เปลว สีเงิน
รองจาก “บอลโลก, บอลโอลิมปิก”
รายการแข่งขันฟุตบอลที่ “ยิ่งใหญ่-เกรียงไกร” มีความหมายต่อปฐพีไทยมากที่สุด
ก็ “ฟุตบอลจตุรมิตร” นี่ไง!
จตุ แปลว่า สี่, มิตร ก็คือไอ้เพื่อนเกลอ คบหากันวันเดียว ก็เป็นสหายรู้ใจ ผูกพัน รักใคร่กันไป จนวันตาย
จตุรมิตร ก็คือ “เพื่อนเกลอ ๔ สถาบัน” สวนกุหลาบ-เทพศิรินทร์-กรุงเทพคริสเตียน-อัสสัมชัญ
ถ้าจำไม่ผิด ๒ ปีครั้ง ทั้ง ๔ โรงเรียนชายนี้ จะเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง “ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี”
ระหว่าง ๑๑-๑๘ พฤศจิกา.๖๖ นี้……..
เป็นการแข่งขันบอล “จตุรมิตร” ครั้งที่ ๓๐ ที่สนามศุภชลาศัย โดยปีนี้ “เด็กเทพ” คือ “เทพศิรินทร์” เป็นเจ้าภาพ
คิดเอาเองละกัน สถาบัน “ขาสั้น ๔ เกลอ” แต่วิสัยทัศน์ยาวและกว้างไกลนี้
ครูบาอาจารย์ทั้ง ๔ สถาบัน เขาสืบสาน-รักษา ใช้แนวทางกีฬา เป็นตัวฝึกหน่ออ่อนให้ “ก่อรัก-สร้างสามัคคี” ให้โตขึ้นเป็นกอไผ่ สยายราก “ยึดชาติ-ยึดแผ่นดิน” ได้เหนียวแน่น-ยาวนานมาขนาดไหน?
เป็นสิ่งดีงาม เป็นแบบอย่างควรเชิดชู และช่วยกันสนับสนุนรูปแบบ “กีฬาจตุรมิตร” ให้ขจร-กำจาย เป็นแนวทางสืบๆไป
ผมพบปะผู้หลัก-ผู้ใหญ่หลายๆวงการ ในวงจรธุรกิจการค้า-การอุตสาหกรรม รวมทั้งข้าราชการตำรวจ-ทหาร กระทั่งนักการเมือง
ที่พบความสำเร็จ เป็นใหญ่-เป็นโตในหน้าที่การงาน ล้วนเป็นทรัพยากรจากผลผลิต ๔ สถาบันนี้ มากต่อมาก
คือ เด็กเทพบ้าง, เด็กสวนบ้าง, เด็กวัดฝรั่ง คือกรุงเทพคริสเตียนบ้าง อัสสัมชัญบ้าง
แต่ละคน เมื่อเขาเอ่ยถึงสถาบัน เขาจะเอ่ยด้วยความภูมิใจ ผมฟังก็พลอยปลื้มไปกับเขา ในประเด็นว่า
สถาบันศึกษาทั้ง ๔ นี้ สร้างคุณูปการให้ชาติบ้านเมืองเอนกอนันต์ ในแง่สร้าง “เสาเข็ม-เสาหลัก” ค้ำยันประเทศชาติ
แต่ละต้น ที่บ่มเพาะจาก ๔ สถาบันนี้ ล้วน “มีคุณภาพ-มากคุณค่า”
โตขึ้นมาดำรงสถานะ “ทรัพยากรบุคคลของชาติ” น่าปลื้ม
จะมี “ผ่าเหล่า-ผ่ากอ” โตไปเป็น “หน่อทำลายต้น” บ้าง
นั่นเป็นธรรมดาของสัตว์โลกที่มีกรรมเป็นเครื่องจำแนก แต่เป็น “ส่วนน้อย”
ที่ผมบอก ฟุตบอลจตุรมิตรครั้งนี้ “เกรียงไกร-ยิ่งใหญ่”
ก็เพราะมี “สัตว์โลก” ส่วนน้อยนี่แหละ……
เป็นตัว “ขับเน้น” ให้เห็นถึงส่วนมากของเด็กที่โตเป็นแกนสังคมชาติ ดังปรากฎการณ์ทางสังคมขณะนี้
และวิจิตรคิด-วิจิตรทำของ “เด็กจตุรมิตร” ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ ปลื้มใจ, อบอุ่นใจ และมีความหวังในทางยืนยง-คงมั่นของบ้านเมือง ในแกน “ชาติ-พระศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์”
การ “แปรอักษร” ของ ๔ สถาบัน ตลอด ๔-๕ วันมานี้ เป็นที่กล่าวขาน ด้านชื่นชม-ปรีดากันมาก
และไม่บ่อยครั้งนัก…….
