เปลว สีเงิน
เปิดหีบปุ๊บ
“ส้มทั้งแผ่นดิน” ครับ
จะเป็นลมแทน “เพื่อไทย”!
หมายมั่นจะแลนด์สไลด์ แต่กลายเป็น “ส้มเขมือบแดง” ซะงั้น
แต่อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา รวมทั้งทักษิณ อย่าเพิ่งช็อกไปนะ นี่เป็นเพียงตัวเลขตอนทุ่มครึ่งเท่านั้น
แค่คะแนนระดับหมื่นใน “ไม่กี่หน่วย” ในเขตตัวเมือง
ฉะนั้น ก้าวไกล อยากดีใจ ก็ดีใจได้ แต่อย่าเพิ่งรีบฉลอง
รอให้มันสะเด็ดน้ำกว่านี้ซักหน่อย
ค่อยประกาศ “ขุดรากถอนโคนประเทศไทย”!
ที่จริง ตอนค่ำเมื่อวาน ยังเร็วเกินไปที่คุยอะไรให้เต็มปาก-เต็มคำ แต่ของมันต้องคุย เพราะหนังสือพิมพ์เขาต้องพิมพ์
ฉะนั้น ผมจำเป็นต้อง “โม้ขัดตาทัพ” ผิด-ถูกยังไง ก็หยวนๆ กันไปวันละกัน
เท่าที่ผมสดับตรับฟังข่าวตอนเช้า ในภาพรวมทั้งประเทศ
คนออกไปเลือกตั้งกันมากกว่าทุกครั้ง ทั้งคนรุ่นใหม่-รุ่นกลาง-รุ่นใหญ่-รุ่นชรา น่าจะกว่า ๗๐%
เป็นเรื่องน่าดีใจ
คนมีสิทธิ์เลือกตั้ง ๕๒ ล้าน เลือกล่วงหน้าไปแล้วราวๆ ๙๐% ในจำนวน ๒ ล้าน
เหลืออีก ๕๐ ล้านคน เมื่อวาน ไปใช้สิทธิกันซัก ๓๘-๔๐ ล้านคน
ด้วยมติจาก “เสียงข้างมาก” นั้น ชี้ไปทางไหน?
ไม่ว่าทางนั้น เป็นทางพากันขึ้นสวรรค์หรือจูงกันลงนรก
ไปเลย..
ไปด้วยกัน เมื่อพี่น้องไทยต้องการไปทางนั้น!
ในกรุงเทพฯ ๓๓ เขต เปิดหีบปุ๊บ ร้องไห้กันกระจองอแงทุกพรรค
เพราะ “ส้ม” พรึ่บ
ยึดพื้นที่ ๑,๕๘๖ ตารางกิโลเมตรของกทม.เรียบ ถ้าจะเหลือ ก็คงเหลือซัก ๑-๒ เขตให้เพื่อไทย
ส่วนพรรคอื่นๆ ทั้งรวมไทยสร้างชาติของลุงตู่ ประชาธิปัตย์ ของคุณจุรินทร์ พลังประชารัฐ ของลุงป้อม ภูมิใจไทย ของคุณอนุทิน
ณ ตอนทุ่มกว่า ถูกคนกทม.กวาดทิ้งเรียบ!
เท่าที่ผมเห็นทุกครั้ง ในกทม.นี่ พอเปิดหีบนับคะแนน พรรคไหนออกนำ ก็จะนำในทุกเขต พลิกยาก
ครั้งนี้เหมือนกัน ก้าวไกลนำ “ทุกเขต” นับตั้งแต่เปิดหีบ
ไม่แค่นั้น ในต่างจังหวัด ก็ไปในทิศทางเดียวกัน คือ “ก้าวไกล” นำ
ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ลีลาเดียวกับตอนคุณสมัคร สุนทรเวช แยกจากประชาธิปัตย์มาตั้งพรรคใหม่ชื่อ “พรรคประชากรไทย”
เลือกตั้ง ปี ๒๕๒๒ พรรคประชากรไทย “กวาดเรียบ” ทั้งกทม.!
แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล!?
ก็อย่างที่บอก ที่คุย มาจากฐานคะแนนระดับพัน-หมื่น ฉะนั้น อย่าเพิ่งฟันธง
แต่ยังไงก็ ผมเอาใจช่วย “เพื่อไทย” และช่วยลุ้นให้ได้สส.ชนะก้าวไกล
ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวทักษิณโกรธแล้ว “เผาคอก” ทิ้งน่ะ!
และถ้าไม่มาเป็นที่ ๑ ก็อดเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล
ต้องไปเป็นฝ่ายค้าน ถ้าไม่อยากเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องเลียน้ำลายตัวเอง
แล้วเศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง ก็ไปคลานลอดหว่างขา “พิธา-ธนาธร-ปิยบุตร” ขอร้องเขาให้ชวนไปร่วมตั้งรัฐบาลด้วย
และถ้าพิธาบอก……
“กระทรวงดีๆ กูไม่ให้มันหรอก” เศรษฐาก็อย่าไปโกรธเค้าเขาให้กระทรวงอะไรก็ยึดภาษิต “กำขี้ดีกว่ากำตด” ไว้
ก็ “ล้อเล่งน่า” เฮียไม่ต้องทำฉุนฉีไป
ผมยังเชื่อ “เพื่อไทย” ขวัญใจคนตาบอดไม่กลัวเสือ ยากที่จะถูกก้าวไกล “พรรคสมุน” ลบลายได้ง่ายๆ
แต่ขอบอกไว้อย่าง……
หัวค่ำ จากคะแนน ๕-๖% เท่านั้น ยังอีก ๙๐%ที่ยังไม่มีผลให้เห็นตามรายงานข่าว
เอาเข้าจริง ผมยังเชื่อ เพื่อไทยจะเหนือกว่าก้าวไกลแน่!
ในฝ่ายประชาธิปไตย ที่เปลี่ยนชื่อเป็น “ฝ่ายเสรีนิยม”
ให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยเขาบี้กัน ใครจะที่ ๑ ที่ ๒
แต่อันดับ ๓ “ภูมิใจไทย” ยืนหนึ่ง ในฝ่าย “อนุรักษ์นิยม” หรือขั้วรัฐบาลเดิม
จากนั้น ก็ตามกันมาด้วย รวมไทยสร้างชาติ, พลังประชารัฐ, ประชาธิปัตย์, ชาติไทยพัฒนา
นี่ผมหมายถึงเฉพาะ “สส.เขต” นะ
ยังไม่นับรวมสส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่มาจาก “คะแนนพรรค” ของแต่ละพรรค คือจาก “บัตรเขียว” ซึ่งตอนนี้ ยังบอกไม่ได้ว่า แต่ละพรรคได้คะแนนกันเท่าไหร่ แล้วหารออกมาจะได้กันพรรคละกี่คน?
สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๑๐๐ คนนี้ จะเป็นตัว “เปลี่ยนอันดับ” ของแต่ละพรรคได้
เนี่ย…..
ดูคร่าวๆ จากตัวเลขหยาบๆ พอเชื่อได้อย่างเดียว ว่าฝ่ายประกาศ “เปลี่ยนแปลงประเทศ” คือก้าวไกลกับเพื่อไทย มีเสียงอันดับ ๑-๒
แต่ “๒ พรรค” นั้น จะรวมกันเป็น “เสียงข้างมาก” คือมากกว่า ๒๕๑ ขึ้นไปหรือไม่?
๕๐-๕๐!
สมมติว่า ๒ พรรครวมกันเกินกว่า ๒๕๑ เสียง ประเด็นมันก็มีอยู่ว่า
ใครจะเป็นฝ่าย “เลียน้ำลาย” ก่อน ที่ว่าจะไม่ร่วมกันตั้งรัฐบาล
หรือ “ต่างฝ่าย-ต่างเลีย”?
เพื่อนำประเทศไปสู่ความเป็นสาธารณรัฐฯ ตามประกาศิตเจ้าพ่อ I’will make you an offer you can’t refuse.
