คลิกฟังบทความ…?
เปลว สีเงิน
อ้าว….แล้วกัน
“ประชาธิปไตยส้ม” ก่อนๆ คำหนึ่งก็ “ถูกกดทับ” สองคำก็ “ถูกกดทับ”
แต่ตอนนี้ พอจะได้อำนาจครองเมือง
ไม่ถูก “กดทับ” แล้ว
เปลี่ยนจากฝ่าย “ถูกกดทับ” ไปเป็นฝ่าย “กดดัน” สส.-สว. ถึงขั้น “สำรากศรี” ผ่านเฟซ-ฝ่านทวิตเตอร์ ไปทั่ว
ใช้คำ “ข่มขู่-คุกคาม-สามหาว” หวังให้เขากลัว
แล้วเขาจะได้โหวตให้ “พิธา” เป็นนายกฯ ถึง ๓๗๖ เสียง!
แหม นี่ขนาดเป็น “ว่าที่รัฐบาล” ได้ ๒ วัน ยังขนาดนี้ ถ้าได้ตะกายตึก เข้านั่งทำเนียบ นั่งกระทรวง จะขนาดไหน?
ชักเชื่อแฮะ ที่ว่า เลือกพรรคก้าวไกลแล้ว แล้วประเทศไทยเปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนจริงๆ เปลี่ยนแน่ๆ
เปลี่ยนจาก “ไทยศิวิไลย์” เป็น “ไทยกเฬวราก”!
ประเมินภาพรวมผ่านสส.”แกะกล่อง” ของก้าวไกลในกทม.เขตบางบอน จากที่เธอโพสต์ก็ได้
……………………..
รักชนก ศรีนอก
ประชาชน ๒๔ ล้านคนพูดแล้ว ประชาชนได้แสดงเจตจำนงเลือกประเทศแบบที่เค้าฝันอยากให้เป็นแล้ว ผ่านคูหาเลือกตั้ง
ถ้าสว.ยังฝืนมติเสียงประชาชน โหวตแบบไม่เจียมกะลาหัว ขอให้ระวังบิลย้อนหลังด้วย กับราคาที่ต้องจ่ายไว้ด้วย
คนเค้ากาก้าวไกลมาเช็คบิลพวกคุณจำไว้
…………………………..
ทีนี้ มาดูท่าน “รังสิมันต์ โรม” ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงใด-กระทรวงหนึ่ง เขาให้สมภาษณ์ ดังนี้
“ตอนนี้เราโดนคำถามว่าจะทำอย่างไร ในเมื่อมี ๓๐๙ เสียง และ สว.จะโหวตให้พิธาเป็นนายกหรือไม่
ผมอยากจะบอกแบบนี้ คนที่พูดแบบนี้ เขาต้องการมีจุดประสงค์พิเศษ เขาต้องการให้ พรรคก้าวไกล เปิดรับพรรคการเมืองที่ไม่ได้มีอุดมการณ์เดียวกับพวกเรา
โดยเอา สว.มาขู่ อันนั้น มันเป็นเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเราทำตามเงื่อนไขนั้น เปิดรับคนที่ไม่มีอุดมการณ์ คนที่พร้อมหักหลังประชาชนเข้ามา สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ
เราจะไม่มีรัฐบาลที่แข็งแรง ที่จะทำให้นโยบายที่เราสัญญากับพี่น้องประชาชนเอาไว้เกิดขึ้นได้
พรรคก้าวไกล เราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ๓๗๖ มากเท่าไหร่ เพราะเราเชื่อว่า วันนี้ฉันทามติของพี่น้องประชาชนที่จะให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี มันเกิดขึ้นแล้ว
ถ้าสว.หรือนักการเมืองคนไหน มันต้องการ “แทงสวน” พี่น้องประชาชน
ผมไม่เชื่อว่า ไอ้พวกนั้น จะอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ได้
……………………
อืมมม ป่านนี้สว.คงนอนคลุมโปงจับไข่สั่นกันไปหมดแล้ว
เอาอีกซักท่าน เพราะท่านนี้ ก็ไม่น่าพลาดเก้าอี้รัฐมนตรี
