ใน “ขัดแย้ง” แต่ “ต่อยอด” – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ…?

 

เปลว สีเงิน

ไม่มีคำว่า “แก่เกิน”……..
สำหรับหนุ่มใหญ่ผู้เป็นสุภาพบุรุษประชาธิปไตย “หนึ่งเดียว” ของไทย ผู้มีนามว่า “ชวน หลีกภัย” คนนี้
“มาดเท่”
มาพร้อมกับความน่าเกรงขาม แต่ให้ความ “น่าเชื่อถือ”!
เมื่อกลองศึกในสนามเลือกตั้ง ดังรัวขึ้น ………
ประมุขอาวุโสของประชาธิปัตย์อย่างท่าน “ชวน หลีกภัย” มีหรือ จะเร้นกายจำศีล?

เมื่อวาน (๒๓ กพ.๖๖) แค่ประชาธิปัตย์คลี่ “โปสเตอร์” เป็นน้ำจิ้ม ด้วยภาพ “ชวน หลีกภัย” ในมาดหนุ่มใหญ่นุ่มลึกแต่มากเสน่ห์

นาม “ชวน” ปลุกประชาธิปัตย์
จาก “ปลาตาย” เหมือนมีมนต์วิเศษเสกพลิกฟื้นเป็น “ปลาเป็น” ทันตาเห็น!

ยิ่งสองมือเกร็งกำไม้กลอง จนเส้นเอ็นปูดโปนโชนฉานพล่านด้วยเลือดนักสู้ฉีด ริกๆ ไหวเตรียมลั่นกลองสะบัดชัยใบใหญ่ตรงหน้า

ที่เป็นแฟนประชาธิปัตย์ ใจพลันเต้นโครมครามตามไป ที่เป็นคู่แข่ง ก็ให้รู้สึกครั่นคร้ามในบัดดล
นับเป็นโปสเตอร์ “ตัดไม้ข่มนาม” ได้ชะงัดจริงๆ!

เมื่อเหลือบตาเหนือขึ้นไป…..
พบอักษร-สระ รวม ๘ ตัว รวมเป็นคำว่า “เช้าวันใหม่” และล่างลงมา มีคำว่า “๒๕ กุมภาพันธ์นี้ (พร้อมกัน ๐๘.๐๐ น.)”

มันกระแทกใจ ปลุกเร้า ทำเอาแฟนเก่า-แฟนใหม่ ใจมา “เช้าวันใหม่” ประชาธิปัตย์ จะต้องไม่เหมือนเดิม!

ภายใต้การลั่นกลอง “สะบัดชัย” ของชวนเป็นตัวการันตี เมื่อ “นำรบ” เรื่อง “แพ้ราบ” ไม่ใช่ยี่ห้อชวน!

ก็แทบไม่น่าเชื่อ……
แค่โปสเตอร์รูป “ชวน-สะบัดชัย” แผ่นเดียว จะปลุกแฟนๆ ประชาธิปัตย์ที่สลบไหล ให้ตื่นได้ขนาดนี้

ก็ดูซี ข่าวเกรียวกราว “ยึดแทบทุกช่องทางสื่อ” ตั้งแต่เช้าวานตลอดวัน
๒๕ กุมภา ๘.๐๐ น…….

มิวสิกวีดิโอ “เช้าวันใหม่” เพลงปลุกใจเปิดตัวประชาธิปัตย์โดย “เมธี ลาบานูน”
ต้อง “เปรี้ยง”!

เมื่อท่านชวนนำ อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ต้องมา เมื่อหัวหน้าพรรค “จุรินทร์” ไม่รบโดดเดี่ยว
เที่ยวนี้ ประชาธิปัตย์ ต้อง ๖๐+ ไม่งั้น เก็บป้าย!

กับอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ ผมอยากบอกเป็นการส่วนตัวกับท่านตรงนี้
ท่านเรียนเมืองนอก “ตำราฝรั่ง” ผมสู้ท่านไม่ได้ เพราะผมเรียนเมืองไทย แถมโรงเรียนวัด ฉะนั้น “ตำราไทย” ท่านสู้ผมไม่ได้

จึงบอกด้วยรักและหวังดีว่า………
“มรรค” คือหนทางสู่การดับทุกข์ ยังมีถึง ๘ ทาง
แล้วไฉน “การเมือง” สู่การบรรลุสุขสังคมชาติ ตามแนวท่าน ถึงมีแค่ “ทางเดียว” ล่ะ!?

“ประชาธิปไตย-เผด็จการ” ยึดจากคำเรียกไม่ได้หรอก
มันต้องดูจาก “ผู้กระทำ” และ “ผู้รับผลของการกระทำ”
ว่ายังประโยชน์สุขให้เกิดกับสังคมชาติบ้านเมืองและชาวบ้านตามฐานานุรูปหรือไม่?

