รหัสลับ “จดหมายรัก” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อย”
รุ่นฟันน้ำนม “ฮิต” ชนิดลืมนมแม่
แต่  “จดหมายเปิดใจพลเอกประวิตร” กลับฮิตในหมู่คนรุ่น “นาฬิกาเพื่อน-แหวนแม่”
รวมทั้งรุ่น “เหงือกจ๋าฟันลาก่อน” ที่พากันถอนใจ
ด้วยแซด ว่า….

“พี่ป้อม” จะเสียผู้ใหญ่ ก็เพราะ “ทรงอย่างแบด” ด้วยถูกพวก “ขันที-หลี่กงกง” รอบกาย ยกยกปอปั้น เพ็ดทูลเรื่องเท็จ ยุแหย่-ชักไย จนเคลิ้มตาม แบบนี้แหละ

ไม่ต่าง “ฮ่องเต้” ถูกแก๊งสอพลอ “ครอบงำ” เบ็ดเสร็จ!
กระทั่งน้องนุุ่งที่อยู่กันมา ๔๐-๕๐ ปี ไอ้พวกหลี่กงกงมันก็เป่าหูให้กินแหนง หวาดระแวงกัน

เชื่อกระทั่งโพล “รั้วกินได้” ที่รัวลิ้น ว่าคะแนนนิยมในตลาดเลือกตั้ง “พี่ป้อม” ทิ้งขาด “น้องตู่”

ฉะนั้น พรรคพลังประชารัฐเรา ปูทาง “เลือกข้าง” ไปร่วมตั้งรัฐบาลกับ “ขั้วฝ่ายประชาธิปไตย” ชัวร์กว่า ขืนผูกขาอยู่กับพรรคน้อง ต้องเป็นฝ่ายค้านแหง!

ทำอย่างนั้น “พี่จะเสียผู้ใหญ่นะ” ไว้เชิงในยิ้มกระหยิ่มยอ
ไม่เป็นไร เรามีแผน สร้าง “พี่” ให้เป็นพระเอกผู้ถูกกระทำในบท “พี่มีแต่ให้”

แล้วผลักไส “น้องตู่” ไปอยู่ในบท “น้องผู้ทรยศ” ที่ทิ้งพี่ไปมีพรรคใหม่ ตัดเยื่อ-ขาดใย หวังไปใหญ่คนเดียว

ก็ประมาณนี้แหละ…..
“จดหมายเปิดใจพลเอกประวิตร” มือผีเขียนให้ จึงเกิดขึ้น ด้วยท่วงทำนอง พี่ตัดพ้อ “น้องทิ้งพี่”
เพื่อสร้างภาพ “พี่ป้อม…ที่บริสุทธิ์และแสนดี”

ร่ายยาวจาก พี่ไม่เกี่ยวการเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศของน้อง เมื่อ ๒๒ พฤษา.๕๗ เลยซักนิด
แต่พี่ต้องยอมให้เขาตราหน้าว่า “เผด็จการ” ทั้งที่พี่เปล่าเป็น น้องตู่เขาเป็น “เผด็จการ” คนเดียว

เพียงแต่น้องเขาเอาตำแหน่ง “รองนายกฯ” ควบ “รมว.กลาโหม” มาประเคนให้พี่
พี่ไม่รู้จะทำไง ทั้งที่ใจพี่มันประชาธิปไตยเต็มร้อย

แต่เพื่อน้อง พี่ต้อง “จำใจรับ” ไปร่วมรัฐบาลคสช.เพื่อช่วยพวกน้องๆ ที่ไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางการเมือง
ไม่ใช่พี่อยากเป็น!
แต่จำใจเข้าไปช่วยประคับ-ประคองน้องตู่เขา จนจัดให้มีเลือกตั้งได้ ปี ๒๕๖๒

น้องตู่ เขาอยากเป็นต่อ
ส่วนพี่….ไม่

เมื่อน้องเขาอยาก พี่ก็ต้องช่วยตั้งพรรคประชารัฐให้ จนน้องได้เป็นนายกฯ-เป็นรัฐบาลสมปรารถนา
แล้วน้องกลับมาทิ้งพี่ไป

ไปพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” (น่าทำหยดน้ำตาเปรอะตัวอักษรไว้ซักนิด จะได้ดูสมจริงและน่าสงสารมากกว่านี้นะ)

พี่น่ะ ยินดีกับน้อง แต่ใจนั้น ทั้งขม-ทั้งขื่น เรียกว่า “หน้าพี่ชื่น” แต่ “อกพี่ตรม”