ที่จะได้เห็น “ศิษย์เก่า ๔ สถาบัน” “รุ่นปู่-รุ่นพ่อ” กระตือรือร้น ออกมามีส่วนร่วมรุ่นลูก-รุ่นหลาน ด้วยสปิริตสถาบัน
สร้างสีสันส่งเสริมการแปรอักษรและการแข่งบอลจตุรมิตรเป็นที่ อึกทึก-ครึกโครม สนุกสนาน โดยไม่ถือตัว-ถือสถานะ!
การ “เทิดชาติ-เทิดสถาบัน” ผ่านการแปรอักษร ของเด็กจตุรมิตร
ทำให้พวก “ผ่าเหล่า-ผ่ากอ” หลงยุคคนหนึ่ง ออกมาดิ้นด้วยการ “ต่อต้าน” การแปรอักษรนั้น
ต้องขอบคุณเขาเลย ดูเหมือนชื่อ “สมยศ” หน้าคุ้นๆ เคยเห็นผลุบเข้า-ผลุบออกจากคุก เป็นอาจินต์
การผ่าเหล่าของเขา เหมือนก้อนกรวดไร้ค่าดีดกระเด็นไปกระทบระฆังทอง
เสียงระฆังจึงเรียกให้ “เด็กจตุรมิตร” แต่ละรุ่น กรูออกมา เหยียบหาง “หมาหัวเน่า” ตัวนั้น!
ผมดูในยูตุ๊ปหรือในเฟซบุ๊กนี่แหละจากรายการข่าว “เด็กเทพ” ในฐานะเจ้าภาพประจำปี
ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นว่า “บังคับเด็กแปรอักษร” ไว้น่าทึ่งใน “คิดของเด็กวันนี้” จึงต้องแกะคำจากคลิปมาให้อ่านด้วยยินดี
“เด็กเทพ” พูดว่า
“………….ก่อนเริ่มงานครับพี่ ทุกชุมนุมได้เปิดรับสมัคร สมมติ เราไม่อยากขึ้นแปรอักษร เรามีสิทธิเลือกหลายชุมนุม เช่น ฝ่ายโสต เป็นนักกีฬาได้ด้วย เป็นลูกเสือ เป็นสายชุมนุม เก็บบอล จูงมือนักกีฬา
การ “แปรอักษร” เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่ทุกคนได้เลือกแต่ต้นแล้วว่า “พวกคุณอยากเป็นอะไร…เป็นฝ่ายนี้หรือเปล่า”
ถ้าน้องไม่อยากขึ้นแปร หรือไม่อยากทำกิจกรรมอื่น สามารถบอกพี่สต๊าฟได้ เรามีที่อยากขึ้นแปรสำรองอยู่แล้ว…ฯลฯ
ซึ่งจตุรมิตร ทุกคนอาจจะเห็นว่า มันเป็นกิจกรรมที่ร้อนหรือเปล่า เด็กนั่งแปรอย่างนี้ ซึ่งทุกอย่างมีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทุกปีอยู่แล้ว
“แต่สิ่งที่ได้เหมือนกันนะครับ การที่ดีมากๆ ก็คือ ทุกคนได้มีความสัมพันธ์ซึ่้งกันและกัน มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ในช่วงที่ผมอยู่ ม.๒
ตอนนั้น ผมเป็นสต๊าฟ และได้ฟังมาจากเพื่อนอีกที เขาบอกว่า….เขานั่งแปรอยู่ดีๆ ปึ๊บ…เขาคุยอยู่กับเพื่อนนั่นแหละ ผ่านไปวันเดียว ได้เพื่อนกลับมา ๒๐ กว่าคนเลย
ทั้งที่ นั่งอยู่ตรงเนี้ย และอยู่ข้างๆ กัน เอ๊า…เป็นเพื่อนกันเฉย และเพื่อนเล่นโทรศัพท์ เฮ้ย.. แบตหมดอ่ะ ขอยืมคนที่อยู่ริมสุดและกลางสุด
เห็นมั้ยครับ ว่านอกจากที่จะได้ร่วมกิจกรรมด้วย ได้ดูบอลฟรีด้วย ได้เล่นสนุกกับพี่สต๊าฟด้วยและสามารถที่จะได้เพื่อนด้วย
ซึ่งทุกอย่าง เป็นเหมือนกับการว่า เราได้อยู่ร่วมกัน เราได้รู้ว่านิสัยเพื่อนคนนี้ๆ เป็นยังไง นอกจากนี้ เราจะได้คอนเนกชั่นตอนโตด้วย เผื่อทำงานไป เราจะได้มีเพื่อนร่วมงาน
เอาจริงๆ นะครับ เพื่อนที่อยู่ในจตุรมิตรเนี่ย ค่อนข้างสนิทกันง่ายกว่าโรงเรียนอื่นด้วยซ้ำ….
