ปังไม่ไหว!! จากข้าวหลามงานวัด สู่ตลาดค้าส่งระดับประเทศ!

จากข้าวหลามงานวัด สู่ตลาดค้าส่งระดับประเทศ! กับการดูแลกิจการของทายาท รุ่น 3 “พรชนก เหลืองรุ่งทรัพย์”
ต้องบอกเลยว่า… ปังไม่ไหว สำหรับข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง (เจ้าแรกดั้งเดิม) สุพรรณบุรี ซึ่งล่าสุดทายาทรุ่นที่ 3 “พรชนก เหลืองรุ่งทรัพย์” เข้ามาดูแลรับช่วงบริหารธุรกิจต่อจากครอบครัว ทำยอดขายสุดปังกว่าหนึ่งหมื่นกระบอกต่อวัน

พรชนก เหลืองรุ่งทรัพย์ หรือ กุ๊ก ทายาทธุรกิจ รุ่น 3 ข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง กล่าวว่า เดิมตนเองเป็นคนชอบทำอาหาร ประกอบกับครอบครัวมีกิจการขายข้าวหลาม ซึ่งเป็นกิจการที่ริเริ่มมาตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยาย ตนจึงตัดสินใจเลือกเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีทางด้านการจัดการโรงแรมและภัตตาคาร มหาวิทยาลัยรังสิต

ภายหลังเรียนจบจึงได้เข้ามารับช่วงดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อคุณแม่เป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว โดยได้นำความรู้จากการเรียนทั้งด้านอาหารและการบริการให้ครองใจลูกค้ามาใช้ในการดูแลธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Service Mind การจำหน้าลูกค้าได้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การเรียกลูกค้าที่ดีของเรา ลูกค้าเดินผ่านมาเราก็จะยิ้มก่อนเลย เมื่อเขาจำเราได้ ก็จะกลับมาซื้อสินค้าเรา ขณะเดียวกันเราเองต้องเข้ามาดูแลบริหารจัดการทุกอย่าง โดยเข้ามาที่หน้าร้านทุกวัน

จากข้าวหลามงานวัด สู่ตลาดค้าส่งระดับประเทศ

หากถามว่าอะไรที่ข้าวหลามเจ๊สองพี่น้องครองใจผู้บริโภคมายาวนานกว่า 20 ปี นั่นคือ เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบ รวมถึงการใส่ใจทุกรายละเอียดของสินค้าในทุกขั้นตอน สมัยก่อนคุณตาคุณยายเริ่มทำข้าวหลามขายตามงานวัดจากจำนวนไม่มาก และค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นเมื่อคุณพ่อคุณแม่มาดูแลกิจการต่อ

ซึ่งได้นำข้าวหลามไปเปิดตลาดใหม่ที่ตลาดค้าส่งสี่มุมเมือง ทำให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นธุรกิจหลักของครอบครัว เราเองซึ่งเติบโตและผูกพันมากับธุรกิจนี้ เป้าหมายในการทำงานเราจึงชัดเจนขึ้นในการที่จะสานต่อกิจการของครอบครัวให้ก้าวหน้าต่อไป ด้วยการรักษาคุณภาพและมาตรฐานในการผลิตมาตลอด เน้น ความอร่อย สด ใหม่ จึงทำให้ข้าวหลามเจ๊สองพี่น้องติดตลาด มีลูกค้าเยอะตลอด เราแทบไม่ได้ทำการตลาด หรือทำโปรโมชันเลย แต่ก็มียอดขายกว่า 10,000 กระบอกต่อวัน

“จุดเด่นข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง คือ มีความสด ใหม่ทุกวัน คงคุณภาพ ไม่เคยลดปริมาณวัตถุดิบ ถึงแม้ว่าวัตถุดิบจะมีราคาที่สูงขึ้น ด้วยข้าวหลามที่เรานำมาจำหน่ายในตลาดค้าส่ง ใช้ปริมาณเยอะ จึงใช้กรรมวิธีในการต้มมากกว่าการเผา ซึ่งสะดวกมากกว่าเป็นสูตรดั้งเดิมที่เราทำมาตลอด สำหรับอนาคตมีแผนในการที่จะทำเป็นข้าวหลามแบบฟรีซ เพื่อที่จะสามารถเป็นสินค้าที่ส่งไปขายต่างจังหวัด และตอนนี้กำลังศึกษาข้อมูลในหลายส่วนอยู่” พรชนก กล่าว

ทำสิ่งที่รัก = ความสุข

“หากถามว่าวันนี้อะไรคือสิ่งที่เป็นความสุขในชีวิต บอกเลยว่า การได้ขายของ ได้มาเจอได้บริการลูกค้า และสามารถดูแลทุกคนในครอบครัวได้โดยใช้ธุรกิจนี้ ก็ถือว่าชีวิตมีความสุขและประสบความสำเร็จแล้ว เพราะเชื่อว่า บางทีความสำเร็จก็เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ ได้ทำในสิ่งที่เรารัก ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ก้าวไป เดี๋ยวก็จะประสบความสำเร็จได้ในสักวัน” พรชนก กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับใครที่สนใจอยากลองทางข้าวหลามเจ๊สองพี่น้อง (สูตรดั้งเดิม) สุพรรณบุรี สามารถแวะไปซื้อได้ที่สาขาตลาดสี่มุมเมือง โซนสินค้าแปรรูป ซอย 2 (เปิดจำหน่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสาขาตลาดไทย (เปิดตั้งแต่ตี 2- 8 โมงเช้า)

เรียกว่าสุดปังขนาดนี้ อนาคตเราคงต้องรอดูความสำเร็จในการส่งข้าวหลามไปขายต่างประเทศกันบ้าง เป็นกำลังใจให้กับเถ้าแก่น้อยคนใหม่ด้วย

Written By
More from pp
นายกฯ กล่าวเนื่องใน “วันแพทย์” ปี 65 ชื่นชมหัวใจที่เข้มแข็งของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่อุทิศตนปฏิบัติภารกิจในการรับมือกับโรคโควิด-19 ด้วยความเสียสละ
นายกฯ กล่าวเนื่องใน “วันแพทย์” ปี 65 ชื่นชมหัวใจที่เข้มแข็งของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่อุทิศตนปฏิบัติภารกิจในการรับมือกับโรคโควิด-19 ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท ร่วมกันก้าวข้ามผ่านวิกฤตการณ์ จนประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ
Read More
0 replies on “ปังไม่ไหว!! จากข้าวหลามงานวัด สู่ตลาดค้าส่งระดับประเทศ!”