ผักกาดหอม
เป็นไงครับ ปีศาจที่สร้างโดยพรรคก้าวไกล
บรรยากาศการเมืองกลับเข้าสู่ยุคเกลียดชังกันสุดขั้วอีกครั้ง ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเพิ่งจะผ่านพ้นไปได้เพียงสัปดาห์เดียว
กรณีพรรคชาติพัฒนกล้า คือหนึ่งในตัวอย่าง ที่พรรคก้าวไกลต้องแสดงวุฒิภาวะทางการเมือง
แต่กลับกลายเป็นว่าพรรคก้าวไกลกำลังสร้างปัญหาไม่รู้จบ
สุดท้ายความแตกแยกระหว่างประชาชน จะหนักหนาสาหัสกว่าที่ผ่านมาหลายเท่าตัว
พรรคก้าวไกลกำลังเล่นการเมืองแบบเด็กเอาแต่ใจตัวเอง
ไม่มีเหตุผล
ไม่คำนึงถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของมวลชนมีความก้าวร้าวสูง
การร่วมรัฐบาลของพรรคชาติพัฒนากล้า เริ่มต้นจากพรรคก้าวไกลเป็นผู้เชิญ
ชาติพัฒนากล้ามิได้กระสันร่วมรัฐบาลของพิธา เพราะเขามีจุดยืนจัดเจนเรื่องไม่แก้ ม.๑๑๒
กลายเป็นพรรคก้าวไกลลากพรรคชาติพัฒนากล้า มาให้มวลชนสีส้มตบกลางสี่แยก
สะใจแล้วก็เขี่ยทิ้งไป
ในทางการเมืองถือเป็นการเหยียดหยามอย่างรุนแรง
แต่ยังน้อยกว่าตรรกะนรกของมวลชนสีส้ม
ชัดๆนะครับ มวลชนสีส้ม ไม่เอาชาติพัฒนากล้า อ้างว่าเป็นเพราะ “กรณ์ จาติกวณิช” เคยร่วมเป่านกหวีดไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แล้วเหมารวมเอาว่า “กรณ์” เป็นพวกนิยมรัฐประหาร
ถ้าใช้ตรรกะนี้ตัดสินคน พรรคก้าวไกลฉิบหายแน่ครับ ตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่นอน
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , สมศักดิ์ เทพสุทิน ปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย ลำดับที่ ๗ และ ๑๑ ซึ่งได้เป็นส.ส.ล้านเปอร์เซ็นต์ และจะมีส่วนร่วมในการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา
ทำไมมวลชนสีส้มไม่คัดค้าน
ทำไมแค่ “มีกรณ์ไม่มีกู”
มี “สุริยะ-สมศักดิ์” กูแฮปปี้อย่างนั้นหรือ
๒ คนนี้ทำงานกับรัฐบาลลุงตู่ ที่บอกว่าเป็นเผด็จการรัฐประหาร ถึง ๔ ปีเต็ม
ไม่รู้สึกว่าเป็นคนของเผด็จการเลยหรือ
แต่กรณี “สุริยะ-สมศักดิ์” ยังถือว่าเด็กๆครับ
ที่ชัดเจนและใหญ่กว่านั้นคือ ๒๕๐ ส.ว.
ใน ๒๕๐ ส.ว. มีหลายคนเป่านกหวีดมาก่อนด้วย
ไม่เห็นลิสต์รายชื่อส.ว.ออกมาเลยว่า
มีหรือเปล่าครับ…มีส.ว.ไม่มีกู
ถ้าใช้ตรรกะเดียวกันกับชาติพันากล้า ก็ต้องห้ามส.ว.โหวตให้ “พิธา” เป็นนายกฯด้วย
๒๕๐ ส.ว. มาจากการแต่งตั้งของคสช.ล้วนๆ
ถ้าบอกว่าไม่คบกับคนของเผด็จการ ๒๕๐ ส.ว.นี้แหละครับคือคนของเผด็จการสามลุงตัวจริง
เป็นไงครับ ถึงวินาทีนี้ พรรคก้าวไกล กับมวลชนสีส้ม ยังตั้งหลักกันไม่ได้ เพราะความห่าม ความก้าวร้าวในอดีตมันค้ำคอ
มาที่เอ็มโอยูครับ
พรรคที่ได้ ๑๕๒ เสียง กำลังถูก พรรค ๙ เสียงขี่คอครับ
“สมรสเท่าเทียม-สุราก้าวหน้า” ไม่ใช่สิ่งที่ พรรคประชาชาติ ตัวแทนจาก ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการให้มี
แน่นอนครับ เอ็มโอยู จะถูกเขย่าก่อนนำมาแถลงวันนี้ (๒๒ พฤษภาคม) ซึ่งตรงกับวันทำรัฐประหารของคสช.เมื่อ ๙ ปีที่แล้ว
ตรงกันอย่างตั้งใจ เพื่อสะกิดแผลรัฐประหาร และสร้างความชอบธรรมาว่า รัฐบาลพิธาคือรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย
ย้อนกลับไปดูการเซ็นเอ็มโอยูเพื่อพยายามตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒
ในวันนั้นแกนนำ ๖ พรรคการเมือง ซึ่งประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย แถลงข่าว ณ โรงแรมแลงคาสเตอร์
มีสาระสำคัญคือการลงสัตยาบันร่วมกันเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เนื้อหาสัตยาบันระบุว่า ตามที่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ และได้รับทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วนั้น บัดนี้พรรคการเมืองตามรายชื่อท้ายแถลงการณ์นี้ ซึ่งยืนยันว่าได้รวบรวมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกินกว่า ๒๕๕ เสียง ได้ลงสัตยาบันร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. จึงแสดงเจตนารมณ์ไว้ร่วมกัน
แค่นั้นครับ เป็นภาพกว้างได้ใจความ
แต่เอ็มโอยูร่วมรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ดูหยุมหยิม
เป็นการนำนโยบายของพรรคก้าวไกลมาใส่ไว้ แล้วให้พรรคที่จะร่วมรัฐบาลปฏิบัติตาม
เอายุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีมาใส่ยังจะหล่อกว่านี้เยอะครับ
เมื่อเอ็มโอยูกลายเป็นเรื่องจุกจิก หากพรรคก้าวไกลไม่ถอย ก็ตั้งรัฐบาลยาก
นี่แค่ตั้งรัฐบาลนะครับ เริ่มเห็นเค้าลางของความวิบัติรออยู่ข้างหน้า
การกำหนดเอ็มโอยู มาจากลักษณะนิสัยของคนในพรรคก้าวไกล ที่ยังยึดติดแนวคิดสมัยยังเป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่
เป็นฝ่ายค้านมีหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ มันง่ายกว่าเป็นรัฐบาลที่มีหน้าที่ลงมือปฏิบัติ
เมื่อพรรคก้าวไกลติดนิสัยวิพากษ์วิจารย์ เอ็มโอยู จึงเต็มไปด้วยเรื่องที่ตัวเองเคยนำมาโจมตีรัฐบาลประยุทธ์ รวมไปถึงทุนขนาดใหญ่ของประเทศไทย
แต่น่าเสียดายแทนมวลชนสีส้มครับ
เท่าที่ฟังจากว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลหลายๆพรรค เอ็มโอยูไม่มีการแก้ๆไขม.๑๑๒
หากไม่มีจริงก็แสดงว่าพรรคก้าวไกล ให้ความสำคัญการแก้ม.๑๑๒ น้อยกว่า “สมรสเท่าเทียม-สุราก้าวหน้า”
เป็นไปตามนี้จริงจะเป็นผลดีต่อการเมืองในภาพรวม พรรคก้าวไกลไปขอให้ทายาทเผด็จการสืบอำนาจในวุฒิสภามาช่วยโหวตสัก ๗๐ เสียง ก็มีความเป็นไปได้สูงครับ
เพิ่งสังเกตุว่า ตลอดการหาเสียง จนถึงเย็นวันที่ ๑๓ พฤษภาคม “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ไม่ได้หิ้วการแก้ไขม.๑๑๒ ขึ้นเวทีปราศรัยเลย
เท่าที่จับใจความได้ “ปิยบุตร” เน้นที่ ๓๐๐ นโยบาย เปลี่ยนแปลงโครงสร้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๐ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ กระจายอำนาจปลดล็อกท้องถิ่นซึ่งเป็นการปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร เอานายพลคนทำรัฐประหารมาเข้าคุก ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปที่ดิน ทลายทุนผูกขาด
ไม่พูดถึงการแก้ม.๑๑๒
ฉะนั้นหากการแก้ม.๑๑๒ ยังคงเป็นเพียงนโยบายของพรรคก้าวไกลเท่านั้น ก็แสดงว่าตลอดระยะเวลาที่ “พิธา” เป็นนายกฯ จะไม่มีการแก้ไขเพราะเสียงสนับสนุนไม่พอ
ดูเหมือน มวลชนสีส้มบางส่วนเริ่มไหวตัวทันแล้ว ผุดแฮชแท็ก #๑๑๒ ไม่แก้ไม่มีกู
นี่ไงครับปีศาจที่พรรคก้าวไกลสร้างขึ้นมา
นี่แค่ตั้งรัฐบาลนะครับ
หากตั้งรัฐบาลสำเร็จ ยังมีปีศาจจากน้ำมือพรรคก้าวไกลอีกหลายตนดักรออยู่
ให้กำลังใจครับ