เฮ้ย สวนกุกลาบเหรอ อ้าวว…เราก็อยู่… ซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ ซึ่งทั้ง ๔ โรงเรียนนี้
เมื่อจบไป เราเป็นเพื่อนใกล้ชิดกันแน่นอนและก็ทำงานด้วยกันดีมากและจะส่งผลให้ตอนโตไปเนี่ย เป็นผู้ใหญ่ที่ดี พัฒนาประเทศต่อไป”
เยี่ยมเลย…..
ทัศนคติในวิสัยทัศน์ของ “เด็กจตุรมิตร”
“ตอนโตไปเนี่ย เป็นผู้ใหญ่ที่ดี พัฒนาประเทศต่อไป”
สรุปเป็นว่า…
“นัดสุดท้าย” ของรอบแรกเมื่อวาน (๑๕ พย.๖๖) ผลบอลจตุรมิตร ระหว่าง “เด็กวัดฝรั่ง”
“กรุงเทพคริสเตียน-ชงโคม่วง” ดวลเกือกกับ “อัสสัมชัญ-อินทรีแดง”
ผล “อินทรีแดง” ปีกหัก
ไปแข่งรอบชิงที่ ๓ กับ “เทพศิรินทร์-ลูกแม่รำเพย”
ส่วนคู่ชิงชนะเลิศ จะเป็นระหว่าง “กรุงเทพคริสเตียน VS สวนกุหลาบ”
บอลนัด “หยุดโลก” ทั้ง ๒ คู่นี้ จะโชว์ขนอุยหน้าแข้งกัน วันเสาร์ที่ ๑๘ พย.นี้ ที่สนามศุภฯ ตั้งแต่บ่ายโมง เป็นต้นไป
“กรุงเทพคริสเตียน” เป็นแชมป์มาแล้ว ๘ ครั้ง เด็กสวนจะสู้เด็กวัดไหวมั้ย เห็นรางวัลอัดฉีดจากรุ่นพี่แล้ว คงฮึดสุดขนหน้าแข้งเลยแหละ
ก็ “แฟนใคร-แฟนมัน” ควงกันไปเชียร์แต่หัววัน แต่ห้ามตบตี “ชิงแฟน” กันเน้อ!
ขอส่งท้าย ด้วยสปิริต “อินทรีแดง” ให้จั๋งหนับกันซักหน่อย
………………………
Thanaphon Buranaosot
ยกย่อง ใน spirit team ครับ
Super Mark Football Festival
แม้ว่าโอกาสล่าบัลลังก์ราชาจตุรมิตร ?
ของทัพอินทรีแดง..จะจบลงก่อนใคร ❌
แต่อยากบอกน้องๆ ว่า
พวกนายจงภูมิใจเถิด..ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต
ได้เล่นฟุตบอลที่ตัวเองรัก..บนสังเวียนศักดิ์สิทธ์
ต่อหน้าเชิ้ตดำระดับอีลิทฟีฟ่า
ต่อหน้าแฟนบอล 4 สถาบันขาสั้น
ที่มากันเยอะเสียยิ่งกว่าดูทีมชาติ
ต่อหน้าจอทีวีที่ยิงสดไป 178 ประเทศทั่วโลก
ใครบอกว่าทุกอย่างมันจบ..
เส้นทางชีวิตลูกหนัง..มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
รสชาติของมันทั้งหวานและขม
มีแพ้ มีชนะ ปะปนให้เราต้องสู้
เหลือนัดเดียวชิงที่ 3 ไม่มีอะไรจะเสีย
มีเท่าไหร่..ใส่แม่งให้หมด
90 นาทีสุดท้ายใส่ให้เต็มที่
เพราะถ้าเราทำเต็มที่แล้ว..มันผ่านไปแล้ว
ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียใจ ?
? จงโบยบิน..อย่างอินทรี
อัสสัมเรามาเชียร์ตัวนะ ?❤️✌️
? Jaturamitr by AC
…………………………..
ส่วน “อินทรีเปลว” ขอลาบินไปไซ้ขนซัก ๓ ราตรีเน้อ!
เปลว สีเงิน
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