แล้วจดหมายเปิดใจ ฉบับมือผีเขียน ก็ดันทิ้งโค้ง เทกระจาดเองซะนี่ ตอนท้ายจดหมาย ว่า
คือ น้องทิ้งพี่ได้……

“แต่พี่ไม่มีวันทอดทิ้งสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพราะพี่เป็นคนมีความรับผิดชอบ
พร้อมเดินนำทุกคนที่ความเชื่อมั่นในความตั้งใจแน่วแน่ขงผม เข้าสู่การเลือกตั้ง “ตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป”

เพื่อกลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารบ้านเมืองอีกครั้ง”

ผมถอดรหัสจดหมายพลเอกประวิตร แล้ว “แยกกาก-แยกเนื้อ” ให้เหลือแต่ “แก่นกะล่อน” ได้ประมาณนี้

สรุป….
พลังประชารัฐ “ประกาศเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” ไปอยู่ฝั่งพรรคเพื่อไทยแล้ว
ผลัก “รวมไทยสร้างชาติ” ให้เป็นพรรคฝ่ายเผด็จการ”

นี่คือ “หัวใจ” ที่ซ่อนในเนื้อจดหมาย “เปิดใจ” พลเอกประวิตร

คนเขียนจดหมายแทนบิ๊กป้อม เขาสร้างบิ๊กป้อม ให้อยู่ในบท “พระเอก” ส่วนบิ๊กตู่ อยู่ในบท “ผู้ร้าย” ผู้ทิ้งพี่-ทิ้งลูกน้อง!
แต่ถ้าสังเกต จะจับความได้
“ตอนต้น” กับ “ตอนท้าย” จดหมาย แย้งกันเองในเชิงประจาน “สันดาน” ที่ปกปิด

คือ ตอนต้นบอก ปี ๖๒ ของรัฐบาลคสช.บิ๊กป้อมผลักดันจนให้มีเลือกตั้ง ปี ๖๒ “คืนอำนาจให้ประชน”
“พลเอกประวิตร” พอแล้ว

แต่ “น้องตู่” ตะหาก ที่อยากอยู่ต่อ เพื่อสานภารกิจให้สำเร็จ
พี่ก็เลยจำใจตั้งพลังประชารัฐ ช่วยน้องได้กลับมาเป็นนายกฯ สมปรารถนา

แต่ถ้าเราย้อนไปดู ๔ ปี รัฐบาลคสช.
ใครกันแน่ “พี่หรือน้อง” เป็นฝ่ายสร้างครหาด้านไม่สุจริตถ่วงรัฐบาล จนน้องต้อง “อุ้มพี่” จนปวดสะเอว

และใครกันแน่ เป็น “ตัวบูด” รัฐบาลปราบคอรัปชั่น จนประชาชนเรียกร้องให้ “ออกไป”
ตัวพี่หรือตัวน้อง?

ถ้าพี่ เป็นพี่แสนดี เบื่อหน่ายอำนาจจริง จดหมายไม่เสแสร้งดี ถามว่า เมื่อครบเทอมคสช.แล้วอยู่ต่อทำไม หือ?
อ้าง “น้องอยากอยู่ต่อ” จำต้องอยู่ช่วยน้อง

แต่ผมว่านะ….
พี่นั่นแหละ ต่อให้เอาช้าง ๑๐ เชือกมาลาก ถึงลำตัวพี่ขาด แต่มือพี่ ยังเป็นตีนตุ๊กแกเกาะคาเก้าอี้ เชื่อเหอะ!
อ้าง “อยู่ทำพรรคให้น้อง”

ก็น้องเขาไม่อยู่แล้วไง พี่ก็กลับบ้านซี อยู่ทำไมล่ะ?

ถ้าเก็บงำกระสันที่ซ่อนเร้นไม่สิ้นสุดไว้ในใจเงียบๆ ไม่ให้แก๊งหลี่กงกงเขียนจดหมายฉบับนี้ ก็จะไม่มีใครจับได้ว่า
ตัวพี่นั่นแหละ “อยากเป็นนายกฯ” จนตัวซี้-ตัวสั่น!

