เปลว สีเงิน
นับแต่ปีใหม่ ถ้าสังเกต….
จะเห็น “ตัวเปลี่ยนเกม” เกิดขึ้นในสังคมการบ้าน-การเมืองถี่ จนหายใจ-หายคอ แทบไม่ทัน!
“ตู้ห่าว” และ “ชูวิทย์”
เป็นตัวเปลี่ยนเกม “ตำรวจ-อัยการ” ต้องทำการบ้าน “สังคมเทา”
“คุณยายเนื่อม” เจ้าของธรณีสงฆ์อัลไพน์
เป็นตัวเปลี่ยนเกมคำนิยามการเมือง “ฝ่ายประชาธิปไตย”
“เล่นชู้ ไม่เกี่ยวเพื่อไทย”…..
เพราะตอนนี้ อดีตรองนายกฯ เสื้อแดง ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว
“ลุงตู่ “สวมเสื้อรวมไทยสร้างชาติ เป็นตัวเปลี่ยนเกม” แลนด์สไลด์” ในสนามเลือกตั้ง
เป็น “ประเทศไทยต้องไปต่อ” three time by Tuu!
นี่ “ปีใหม่” แค่ผ่านไป ๑๐ วันเองนะ
อีก ๒๐ วันที่เหลือของมกรา.อะไรจะเป็นปรากฎการณ์ “ตัวเปลี่ยนเกม” สังคมบ้านและการเมืองอีก
ก็อย่าเผลอกันเชียวนะ
ลืมตาตื่นขึ้นเช้าไหน ก่อนล้างหน้า โปรดเช็กเฟซ เช็กไลน์ก่อนจะกลายเป็น “ยายเฉิ่ม-ทิดเชย”!
มฤตยูสมสู่ราหู ตามสิทธิการิยะผมว่าเอง จะเป็นตัว “เร่งเกม” ประเภท “เช็กบิลก่อน” แล้วค่อยกินทีหลัง
ฉะนั้น อะไรที่ไม่คิด-ไม่ฝัน ระยะนี้ มันจะมีมาแบบปุบปับ ชนิดไม่กระแอมให้รู้ตัวล่วงหน้า
“อยัมภะทันตา” คือกรรมมาสนองกันเห็นๆ ตอนนี้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า ดี-ขึ้นสวรรค์, ชั่วช้า ลงนรก!
ฉะนั้น ….
จงเฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เข้าใจบ่?
พลเอกประยุทธ์จะสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย เป็นนายกฯ ติดต่อกัน ๓ สมัย ๑๐ ปีต่อเนื่องกันได้หรือไม่?
ไม่มีโพล ไม่มีเกจิสื่อ ไม่มีกูรูนักวิชาการ “ขาประจำ” หน้าจอไหน ฟันธงว่า นายกฯ ประยุทธ์จะฝ่าแลนด์สไลด์ลูกสาวนายใหญ่ได้สำเร็จ
กระทั่งคนในวงข้าราชการและนักธุรกิจ-พ่อค้าที่นิยมซื้อความสะดวก บอกว่า พลเอกประยุทธ์อยู่ …กินยากฉิบ
เพราะอย่างนั้น
“ต้นทุนโกง” มันจึงสูง เพราะต้องบวกค่าความเสี่ยงเข้าไปด้วย อัตราการจ่าย-การรับ จึงแพงกว่าก่อนๆ
ลึกๆ จึงไม่อยากให้ลุงตู่อยู่ต่อ
สู้ประเภท “โกงมาแบ่งกัน” ไม่ได้ ทั้งผู้รับและผู้ให้ แค่มองตาก็รู้ทั้งใจ รู้ทั้งราคา แถมไม่ต้องกลัวใคร เพราะนโยบายโกงมันชัดเจน
เป็นงั้นไป!?
ฉะนั้น ที่อยากเห็นปฎิรูปแบบปฎิวัติ “ระบบราชการ” ต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายโน่นแหละ บางที อาจได้เห็น
ที่เราๆ รวมทั้งคุณชูวิทย์ เร่งเร้าให้ล้างบางระบบราชการ โดยเฉพาะตำรวจนั้น
เป็นที่เข้าใจได้ และควรต้องเป็นอยางนั้้นในสังคมอุดมการณ์ บนฐานจินตนาการมานานแล้ว
แต่ในสังคมจริง มันทำไม่ได้เร็วและรวบรัดดังใจอยากเพราะกฎระเบียบในสังคมราชการบนฐานคำว่า “ความเป็นธรรม” กับทุกฝ่าย
มันไม่ต่าง “ทางเดินหอยทาก” ที่วัน-เวลาในระบบราชการ คือเวลาสวรรค์ ๕๐-๑๐๐ ปี เท่ากับ ๑ วัน โลกมนุษย์!
เอะอะทุบโต๊ะ รวบรัด คนที่คุก ไม่ใช่คนโกง
“คนปราบโกง” นั่นแหละคุกก่อน!
พูดกันตรงๆ เลยนะ คนที่ไม่เคยบริการปกครองคนมากๆ ไม่รู้หรอกว่า
ยากที่สุดในโลก ไม่ใช่บริหารคน
หากแต่คือ “บริหารหัวใจคน”!
