ฉายหนังเก่า – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

หนังม้วนเก่าย้อนกลับมาฉายอีกครั้ง

สงสารเด็กๆ ครับ

ติดคุกเพราะผู้ใหญ่

ส่วนผู้ใหญ่นั่งในห้องแอร์สบายใจเฉิบ

เด็กผู้หญิง ๒ คน “ตะวัน” กับ “แบม” ตอนนี้อยู่ในเรือนจำ คดี ม.๑๑๒ เพราะแรงยุของอาจารย์ และนักการเมือง

โซเชียลของกลุ่ม ๓ นิ้ว ก็ไม่เบา สนับสนุนการต่อสู้แบบพลีชีพของทั้งคู่

วันก่อนไปประท้วงหน้าศาลอาญา จัดกิจกรรมตั้งชื่อว่า “เลือดต้องแลกด้วยเลือด”

ไม่รู้ใครไปแนะนำเด็กๆ ครับ ให้ยื่นถอนประกันตัวเอง เพื่อประท้วง

พร้อมข้อเสนอสายลมแสงแดดไปยังพรรคการเมือง ๓ ข้อ

๑.ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

๒.ยุติการดำเนินคดีการเมือง

๓.ทุกพรรคการเมืองต้องเสนอนโยบายยกเลิก ม.๑๑๒-ม.๑๑๖

ก็เป็นไปตามความต้องการ ศาลอาญารับคำร้องขอถอนประกันตัวเอง สั่งปลดกำไล EM ส่งตัวเข้าเรือนจำ

พล็อตเรื่องคุ้นๆ นะครับ

ปลายปี ๒๕๖๔ มันเคยเกิดเรื่องทำนองนี้มาแล้ว

๔ แกนนำสามนิ้ว คิดการใหญ่ ประกาศไม่ขอประกันตัว หลังจากขอมาแล้วหลายรอบแต่ศาลยืนยัน ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง

“กฤษฎางค์ นุตจรัส” ทนายความ นำสารออกมาจากคุก

คำแถลงข่าว กรณีการคุมขังผู้ต้องขังทางการเมือง

ในวันนี้ (๒๗ ธันวาคม) ผมในฐานะทนายความของผู้ต้องขังทางการเมือง ๔ คน อันประกอบด้วย ทนายอานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง และ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน

ได้เข้าเยี่ยมพวกเขาทั้งสี่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และได้รับการร้องขอจากพวกเขาทั้งสี่ ให้แจ้งข้อความดังต่อไปนี้ให้แก่พ่อแม่ญาติพี่น้องและบรรดามิตรสหายเพื่อนฝูงรวมทั้งสื่อมวลชนให้ทราบว่า

๑.ภายหลังจากที่ผู้บริหารของศาลอาญา ได้มีมติไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) พวกเขาในระหว่างการพิจารณาคดีตามคำร้องขอของทนายความเมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ นั้น

พวกเขาเห็นว่า เหตุผลของศาลอาญาไม่ชอบด้วยหลักกฎหมาย หลักยุติธรรม และไม่เป็นไปตามกติการะหว่างประเทศที่ไทยได้ให้สัตยาบันรับรองไว้

พวกเขาทั้งสี่เชื่อว่า การไม่อนุญาตให้เขาได้รับการประกันตัวไปสู้คดีอย่างเต็มที่นั้น เป็นการปิดโอกาสที่เขาจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา และเป็นการพิพากษาล่วงหน้าแล้วว่าพวกเขาเป็นผู้กระทำความผิด

ด้วยเหตุผลข้างต้น พวกเขาทั้งสี่จึงขอประกาศว่า นับจากนี้พวกเขาจะไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) ในระหว่างพิจารณาคดีต่อศาลอาญาอีก และจะไม่อนุญาตให้ทนายความและบุคคลใดไปดำเนินการดังกล่าวทั้งสิ้น

๒.การตัดสินใจของพวกเขาทั้งสี่ไม่ผูกพันบรรดาผู้ต้องขังและนักโทษการเมืองที่ยังถูกจับกุมคุมขังและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวคนอื่นแต่อย่างใด