สมมติต่างฝ่ายต่างยอม ก้าวไกลชนะที่ ๑ และเพื่อไทยยอมให้พิธาเป็นนายกฯ
แต่โอกาสถูกสอยจาก “ซุกหุ้น iTV” สูงมาก!
ฉะนั้น ถ้าต้องการครองสิทธิเป็นรัฐบาล ก้าวไกลก็ต้องให้เศรษฐาเป็นนายกฯ ส่วนกระทรวงดีๆ จะแบ่งให้มันหรือเปล่า เศรษฐาเปล่าพูด?
แต่นั้น..สมมติก็คือสมมติ ที่ ๑ ที่ ๒ ไม่ใช่คำตอบ “ใครจะเป็นฝ่ายตั้งรัฐบาล” และ “ใครจะได้เป็นนายกฯ?”
“เพื่อไทย-ก้าวไกล” ณ วันนี้ ยิ่งกว่ารามเกียรติ์ตอน “ทรพี-ทรพา” การที่จะกลับมารวมกันตั้งรัฐบาล
ภาษานักเลงเขาว่า “เสียทั้งหมา เสียทั้งคน!
นั่นหนึ่งประเด็นละ ประเด็นที่ ๒ ถ้าต่างฝ่ายแยกไปหาพรรคอื่นๆ มาร่วม ก็จะไม่ถึง ๒๕๑ เสียงทั้งสองฝ่าย
เอาเป็นว่าถึง ยังไงๆ ก็ปริ่มน้ำจนเปียกตูด!
เว้นแต่ ฝ่ายใด-ฝ่ายหนึ่ง ไปดึงเอาฝ่ายอนุรักษ์นิยมมาร่วมฝ่ายตนซัก ๒ พรรค และเขายอมมา
เช่น ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น
แต่ถ้าฝ่ายอนุรักษ์นิยมเขาเหนียวแน่น ไม่ยอมมา จะมีภาษีเหนือกว่า ในการรวมขั้วเดิม เป็น “เสียงข้างมาก”
และ “ตั้งรัฐบาล”
ประกอบด้วย ภูมิใจไทย, พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ, ประชาธิปัตย์, ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น
สรุป ……….
ถึงตอน ๔ ทุ่ม ยังนับคะแนนไปได้ซัก ๓๐% ก้าวไกลที่เป็นไก่ตีปักขันตอนหัวค่ำ ต้องหุบปีก หลีกทางให้เพื่อไทยขึ้นคอนขันแทน
พรรคลุงป้อม-พลังประชารัฐ กับพรรคพี่ตู่-รวมไทยสร้างชาติ จะว่าผิดหวัง-หรือสมหวัง ก็ต้องรอดูผลรวมตอนเช้า
ถ้าทั้งสส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์รวมได้ ๕๐ เสียงขึ้นไป ก็น่าพอใจ
แต่ถ้าต่ำกว่า ๕๐ ถือว่า “พลาดเป้าหมาย”!
ทั้งหมด-ทั้งมวล ไม่ว่าฝ่ายไหนจัดตั้งรัฐบาล ฝ่ายน้้น ควรมีเสียงมากกว่าอย่างน้อยซัก ๑๐ เสียงขึ้นไป
แบบนั้น ผมเชื่อ ฝ่ายวุฒิสมาชิก เขาก็ต้องโหวตให้
แต่ถ้า ๒๕๕-๒๔๕ แบบนี้ ฝ่ายวุฒิมีความชอบธรรมจะพิจารณตัวบุคคลที่เสนอเป็นนายกฯ ว่า สมควรจะโหวตให้หรือไม่โหวตให้
เอาละ……..
คุยมาก ก็โม้มาก เพราะ “คะแนนรวม” แต่ละพรรคยังไม่นิ่งพอ ไว้พรุ่งนี้ก็รู้ ว่าประเทศไทยยังอยู่
หรือต้องถูก “ขุดรากถอนโคน”?
เปลว สีเงิน
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖
