21 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวกรณีที่พรรคเพื่อไทยแถลงการณ์ขอเสียงสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคการเมืองอื่น ว่า
พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการหารือหรือพูดคุยกับเรื่องนี้ เพราะถือว่าขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค 312 เสียง ยังเป็นหน้าที่ในการที่จะต้องดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล และเท่าที่ติดตามก็มีความชัดเจนอยู่ว่ากำลังดำเนินการในส่วนนั้นอยู่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยแถลงการณ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลมีการทาบทามมาถึงพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
นายจุรินทร์ กล่าวตอบว่า ยังไม่มีการพูดถึงแต่อย่างใดทั้งสิ้น และโดยหลักของพรรคการพิจารณาในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลหรือจะไม่ตั้งนั้น ในส่วนนั้นจะต้องเป็นมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในกรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนตั้งตั้งรัฐบาล แต่ยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย พรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีอย่างไร
นายจุรินทร์ กล่าวตอบว่า ขณะนี้ต้องถือว่า 312 เสียง8 พรรค ยังมีหน้าที่ในการตั้งรัฐบาลอยู่ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการเจรจาอะไรทั้งสิ้น พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการพิจารณาถึงเรื่องของการจับขั้วรัฐบาล เพราะมีความชัดเจนของพรรคแกนนำทั้ง 312 เสียงอยู่แล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการมอบใครไปเจรจาอะไรทั้งสิ้น และตนเองก็ไม่เคยไปเจรจากับใครในเรื่องของการตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 มีความกังวลหรือไม่ เพราะท่าทีของ ส.ว. ก็ยังยืนยันว่าหากมีพรรคก้าวไกล ก็จะไม่โหวตให้
นายจุรินทร์ กล่าวตอบว่า อันนั้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงและผลการลงคะแนนในวันพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหากมีพรรคก้าวไกลในขั้วรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีอย่างไร
นายจุรินทร์ กล่าวตอบว่า ความจริงมีความชัดเจนในเรื่องของตัวบุคคลในการที่หากมีการเสนอชื่อเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี การลงมติก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็มีความชัดเจนในตัวอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าการจับขั้วรัฐบาลใหม่ที่จะนำโดยเพื่อไทย ประชาธิปัตย์มีท่าทีอย่างไร
นายจุรินทร์ กล่าวตอบว่า ยังไม่สามารถตอบอะไรได้เพราะยังไม่มีการคุยกัน การที่จะตอบอะไรสำหรับประชาธิปัตย์ต้องเป็นเรื่องของมติที่ประชุมร่วมกับกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค ซึ่งยังไม่มีการนัดประชุมหารือถึงเรื่องนี้เลย ซึ่งหากมีการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่สามประชาธิปัตย์ก็จะมีการประชุม สส.ของพรรคอีกครั้งหนึ่ง ก่อนการพิจารณาวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 โดยนายประมวล พงศ์ถาวราเดช ประธาน สส. จะเป็นผู้นัดประชุมอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง