาสและขาดโอกาส” ตามชนบท