๓.พวกเขาทั้งสี่ยังยืนยันที่จะต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง และยังยืนยันที่จะเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศนี้ตามแนวทางที่ได้ร่วมต่อสู้มาโดยตลอด โดยไม่หยุดยั้งไม่ว่าจะถูกคุมขังอยู่หรือไม่ก็ตาม

๔.พวกเขาทั้งสี่ขอร่วมกันเรียกร้องให้มวลหมู่มิตรสหายที่ได้ร่วมต่อสู้ด้วยกันตลอดมาจงยืนหยัดในข้อเรียกร้องทั้งสามประการ และต่อสู้ต่อไปตามแนวทางประชาธิปไตยโดยสงบ สันติวิธี

ทั้งนี้ พวกเขาทั้งสี่ขอยืนยันว่าพวกเขาทั้งสี่ขอเป็นกำลังใจและจะยืนหยัดต่อสู้กับพี่น้องข้างนอกด้วยกันตลอดไป

สุดท้าย ได้ประกันตัวออกมา น้ำตาไหลพราก เบียร์เหล้ากับแกล้มครบ ฉลองข้ามวันข้ามคืน

เมื่อหนังม้วนเก่าย้อนกลับมาฉายอีกครั้งก็อยากจะเตือนไปยังผู้ปกครองของเด็กๆ ว่า อย่าใช้อุดมการณ์อันสวยงามของเด็ก สังเวยคนที่อยู่เบื้องหลัง

“ตะวัน” กับ “แบม” ขอถอนประกันตัวสำเร็จ ข้างนอกก็เอากันใหญ่ “ปล่อยเพื่อนเรา”

พล็อตเรื่องเก่าทั้งนั้นครับ

ผลที่ตามมาเด็กๆ เสียเวลาเรียน

ส่วนผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง กระอักเลือด เพราะการเมืองไม่เปลี่ยน

เวลานี้เขาเตรียมเลือกตั้งกันแล้ว ฉะนั้นกรณี “ตะวัน” กับ “แบม” ยอมติดคุกเพื่อให้การเมืองเปลี่ยนจึงเป็นเรื่องไม่ถูกที่ถูกเวลา

กระแสของทั้งคู่จึงปลุกไม่ขึ้น

หากเปรียบเทียบกับกรณี ๔ แกนนำสามนิ้ว ขณะนั้นการเมืองแรงกว่านี้เยอะ แต่ละคนติดคุกจนผอม ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

พูดถึงข้อเสนอที่ “ตะวัน” กับ “แบม” บอกให้ทุกพรรคการเมืองทำตามคือ ต้องเสนอนโยบายยกเลิก ม.๑๑๒-ม.๑๑๖ ดูจะเป็นเผด็จการไปหน่อย

นโยบายพรรคการเมืองต้องมาจากสมาชิกพรรคไม่ใช่หรือ

จะให้ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายเหมือนกันหมดได้อย่างไร เพราะมีคนจำนวนมากไม่ต้องการให้ยกเลิกทั้ง ม.๑๑๒ และ ม.๑๑๖

“ตะวัน” กับ “แบม” ยกระดับการประท้วงจากในคุกด้วยการ ประกาศอดน้ำ อดอาหาร

ก็เหมือนที่แกนนำ ๓ นิ้วเคยประกาศ

แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่เปลี่ยนคือ ได้ออกจากคุกและกลับไปกินอาหาร

สำหรับ “ตะวัน” กับ “แบม” น่าเป็นห่วงกว่า เพราะนอกจากมือใหม่แล้ว ยังมาแบบผิดที่ผิดเวลา

เสียงรำพัน จากคุกจึงน่าเห็นใจ

“…ตะวัน แบม ๑๙ ม.ค.๖๖

เมื่อคืน แบมกับตะวันนอนไม่ค่อยหลับ กว่าจะหลับก็ดึกมากๆ แล้ว มาสะดุ้งตื่นตอนตี ๔ กว่าจะหลับกันก็ ๗-๘ โมง

ตะวันเริ่มงดน้ำ งดอาหารตั้งแต่ ๕ โมงเย็น

แบมเริ่มงดน้ำ งดอาหารตั้งแต่ ๑ ทุ่ม

ตอน ๒ เกือบ ๓ ทุ่ม พวกหนูได้ยินเสียง ปัง ปัง ก็เลยไปดูที่หน้าต่างกัน เห็นแสงไฟสว่างเป็นดวงๆ เลยรู้ว่ามีคนมาจุดพลุให้ ดีใจมากๆ เลย รู้เลยว่ามีเพื่อนๆ มาจุดพลุ มันมีพลังขึ้นมาเลย แบบมันฮีลใจพวกหนูมาก