คือท่าน “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ท่านทวีตรัวๆ แซมเปิ้ลซักนิด
Wiroj 77
@wirojlak
เราไม่จำเป็นต้องขอร้อง ส.ว.ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเจตจำนงมหาชนหรอก ยิ่งขอร้อง นอกจากจะไม่แยแสแล้ว เขายังจะยิ่งหยิ่งผยองอีกด้วย
สิ่งที่ควรทำ ก็คือ การชื่นชม ส.ว.ที่ยอมรับในมติของประชาชน เพื่อไม่ให้ ส.ว.ที่ดี ต้องไปปะปนกับ ส.ว.ที่เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์
#สวมีไว้ทำไม
Wiroj 77
@wirojlak
พรรคการเมืองทุกพรรคที่ประกาศจุดยืนว่า “ไม่เห็นด้วยกับ ส.ว.เลือกนายกฯ” ควรรักษาคำมั่นของตนเอง ด้วยการโหวตนายกฯ จากพรรคเสียงข้างมาก
เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. แม้ว่าจะไม่ถูกเชิญให้ร่วมรัฐบาลก็ตาม
……………………….
เอาหละ ทีนี้ ถึงตาเราคุยกันบ้างละ
ก่อนอื่น คันปาก อยากพูดนิด ในจำนวน ๕๒ ล้านคน มี ๑๔ ล้านคน เลือกก้าวไกล อีก ๓๘ ล้านคน เขาไม่เลือก
ฉะนั้น จะเรียก ๑๔ ล้านเสียง เป็น “เจตจำนงมหาชน”
เวอร์ไป!
ก็จะเห็นว่า ตอนนี้ ไม่เพียงสว.เท่านั้นที่ถูกกดดัน กระทั่งสส.ทุกคน-ทุกพรรค ก็ถูกด้วย
สว.นี่ ผมสงสารแฮะ เพราะถูกฝ่ายประชาธิปไตยทั้งกดทับ-ทั้งกดดัน จนหงายท้อง ดิ้นกระดุ๊บๆ
ในการโหวตเลือกนายกฯครั้งนี้ ถ้าผมเป็นสว.นะ บอกได้เลย จะเลือกทางใดอย่างหนึ่งในสองทางนี้ คือ
ทาง “งดออกเสียง” หรือไม่ก็ทาง “โหวตไม่รับ”!
ไม่ต้องเห่ย ไปล่าชื่อชาวบ้านมาบีบกระษัยผมซะให้ยากหรอก เห็นจาน’จิ้งจกแถวธรรมศาสตร์ทำอยู่
ผมโหวตให้ไม่ได้ บอกตรงๆ!
เพราะอะไร พิธาน่ะ ไม่ได้หล่อกว่าผมหรอก แต่เรื่องกะล่อน ผมยอมแพ้
แต่เหตุที่โหวตให้ไม่ได้ เพราะอำนาจหน้าที่ในการเป็นสว.ตามรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญๆ คือ
กลั่นกรองกฎหมาย, พิจารณาให้บุคคลดำรงตำแหน่ง เป็นต้น
และในฐานะปวงชนชาวไทย มีหน้าที่ตามมาตรา ๕ ของรัฐธรรมนูญด้วย เช่น
-ต้อง “พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
-ต้องป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิผลประโยชน์ของชาติและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
รวมถึง มาตรา ๑ ที่ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้”
ทั้งในจิตสำนึก สว.จะต้องทำหน้าที่ตามมาตรา ๖ ของรัฐธรรมนูญด้วย คือ
องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้
เห็นมั้ย………
ที่ผ่านมา สส.พยายามแก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๗๒ “ตัดอำนาจสว.โหวตเลือกนายกฯ” อ้างว่า “ปิดสวิตช์สว.”
