“สัณหพจน์” แนะใช้สภาฯ หาทางออก เหตุ “ประชามติแยกดินแดนปาตานี”

ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า กรณีที่มีการจัดงานเปิดตัว ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Kebangsaan) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2566 ณ คณะรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี โดยมีจัดกิจกรรมปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี” และการจัดพิมพ์บัตรเพื่อร่วมลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมายนั้น

ในฐานะที่ตนเคยเป็นผู้ยื่นเสนอญัตติ “ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเขตการปกครองรูปแบบพิเศษพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้” จึงมองว่าเรื่องดังกล่าวควรที่จะมีการศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วน โดยสิ่งสำคัญคือการออกกฎหมายเพื่อให้มีการบริหารจัดการพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ

สำหรับการเสนอให้มี กมธ.เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เป็นการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ด้วยสันติวิธีที่เป็นรูปธรรม ซึ่งอาจมีลักษณะการบริหารจัดการในรูปแบบของ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ที่จัดให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารพื้นที่โดยประชาชนในพื้นที่เอง

“การบริหารจัดการรูปแบบพิเศษในพื้นที่ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งประชาชนในพื้นที่จะเป็นผู้กำหนดและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่ของตัวเอง แต่จะต้องมีการศึกษาอย่างรอบด้าน ตนจึงเห็นสมควรที่จะเสนอให้มีการจัดตั้ง กมธ. เพื่อพิจารณาศึกษาในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาควบคู่กัน เช่น เรื่องเชื้อชาติ ศาสนา อัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทัศนคติ และความเชื่อของท้องถิ่น” ดร.สัณหพจน์ กล่าว

ประเด็นเรื่องของกฎหมายรองรับ เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีเพียงกฎหมายการปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าง กทม. และเมืองพัทยา ที่เราไม่ได้เรียกว่า “เขตปกครองพิเศษ” ซึ่งการกำหนดการบริหารจัดการพิเศษใน 3 จังหวัดภาคใต้ ภายใต้รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จำเป็นที่จะต้องพิจารณารูปแบบกฎหมายที่จะรองรับ ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาแก้ไขกฎหมายหรือเสนอกฎหมายใหม่ขึ้นมา

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของการสร้างค่านิยมที่ผิดในพื้นที่เรื่องการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งจะต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยน ทำความเข้าใจร่วมกันระหว่าง ประชาชนในพื้นที่ กลุ่มต่างๆที่มีการเคลื่อนไหว กมธ. และผู้ร่างกฎหมาย รวมทั้งประชาชนทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่การรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลางหรือหน่วยงานบางหน่วยงาน

อย่างไรก็ตามการกระจายอำนาจจะเป็นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยเรื่องดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องใช้รัฐสภาเป็นกลไกในการพิจารณากำหนดและออกกฎหมาย

Written By
More from pp
จุดจบของความห้าว? – สันต์ สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน “เรายังอยู่ด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกัน.. วันก่อนย้ายของออกจากบ้านจริงๆ เพราะจะรีโนเวตบ้าน เจนย้ายของเยอะมาก เอาเฟอร์ฯ ที่อยู่บ้านข้างๆ จะต่อเติมเพิ่ม เลยให้เขามาขนของออกจากบ้านเยอะมาก..
Read More
0 replies on ““สัณหพจน์” แนะใช้สภาฯ หาทางออก เหตุ “ประชามติแยกดินแดนปาตานี””