ไม่ต้องถึงระบบราชการหรอก แค่เราเป็นนายจ้างคนซักร้อย-ครึ่งร้อย ก็อย่านึกว่าบริหารคนแค่นั้น มันจะง่ายเหมือนในหนัง-ในละคร
ที่ไม่พอใจใคร เอะอะไล่ออกนั่นน่ะ
ต้องรู้ด้วย กฎหมายคุ้มครอง “ลูกจ้าง” มากกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับนายจ้าง
ยิ่งระดับประเทศ กับคนในระบบราชการเป็นล้านๆ คน อย่างที่สั่งการกันตามโซเชียล เป็นข่าวปุ๊บ “ไล่มันออกไป” ปั๊บนั่นน่ะ
ต่อให้เทวดามาเป็นนายกฯ ก็ต้องเข้าคอกจำเลย ก่อนที่คนโกงจะตกเป็นจำเลย!
อำนาจบริหารนั้น ไม่ดี-ไม่เลว
“จะดี-จะเลว” มันอยู่ที่คนใช้อำนาจ
ฉะนั้น สรุปให้ลงตัวไปไม่ได้หรอกว่า คนๆ หนึ่ง อยู่ในอำนาจนานๆ ดีหรือไม่ดี?
มันอยู่ที่คนๆ นั้น ดีหรือไม่ดี มากกว่า
ผมเคยถามอาจารย์มีชัย เรื่องมาตรา ๑๕๘ เรื่องนายกฯ ๘ ปี ว่าตัดวรรคนี้ออกได้มั้ย?
อาจารย์มีชัยตอบว่า รัฐธรรมนูญเราไม่ได้ร่างมาเพื่อคนใด-คนหนึ่ง เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคนไหนดี คนไหนไม่ดี ที่เข้ามาเป็นนายกฯ
ฉะนั้น จึงต้องมีจุดกึ่งกลาง ๘ ปี เป็น “ความพอดี” ในอำนาจของคนๆหนึ่ง ทางบริหารเอาไว้
ก็นับว่า “เป็นเหตุ-เป็นผล”!
อย่างนายกฯ ประยุทธ์ เป็นกรณีตัวอย่าง มีสิทธิ์เหลือเพียง ๒ ปีในตำแหน่งนายกฯ บางคนบอก ควรพอแล้ว แบบป๋าเปรม
แต่ชาวบ้านอีกส่วน เท่าที่ฟังจะเป็นเสียงส่วนมากเสียด้วย สนับสนุนและเรียกร้อง
ให้พลเอกประยุทธ์อยู่ต่อ เป็นสมัยที่ ๓!
พวกที่บอก “พอแล้ว” คือพวกที่กลัว ถ้านายกฯ ประยุทธ์ลงมาแข่งขัน พวกเขาอาจต้องอดอยากปากแห้ง เป็นเสือหิว-หมาโหยต่อ อย่างน้อยอีก ๒ ปี
ส่วนที่อยากให้เป็นต่อ นั่นเพราะเห็นความเปลี่ยนแปลงของประเทศในทางพัฒนาการดีขึ้นทุกระบบ จึงอยากให้อยู่สานงานต่ออีกระยะ
ในความหมาย อย่างที่นายกฯ ประกาศบนเวทีวานซืน
“เพื่อให้ประเทศไปต่อ….
ไม่ใช่เพื่อให้นายกฯไปต่อ”!
นั่นเพราะ นายกฯ ที่ดี ๘ ปี จึงดูแป๊บเดียว เมื่อเทอมเวลายังเหลืออีก ๒ ปี จึงอยากให้อยู่ใช้เวลาที่เหลือนั้น
ทำให้ “ประเทศไปต่อ” จนสิ้นสุดทางเลื่อน!
แล้วนายกฯ เอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ประชาชนจะศรัทธาแห่กันฝังกลบระบบแม้ว แล้วเทคะแนนให้ลุงตู่?
อันนี้เป็นทฤษฎีตรรกะใจมนุษย์ ……….
เมื่อนายกฯ ศรัทธาในประชาชน ประชาชนก็ย่อมศรัทธาตอบนายกฯ
เพราะผลงานที่นายกฯ ทำในรอบ ๘ ปี อันมีผลตกถึงชาวบ้าน นั้นคือความจริงใจที่จับต้องได้
แล้วสัมผัสไหนของมนุษย์ล่ะ ที่จะจับต้องได้เท่า “สัมผัสใจต่อใจ” ระหว่างนายกฯ ผู้กระทำให้ และชาวบ้านผู้ได้รับผลจากการกระทำนั้น
ฉะนั้น “ลุงตู่” แค่ผู้อาสาและมาเสนอตัว
ส่วนจะเอาไม่เอา อยู่ที่ “ประชาชน” จะตัดสินใจ และการตัดสินใจนั้น เป็นการตัดสินประเทศกรายๆ
ว่าประชาชนจะให้ไปต่อ
หรือหยุดยั้งการพัฒนาตามแนวทางที่ลุงตู่แผ้วถางมา ๘ ปี ไว้เพียงแค่นี้
ประชาธิปไตยเลือกตั้ง เพื่อประชาชน มันก็ง่ายๆ เช่นนี้
แต่ที่มันซับซ้อน
เพราะมีฝ่ายต้องการใช้เลือกตั้งเป็นฐานอำนาจ สู่ปฎิบัติการ “เปลี่ยนระบบ-ล้มสถาบัน”
นั่นละ “เป้าหมาย”!
เปลว สีเงิน
๑๑ มกราคม ๒๕๖๖