15 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการว่า ตามที่ผมได้ให้สำนักงานประกันสังคมดำเนินโครงการดังกล่าว มาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่า
ล่าสุดขณะนี้มียอดสะสมผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการตรวจสุขภาพกับสถานพยาบาล ในสถานประกอบการพื้นที่นำร่องพร้อมกัน 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ปทุมธานี ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร แล้วจำนวนทั้งสิ้น 62,952 คน คิดเป็น 20.98 เปอร์เซ็นต์จากเป้าหมาย 300,000 คน แยกเป็นผู้ประกันตนที่เป็นคนไทย 47,996 คน และผู้ประกันตนชาวต่างชาติ 14,956 คน และจากผลประเมินความเสี่ยง พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ประกันตนมีผลประเมินความเสี่ยงอยู่ระดับปานกลาง
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการจะส่งผลดีต่อผู้ประกันตนในวัยแรงงาน ในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นทำให้แรงงานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคให้ผู้ประกันตนมีสุขภาพที่ดี โดยเน้นหลักการ “ป้องกัน ดีกว่าแก้ไข” การปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการที่ดีมีมาตรฐาน มีหลักประกันที่ดี เหมาะสมในการดำรงชีวิต
ด้าน นายธนทัต ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด กล่าวว่า โครงการตรวจสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ ที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมดำเนินการนั้น เป็นโครงการที่ดีมาก ซึ่งจากการพูดคุยกับพนักงานแต่ละคนที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ ต่างชื่นชอบโครงการนี้ที่ช่วยดูแลสุขภาพพนักงานให้เข้าถึงการรักษา
จึงขอขอบคุณรัฐบาล กระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคมที่มีโครงการดีๆ แบบนี้มาสนับสนุนสถานประกอบการเพื่อให้พนักงานปราศจากโรคภัย มีหลักประกันทางสังคมและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ขณะที่ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ขอเชิญชวนสถานประกอบการที่ ที่อยู่ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ปทุมธานี ระยองพระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหรือสาขา ที่สถานประกอบการท่านตั้งอยู่ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 1 สำนักงานประกันสังคม