นั่นแค่ “ประตูแรก” เท่านั้น ที่เขาต้องการเดินไปสู่
เป้าหมายลึกในขั้นตอนต่อไปของเขา คือ
ถ้าปิดสวิตช์สว.ได้ เท่ากับประเทศอยู่ในกำมือสส.ฝ่ายเดียว ซึ่งสส.ในระบบเลือกตั้งนั้น ก็รู้อยู่
ว่าระหว่างคนดีกับพวกกาลีบ้าน-กาลีเมือง แบบไหนจะได้เข้าสภามากกว่ากัน?
เมื่อโจราธิปไตยส้องสุมเป็นเสียงมาก
มันก็ “ลากประเทศ” ลงไปกินในน้ำ แบบนั้น ทั้งความเป็นชาติ ความเป็นสถาบัน ไม่ป่นปี้หมดหรือ?
คำว่า “ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน” จนประเทศไทยกลายเป็นฐานทัพให้ต่างชาติ จะไม่เกิดขึ้นหรือ?
ทุกอย่างในความเป็นประเทศ-ในความเป็นชาติ ผ่านอัตลักษณ์ ทางขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี จะไม่ถูกย่ำยีปี้ป่น จนเหมือนเขมรหลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือ?
เหล่านี้แหละ ทำให้สว.เขาต้องไตร่ตรอง-ใคร่ครวญหนักในการจะโหวต-ไม่โหวตให้พิธาเป็นนายกฯ
เพราะนโยบายของพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา จะเป็นตัวจริงหรือร่างทรงก็ตาม
หลายต่อหลายข้อ มะลำมะเลืองต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งส่อว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อความมั่นคงประเทศ โดยเฉพาะความเป็น “ราชอาณาจักรไทย” ที่จะแบ่งแยกมิได้
ที่สำคัญเด่นชัด…….
การล้มหรือแก้มาตรา ๑๑๒ นั่นคือ “ด่านแรก” ที่จะนำไปสู่การ “ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์” ในขั้นต่อไป!
เจตนารมณ์พรรคก้าวไกล ตรงๆ ชัดๆ เป็นที่ประจักษ์และรับรู้กันทั่วไปดังนี้
ถ้าสว.เขาโหวตให้พิธา
นั่นเท่ากับสว.เซ็น “สลักหลังเช็ค” ให้นายพิธา-ก้าวไกล “ปฎิบัติการล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ได้!
เนี่ย…มันเป็นเช่นนี้ บรรดาญาติโยมทั้งหลาย
ฟังแล้วให้เข้าใจหัวอกสว.ที่เขาต้องกลั่นกรองคือ “คัดท้ายประเทศ” ในระบบรัฐสภาที่ประกอบด้วยคน “ร้อยพ่อ-พันแม่” ในยุคนี้
ก็ไม่ได้ยินหรือ ทันทีที่ก้าวไกลเป็นรัฐบาล งานแรกๆ คือ
-ตั้งสสร.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับ “ส้มทั้งแผ่นดิน”
-แก้มาตรา ๑๑๒
-ไล่หน่วยทหารออกจากกรุงเทพฯ ยุบกอ.รมน., ยุบ ศอ.บต.ยุบกลาโหม กับกองบัญชาการทหารรสูงสุด รวมกัน
-เลิกเกณฑ์ทหาร เลิกซื้ออาวุธ ใช้เรือประมงแทนเรือรบ
-แยก ๓ จว.ใต้ ให้เป็นรัฐปาตานีไปจัดการกันเอง
-ออกกฎหมาย “นิรโทษกรรมเหมาเข่ง” ภาค ๒ และ
-ไทยจะเป็นทั้งฐานทัพ-ทั้งสมรภูมิให้ไอ้กันรบกับจีน
แล้วเราจะเอากันแบบนี้หรือ?
ส้มเอา……
แต่ผม “พุทรา” ไม่เอาครับ!
เปลว สีเงิน
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