เหมือนพลุมันจุดในใจพวกหนูเลย มันปลอบประโลมหัวใจสุดๆ เหมือนได้รับการสื่อสารจากข้างนอก แล้วมันก็เหมือนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นว่า การต่อสู้มันได้เริ่มขึ้นแล้ว”

อยากฝากบอกข้างนอกว่า ‘ลุย’

ตอนนี้สภาพร่างกายยังไหวแหละ แต่มันก็รู้สึกกันตลอดเวลา ว่าเรี่ยวแรงมันลดลงเรื่อยๆ ตามสภาพ รู้สึกได้เลยว่าหัวใจมันเต้นแปลกๆ แต่กำลังใจยังเกิน ๑๐๐%

พวกหนูเชื่อว่า ข้างนอกเรือนจำยังมีคนพร้อมที่จะสู้ไปกับพวกหนู ลุยกันค่ะ

เรื่องประกันเพื่อน วันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ อยากฝากพี่ๆ ทนาย ‘ยื่นประกันเพื่อนต่อไป’ ถ้ายื่นทุกวันได้ยิ่งดีเลยค่ะ เราจะสู้ไปด้วยกัน ไม่ต้องห่วงสุขภาพพวกหนู พวกหนูทนได้ สิ่งสำคัญในการเรียกร้องครั้งนี้ คือ ‘เพื่อนๆ ต้องได้ประกันตัวออกไปทุกคนค่ะ’ พวกหนูยืนยันว่าจะไม่ขอประกันตัวจนกว่าเพื่อนๆ จะได้ออกไปหมดแล้ว

ตะวันบอกว่าเสาร์นี้มีงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนมัธยมกัน แต่ตะวันไม่ได้ไปและไม่รู้ว่าเพื่อนๆ จะรู้หรือยังว่าตะวันอยู่ในเรือนจำ

ตะวัน แบม ดมยาดมตลอดบทสนทนา และบอกว่า ประเมินกันแล้ว พรุ่งนี้แย่กว่านี้แน่ๆ ขนาดตอนนี้ยังหิวน้ำขนาดนี้ (ตอนบ่าย ๒) ระหว่างที่คุยกัน แบม ตะวันเห็นผู้ต้องขังคนอื่นดื่มโค้ก ก็บอกว่า ‘อยากกินโค้กแช่เย็นๆ บ้างจัง’ แต่บอกทนายว่าอย่าจด อย่าเผยแพร่ ฮ่าๆๆๆ

ก่อนหมดเวลาก็ย้ำอีกว่า พรุ่งนี้รอฟังเรื่องประกันตัวเพื่อนๆ อยู่…”

สงสารจริงๆ ครับ ที่ทั้ง ๒ คนยังคิดว่าข้างนอกพร้อมสู้พร้อมลุยด้วย

หยุดเถอะครับผู้ใหญ่หลอกเด็ก

พรุ่งนี้ไม่มีใครออกมาสู้หรอกครับ

ที่แน่ๆ “ตะวัน” กับ “แบม” จะอยากกินโค้กแช่เย็นมากกว่าเมื่อวาน

Written By
More from pp
“สกลธี”ฟ้อง 2 พิธีกร Voice TV “วิโรจน์-ลักขณา” วิจารณ์เกินจริง-สร้างความเกลียดชังกระทบหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ
“สกลธี” ใช้สิทธิ์ทางกฎหมายมอบทนายความ ยื่นฟ้องดำเนินคดี 2 พิธีกรรายการ Talking Thailand Voice TV “วิโรจน์-ลักขณา” ฐานวิพากษ์วิจารณ์และอาจทำให้ตนถูกเกลียดชังโดยที่ไม่ทราบเรื่องที่มาที่ไปทั้งหมด ทั้งยังสร้างความเสียหายช่วงหาเสียงลงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม....
Read More
0 replies on “ฉายหนังเก่า – ผักกาดหอม”