ท่านมีทั้งตำรา-ทฤษฎี ทั้งประสบการณ์มาแล้วตอนเป็นนายกฯ บริหารบ้านเมือง
ท่านลองปิดตา แล้วเปิดใจให้กว้าง

นำประสบการณ์ที่ผ่าน มาใคร่ครวญทวนทบ ระหว่างประชาธิปไตยยุค “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ตามทัศนะท่านกับเผด็จการยุค “ประยุทธ์”

ด้วยใจเปิดกว้างในโลกเป็นจริง แล้วท่านลองตอบซิ
อะไรคือเผด็จการ อะไรคือประชาธิปไตย?

ก็จะเห็น……..
หนทางประชาธิปไตย ก็อยู่ในเผด็จการ
และหนทางเผด็จการ มันก็อยู่ในประชาธิปไตย!!!

ไม่ต่างกับทองคำบริสุทธ์
คำว่า “บริสุทธิ์” นั้น มันก็ร่อนสกัดมาจากสารพัดขี้แร่ ขี้ดิน ขี้สารพัดซากทับถม จนเกิดเป็น “เนื้อทอง”

ในความเป็น “เอกภพ” ที่กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่สามารถจรดกำหนดเขตขอบได้ ในเอกภพก็ยังประกอบด้วยล้านกาแลกซี่

และในล้านนั้น ก็ยังแทรกซ้อนซับไปด้วยกลุ่มดาวและฝุ่นสุดคณานับ
แล้วคุณอภิสิทธิ์ลองตอบซิ…

“เอกภพ” คือความเป็น “หนึ่งเดียว” นั้น มัน “หนึ่งเดียว” ใช่หรือ?
ไม่เพียงประชาธิปัตย์ยังต้องการท่าน “สังคชาติ” ก็ยังต้องการบุคลากรทางการเมืองเช่นท่าน

แต่ต้องไม่ใช่ “อภิสิทธิ์-เอกภพ”
ต้องเป็นอภิสิทธิ์ที่ “ตกผลึกคิด” ว่า มรรคที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ ยังมีถึง ๘ ทาง

ฉะนั้น การถากถางสังคมประเทศไปสู่คำว่า “ประโยชน์ของชาติ-ประชาชน” ต้องเข้าใจให้ชัดว่า
“ประชาธิปไตย-เผด็จการ” คือเอกภพ

ภายในเอกภพ ประกอบด้วยกาแลกซี่และในกาแลกซี่ก็ยังประกอบด้วยกลุ่มดาวสุดคณานับ
นั่นคือ การเมือง “ยังประโยชน์ชาติ-ประโยชน์ประชาชนให้สำเร็จ” นั้น อย่าไปติด “กับดัก” ในคำว่า “เอกภพ”

ถ้าติด “ทั้งชีวิต” ไม่ต่างล้อเกวียนติดหล่ม!

เสาร์ ๒๕ กุมภา.ไม่ทราบเป็นวันดีหรืออย่างไร เห็นหลายพรรค “เปิดตัว-เปิดแคมเปญ” กันคึกคัก

พรรคเพื่อไทย ผู้มีสโลแกนนำ “พาพ่อกลับบ้าน” ก็จะฟูลทีมไปจัดหนัก-จัดเต็มกันที่ “เชียงราย-เชียงใหม่”

พรรคพลังประชารัฐ ผู้มีสโลแกน “ป้อม ๗๐๐” ไม่ทราบข่าวว่าไปจัดหนัก-จัดเต็มพื้นที่ไหน?

ผมว่าพลังประชารัฐนี่ ชูประเด็น “ป้อม ๗๐๐” มันจะย้อนศรเอาวันหน้า เลี่ยงได้ควรเลี่ยง อย่านำไปเน้น

จริงๆ แล้ว ภาพ “ลุงป้อมแป๊ะยิ้ม” นั่นแหละ
นำมาเป็น “มาสคอต” พรรค มีเสน่ห์สร้างความจำประทับใจชาวบ้านได้ดีกว่าเน้นตัวเงิน

เพราะผมสังเกต ไปไหนๆ คนก็มาแย่งกันหอมแก้มลุงป้อม จะจัดฉาก-ไม่จัด ไม่เป็นประเด็น

เพราะจริงๆ แล้ว ลุงป้อมท่านตุ้มต๊ะตุ้มต้อย เป็นผู้ใหญ่ใจดี มีเสน่ห์ในตัวอยู่แล้ว ใครๆ ก็อยากหอม อยากเข้าใกล้ ไม่หน้าเนื้อ-ใจเสือ หลอกขย้ำชาวบ้านเป็นเหยื่อ เหมือนบางคน

ใครๆ เขาทำป้ายชูนโยบายหลอกชาวบ้านใหญ่โต
พลังประชารัฐไม่ต้องหรอก!