อย่าปฎิเสธเชียวนะ ท้ายจดหมายนี่ไง มันยัน

“…..พี่ไม่มีวันทอดทิ้งสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพราะพี่เป็นคนมีความรับผิดชอบ
พร้อมเดินนำทุกคนที่ความเชื่อมั่นในความตั้งใจแน่วแน่ขงผม เข้าสู่การเลือกตั้ง “ตามวิถีทางประชาธิปไตยต่อไป”
เพื่อกลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารบ้านเมืองอีกครั้ง”

“กระสันจนกระฉอก” ซะขนาดนี้ กล้าปฎิเสธมั้ย?
บิ๊กป้อมน่ะ ไม่มีเมีย แสดงว่าเขียนจดหมายจีบผู้หญิงไม่เป็น ตอนเป็นนายทหาร จดหมายเขาก็ร่างมา แค่เซ็นชื่อ

ฉะนั้น จดหมายฉบับนี้ ข้อความอย่างนี้ บิ๊กป้อมไม่ได้เขียนเองหรอก
แล้วใครเขียนให้ ผู้หญิงหรือผู้ชาย?

ไม่รู้ รู้แต่ว่า เนื้อหามาจาก “คณะบุคคล” ทั้งคณะบุคคลและคนเขียน คือกลุ่มคนที่ “ครอบงำ” บิ๊กป้อมเบ็ดเสร็จ
ชนิด ไม่สามารถปฏิเสธ ในสิ่งที่แก๊งนี้ทำ กระทั่งการอ้างนามบิ๊กป้อม!

ลีลาจดหมาย ปิดทองใส่หน้าผากบิ๊กป้อม สักเลขใส่หน้าบิ๊กตู่ พูดแต่ด้านให้คนเข้าใจว่า “บิ๊กตู่ทิ้งพี่-ทิ้งพรรค”
อะไรเป็นสาเหตุให้บิ๊กตู่ต้อง “หลีกทาง” ให้พี่…

ประเด็นนี้ ทำไมไม่พูดให้ชาวบ้านเขาฟังบ้างล่ะ?
ถามกันตรงๆ พรรคพลังประชารัฐน่ะ ไม่พูดถึงพลเอกประวิตร ระหว่างพลเอกประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ ของพรรค

กับพล.ต.อ.พัชรวาท, นฤมล, ไพบูลย์, วิรัช, กระทั่งธรรมนัส ใคร “มีอำนาจ” สั่งคนในพรรคได้?

ประยุทธ์ “นายกฯพรรค” ต่างเจว็ดหรือหัวตอของพรรคตรงไหน นี่คือสภาพจริงเขารู้กันทั้งเมือง

ถ้าเห็นหัวกันจริง…..
การที่สมาชิกพรรครวมหัวโหวตคว่ำนายกฯ พรรคตัวเองในสภา มันไม่เกิดขึ้นหรอก!

แล้ว “บิ๊กป้อม” ปล่อยให้ลูกพรรคทำกับนายกฯ ผู้เป็นน้องรักอย่างนี้ได้อย่างไร ถึงพูดได้ว่าไม่รู้ แต่ใครล่ะ จะเชื่อ?

พรรคเดียว ร้อยก๊ก พันแก๊ง ควบคุม-สั่งการใครไม่ได้ มีแต่ถูกขู่ ถ้าไม่ให้ตามที่ขอ จะโยนทิ้งในแต่ละวัน

ทนเสียชื่อเป็น “เจ้าสำนักโจร” ให้จนครบ ๔ ปี ไม่มีความดีในความเป็นพี่-เป็นน้องที่ควรเข้าใจกันเลยหรือ?

หรือนิยามคำว่า “พี่รักน้อง”
น้องต้องยอม “พะยี่ห้อ” ให้พวกพี่ใช้เป็นที่หากินไปจนตาย?

อันที่จริง ผมมันอยู่นอกแวดวง “อสัญแดหวา” แต่อย่างว่า อดเสือกไม่ได้
บิ๊กป้อม เขาบอกแล้ว ๓ ป.Forever ผมเชื่อ ๑๐๐%

อาจจะปรับทัศนคติ จาก ป.ป้อม-ป.ป๊อก-ป.ประยุทธ์
ไปเป็น ป.ป้อม-ป.ป๊อด-ป.แป้ง
ยั้งไง “พลังประชารัฐ” ก็ ๓ ป.เหมือนเดิมแหละน่า!

เปลว สีเงิน
๑๖ มกราคม ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
เมื่อคำวินิจฉัย “ไม่ตรงใจ” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ไม่น่าเชื่อ…. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ๔ บรรทัดครึ่ง ประเด็น “รัฐสภาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับได้หรือไม่” ซึ่งคำตอบ เคลียร์คัท-ชัดเจน ขนาดนั้น
Read More
0 replies on “รหัสลับ “จดหมายรัก” – เปลว สีเงิน”