2 เมษายน 2566 ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องประชาชนกำลังหวาดวิตกกรณีแฮกเกอร์ขู่เปิดข้อมูลส่วนตัวคนไทย 55 ล้านรายชื่อ ภายใน 3 วันนับจากวันนี้
แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอสยืนยันว่าไม่มีข้อมูลใดละเอียดอ่อน แต่นำไปใช้เป็นเครื่องมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อใช้ในการหลอกลวงได้ ถือเป็นคำตอบที่อาจทำให้ประชาชนรู้สึกสิ้นหวัง
เพราะหากข้อมูลหลุดอาจกลายเป็นต้นธารของการหลอกหลวงพี่น้องประชาชนให้เสียทรัพย์สิน บางรายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงจนต้องจบชีวิตอย่างที่เคยเกิดขึ้น การให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะติดตามผู้กระทำผิดนั้นทำได้จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาผลงานของดีอีเอสทำหน้าที่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ไม่ดีพอเท่าที่ควร
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลประมาทเลินเล่อ บกพร่อง ล้มเหลว ในการทำหน้าที่ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทยอย่างร้ายแรง เพราะแม้จะมีกฎหมาย PDPA และออก พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งสิ่งที่รัฐต้องเร่งทำคือ
1.รัฐบาลต้องมีคำตอบที่ชัดเจนว่าข้อมูลเหล่านี้หายไปได้อย่างไร
2.การหาตัวผู้กระทำผิดต้องกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน
3.หากข้อมูลหลุดออกจากระบบ รัฐบาลจะเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างไร
4.ต้องเร่งวางระบบปกป้องข้อมูลประชาชน
“หลายปีที่ผ่านมา การที่พี่น้องประชาชนจะเข้าถึงโครงการของรัฐ จะต้องลงทะเบียนใหม่ผ่านแอปพลิเคชันทุกครั้ง จนประชาชนขนานนามว่าเป็นประเทศแห่งการลงทะเบียน เรื่องที่ตามมาคือความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลประชาชน หน้าที่ในการปกป้อง คือรัฐบาล
แต่วันนี้สะท้อนชัดว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งจากความหวาดกลัวจากภัยยาเสพติด และอาชญากรรมไซเบอร์ที่ไม่สามารถจัดการได้ ความหวาดระแวงของประชาชนไม่มีวันหยุด เมื่อรู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัย รัฐควรเร่งแก้ไขดำเนินการ ปกป้องสิทธิ์ของประชาชน” ดร.ลิณธิภรณ์ กล่าว