เพราะแค่นายกฯประยุทธ์พูด ๓ วลี “ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ”
เป็นอานิสงส์เชื่อมโยงไปถึงทั้ง ……..
พลังประชารัฐ, ภูมิใจไทย, ประชาธิปัตย์, ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนากล้า ด้วยกันทั้งหมด

ในความเป็น “พรรครัฐบาล” ที่ร่วม “ทำแล้ว-ทำอยู่” จนชนะสงครามโควิด สงครามเศรษฐกิจ สงครามท่องเที่ยว สงครามการค้ามาด้วยกัน

เฉพาะพรรคลุงป้อม ก็อย่างที่ว่า ผมอ่านไต๋แล้วที่จะไปผสมพันธุ์เพื่อไทยตั้งรัฐบาลนั้น
เป็น “เกมซ้อนเกม” ของคนระดับผู้บัญชาการทัพอย่างลุงป้อมเท่านั่น

ถึงตอนจริง ๙๙.๙๙% จาก “ทำแล้ว-ทำอยู่”
ลุงป้อมก็ต้องไป “ทำต่อ” กับ “ตู่น้องรัก”….เชื่อเห้อะ!

ฉะนั้น ไม่ต้องไปเน้น “นโยบายโม้” ให้ย้อนกลับตีกบาลตัวเองภายหลังหรอก

ทำ “มาสคอต” ลุงป้อมบ้าง ทำเป็นสติกเกอร์ทั้งติด-ทั้งแจกบ้าง ภาพป้อม-แป๊ะยิ้ม จะเป็น “ภาพประทับใจ-ประทับจำ” ไปจนถึงเลือกตั้งอีกครั้งตอนปี ๒๕๗๐ โน่นเลย

ตอนนั้น “ลุงตู่” เขาคงยังอยู่ต่อหรอก
แต่ “ลุงป้อม” นั่นแหละ จะต่อกับน้องไหวมั้ย?

จะว่าไป “ลุงป้อม” นี่ รุ่นน้องผมนะ ปี ๗๐ ผมยังอยู่ ถ้าลุงป้อมไปก่อน เสียฟอร์มแย่เลย!
จะว่าไป “นายกฯ ประยุทธ์” นี่ เฉียบ

คิดมาได้ไง “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” มันเป็น ๓ วลี ที่ครอบคลุมงาน ๘ ปี ครบจบเลย
ฟังปุ๊บ “เห็นภาพ” ปั๊บ

ประเทศไทยว่างเว้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศมาตั้งแต่ “คณะราษฎร” เข้ายึดอำนาจพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อปี ๒๔๗๕

ร่วม ๑๐๐ ปี ประเทศย่ำอยู่กับที่ “กินบุญเก่า” ที่พระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาลทรงก่อร่างสร้างประเทศไว้ให้พสกนิกรของพระองค์

ยกเว้น “อีสเทิร์นซีบอร์ด” สู่คำว่าโชติช่วงชัชวาลย์ ในยุค “ป๋าเปรม” แล้ว

แต่ละรัฐบาลต่อจากนั้น มีแต่สร้างปัญหากับแก้ปัญหาและกินบุญเก่า ก็ไม่มีรัฐบาลไหนได้ต่อยอด-แตกแขนงในการพัฒนาประเทศซักเท่าไหร่

ก็มา ๘-๙ ปี นี่เอง หลังจากพลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ เมื่อ ๒๒ พฤษภา.๕๗
บุญเก่าไม่มีเหลือให้กินแล้ว……

รัฐบาลคสช.โดยพลเอกประยุทธ์แคะหัวตะปูแตกแขนง-ต่อยอดการพัฒนาประเทศไปแทบทุกด้าน
จนวัน-สองวันนี้

Yahoo Finance อันดับประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ทั้งหมดมี ๔๘ ประเทศ
ประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่อันดับที่ ๑๐ ของประเทศมีความก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชีย!

๑ ใน ๓ หัวข้อ ที่เขาพิจารณาในการจัดอันดับและไทยโดดเด่น คือ
๘ ปี ที่ผ่าน รัฐบาลจัดสรร “งบประมาณ” ไปเพื่องาน “วิจัย-พัฒนา” มีผลต่อ GDP สูงมาก

“วิจัย-พัฒนา” เป็นคำใหม่สำหรับนักการเมืองไทย
ก็เพิ่งยุคประยุทธ์นี่แหละที่เห็นคุณค่างานวิจัย และทุ่มงบลงไป
ต้องบอกว่า “เยี่ยม”!

ประเทศไทยจะไม่ได้รับการ “ยอมรับ” จนติดอันดับโลกเกือบทุกด้านในวันนี้เลย
ถ้านายกฯ ประยุทธ์ไม่ทำคำว่า “วิจัย-พัฒนา” ให้เกิดเป็นรูปธรรมจับต้องได้
ในปัจจุบัน ยันอนาคต

เปลว สีเงิน

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
“สปิริต” กับ “สติวปิด” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “คุณนิพนธ์ บุญญามณี” ลาออกจากรมช.มหาดไทย ตอนเช้าวาน (๕ กย.๖๕) ก่อนไปขึ้นศาลที่ “ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง” ในฐานะ “จำเลย”
Read More
0 replies on “ใน “ขัดแย้ง” แต่ “ต่อยอด” – เปลว สีเงิน”