“คู่แผ่นดิน-คืนแผ่นดิน” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…⬇️

เปลว สีเงิน

ก้าวไกลนี่
ว่าไปก็ทำแบรนด์ด้วยการวางตำแหน่งผ่านตัวคน “แต่ละรุ่น” ได้ชาญฉลาดนะ

top-down จากไอ้เฒ่าระดับอดีตอธิการมหา’ลัย และพวก’จานสถุล ซุกใต้กระโปรงเด็ก
สู่ละอ่อน “วัยเรียน-วัยศึกษา”

นักเรียนเลวปีนรั้วบ้าง นักศึกษาชีสเค้ก “เพนกวิน-พังรุ้ง” บ้าง ผ่านกุ๊ย-อันธพาลและแว้นวัยกวนโอ้ยบ้าง

๓-๔ ปี รุ่นใหม่ของก้าวไกล วิวัฒนาการขยายฐาน-ขยายตลาด จากบนลงล่าง
สู่รุ่น “ป้ามุด” ฟลอร์โชว์ รุ่นหงำเหงือกไม่เลือกงาน รุ่นลมๆ แล้งๆ เดือนละ ๓,๐๐๐, ติดเตียง ๑๐,๐๐๐ ตาย ๑๒,๐๐๐ บ้าง

เพราะอย่างนั้น เช้าวาน (๒ กค.๖๖) ศปปส.ไปยื่นหนังสือถามพรรคก้าวไกล ว่า
“จะเปลี่ยนวันชาติ จาก ๕ ธันวา.เอาวันที่ ๒๔ มิถุนา.วันที่ “คณะราษฎรปล้นอำนาจพระมหากษัตริย์” เป็นวันชาติแทนจริงหรือ?”

ก้าวไกลจึงระดมไพร่พล “ด้อมส้ม” รุ่นเหงือกจ๋าฟันลาก่อน ขึ้นเชิงเทิน ระดมศาตราวาทะสาดใส่ศปปส.

“ชลน่าน” ในฐานะ “หนังหน้าไฟ” ของเพื่อไทย มาประชุม ๘ พรรคที่ก้าวไกล ก็ยังไม่วายโดน “ด้อมส้ม” รุ่นเหงือกแดงแว้งใส่ซะหน้าง้ำเหมือนตำดอกอุตพิด

ก้าวไกล ต้องประธานรัฐสภา…ก้าวไกล พิธาต้องนายกฯ แว๊ดๆ ใส่ชลน่าน เป็นนกอีแจ๊ดโฉบจิกกบาลเล่น

สรุป ประชุม ๘ พรรคเมื่อวาน
เรื่องตัว “ประธานสภา” ยังไม่เป็นตัว!

ชลน่านบอก เพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ ทำอะไรมีขั้น-มีตอน ฉะนั้น ก่อนเที่ยงวันนี้ ที่ “๓ กรกฏา.”
เพื่อไทย ได้ข้อสรุปแน่ แล้วจะแจ้งให้พรรคร่วมทราบก่อนเวลาที่สภานัดปฐมฤกษ์จะเปิดประชุม!

ผมก็เก็บมาย่นย่อพอให้รู้ว่า “เพื่อไทย-ก้าวไกล” เขาเดินบทการละครเรื่อง “พิษสวาท” ไปถึงไหนแล้วเท่านั้น

นับจากวันนี้ไป โดยเฉพาะพรุ่งนี้ ๔ กรกฎา.
ก็จะรู้แล้ว “ประธานสภา” คือใครและคนพรรคไหน ฉะนั้น ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องติดตามชมกันเองได้ ณ ต่อจากนี้ไป!

สำหรับผมน่ะ ไม่ตามและไม่เต้น-ไม่ตื่นอะไรกับเขาหรอก เพราะรู้ “ละคร” ก็คือ “เรื่องหลอก”!
เพื่อไทยก็รู้ ก้าวไกลหวังกูเป็นสะพาน พอข้ามฝั่งได้ มันก็ขี้ใส่สะพาน

ส่วนก้าวไกลก็รู้ เพื่อไทยแค้นที่กูเป็นหอกข้างแคร่ มันกำลังเล่นบท “พิฆาตด้วยรักให้ตักษัย”

พวกเราเป็นพวก “จิตว่าง” ไม่รัก-ไม่ชังใครโดยไร้เหตุผล

ฉะนั้น ขึ้นภูดู “ทรพี” กับ “ทรพา” ขวิดกัน มันกว่า แล้วคอยเลาะเขาเอาไปประดับข้างฝาห้องส้วม

“ทรพี-ทรพา” ก็คือควาย เป็นสัตว์มีคุณ
ในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ผมไม่เคยเห็นดวงตาสัตว์ไหนบ่งบอกความ “ใส-ซื่อ” ทั้งน่ารัก-น่าสงสารเท่าดวงตาวัว-ควาย

และสัตว์ไหน จะซ่อน “เล่ห์ร้าย-จิตลวง” ไว้ในดวงตาได้มิดชิดเท่า “สัตว์มนุษย์” เห็นจะไม่มี

เพราะอย่างนั้น “สุนทรภู่” ท่านจึงบอก…….

“อย่าไว้ใจในมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน”

แต่มีสัตว์ชนิดหนึ่ง มีดวงตาเหมือนดาว
คือ “ตาช้าง”

เคยสังเกตมั้ย ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ แต่ตาเล็ก ในความเล็กนั้น กลับใสสว่างเหมือนดาวที่ไกลลิบบนฟ้าแต่เรากลับเห็นชัดยามค่ำคืน

ตาช้าง ประมาณนั้น ลองไปสังเกต ตาช้างพูดไม่ได้ แต่สื่อสาร ๒ ทาง คือทั้งด้านรับและด้านส่งกับมนุษย์ได้ชัดเจน

ดวงตาช้าง จึงเหมือนดาวหรือ “ดวงตาสวรรค์” ที่มีพลังสื่อสารความรู้สึกกับมนุษย์ได้!

ผมก็ไม่เคยสังเกตมาก่อนนะ
เพิ่งสังเกตจาก “พลายศักดิ์สุรินทร์” ที่คุณกัญจนา ศิลปอาชา และท่านรัฐมนตรี “ท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา” นำกลับ “ยังบ้าน-ยังเมือง” ไทย เราแล้วนี่แหละ

ขวัญเอ๋ย…ขวัญ เจ้าเป็นสัตว์ “คู่บ้าน-คู่เมือง”

เจ้าเป็นสัตว์ใหญ่ ที่ใจประเสริฐ เพียงแต่เจ้าพูดภาษามนุษย์ไม่ได้เท่านั้น

แต่นอกนั้น……
ทั้งการอุทิศ การเสียสละ “สัมพันธ์ชาติ-สัมพันธ์ศาสน์” เชื่อมโยง “ศรีลังกา-ไทย” อันลึกซึ้ง

พ่อ “พลายศักดิ์สุรินทร์” ทำหน้าที่ตอบแทนคุณได้ครบถ้วน อันหาได้ยากยิ่งจากบางมนุษย์และบางสัตว์

เจ้าจากโขลง จากป่าพนาไพรไทยถิ่นเกิดอันอุ่นสุข ไปทุกข์เข็ญในหน้าที่ไม่ต่าง “ปิดทองหลังพระ” มานานถึง ๒๒ ปี

จนร่างเจ้านี้ ……
อ่อนล้า ร่วงโรย ไปตามกาลเวลา เจ็บป่วย จวนเจียนพิการ จากโซ่ที่ล่าม จากตรำกรรมพิธีที่หนัก มาเนิ่นนาน

ถ้าไม่ได้จิตประเสริฐและการลงทุนทุกอย่างเพื่อการนี้ จากคุณกัญจนา และรัฐมนตรีวราวุธ
บอกตรงๆ “พลายศักดิ์สุรินทร์” กับไทยแผ่นดินเกิด อาจสิ้นภพ-จบชาติ ณ ต่างแดนกันไป

ประหนึ่ง “พระสุพรรณกัลยา” เพื่อแผ่นดินไทยคงอยู่
“พระสุพรรณกัลยา” ทรงยอมไปเป็นตัวประกันให้กับบุเรงนอง อยู่เมืองพม่า เพื่อ “ไทยดำรงไทย”

จากพศ.๒๑๑๒ ณ กรุงแตก …………
ป่านนี้ เป็นเวลา ๔๕๔ ปี “พระสุพรรณกัลยา” ก็มิได้คืนกลับแผ่นดินแม่

จากแผ่นดิน-จนสิ้นภพ จบแบบจาก คงแต่ใจ ส่วนกายนั้นแม้เกศาเพียงเส้น คืนทบท้าวธรณีไทย พระแม่ก็ไร้วาสนา

ส่วนพ่อ “พลายศักดิ์สุรินทร์” บุญเจ้าในฐานะ “สัตว์คู่แผ่นดิน” ยังไม่สิ้นกับ “แผ่นดินไทย”
ดูดวงตาเจ้า เจ้าก็รู้นะ ว่าจะได้กลับบ้าน คุณกัญจนาไปร้องหา เจ้าก็ร้องตอบ

เจ้าเข้ากรง เจ้าก็รู้ อยู่สงบ เจ้าขึ้นเครื่องบินหลายชั่วโมง เจ้าก็รู้ จะได้คืนป่าเคยอยู่ อู่แอ่งน้ำเคยเล่น

ขวัญเอ๋ย..ขวัญเมือง
ขวัญเอ๋ย..ขวัญพ่อพลาย เจ้าจะไม่พลัดพราย จากไทย จากประเทศไปไหนอีกแล้วนะ

งานนี้ “ทั้งบุญ-ทั้งคุณ” อันยิ่งใหญ่
ตระกูล “ศิลปอาชา” โดย “คุณหญิงแจ่มใส-คุณกัญจนา-รัฐมนตรีวราวุธ” และทีมงานทุกคน “ถึงพร้อมแล้ว”

ผมขออนุโมทนาด้วย

ขณะนี้ “พลายศักดิ์สุรินทร์” อยู่ในความดูแลของ “สถาบันคชบาลแห่งชาติ” ในพระอุปถัมภ์ฯ ที่ลำปาง เรียบร้อย

คุยแต่เรื่องช้าง……
เลยไม่ได้คุยเรื่องคนการเมืองเรื่อง “ชิงบ้าน-ชิงเมืองกันเลย!

ผมว่า อย่าเอาเวลาทำมาหากินมาเสียไปกับเรื่องนี้เลย เชื่อผมเถอะ

มันไม่ไปไหนหรอก นอกจาก

๑.นายกฯไม่ใช่คนพรรคก้าวไกล

๒.ประธานสภา ไม่ใช่คนพรรคก้าวไกล

๓.นายกฯ ไม่ได้ชื่ออุ้งอิ๊งหรือเศรษฐา

๔.รัฐบาลผสมชุดใหม่ จะไม่มี “ก้าวไกล” เป็นพรรคร่วม

๕.รัฐบาลชุดไหน ถ้าพรรคมีนโยบาย “แยกชาติ-แยกแผ่นดิน” ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ ร่วมด้วย

จะไม่มีวันได้คะแนนโหวตถึง ๓๗๖ เสียงขึ้นไป

และ…………

๖.ใครอยาก “ลงถนน” ทั้งทางบก, ทางเรือ, ทางราง, ทางอากาศ, ทางใต้ดิน, ทางบนดิน

เชิญครับ…..
รัฐบาล ๘ ปี สร้างไว้คอยบริการทุกด้อมพร้อมแล้ว!

เปลว สีเงิน
๓ กรกฏาคม ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
ปริศนา ๕.๖ แสนล้าน – เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความ..⬇️ เปลว สีเงิน ผมเป็นห่วง “นายกฯเศรษฐา” นะ ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล ยังไม่มีงานไหนสร้างรายได้เข้าประเทศได้เลย ตรงกันข้าม รายการ  “ใช้เงินประเทศ” ยาวเหยียด!
Read More
0 replies on ““คู่แผ่นดิน-คืนแผ่นดิน” – เปลว สีเงิน”